ตลาดรถยนต์ 8 เดือน เติบโตครั้งแรก 0.1% ลุ้น 6 แสนปีนี้ HEV ขยายตัว 26%

ตลาดรถยนต์ไทยปี 2567 ที่ผ่านมา มียอดขายรวม 5.7 แสนคัน ขณะที่ปี 2568 หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะติดลบต่อเนื่อง หลังจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายยังมีทิศทางขาลง แม้ยอดขายรายเดือนบางเดือนจะกระเตื้องมียอดขายเติบโตขึ้นมาบ้างก็ตาม แต่ยอดสะสมนั้นติดลบมาโดยตลอด จนกระทั่งล่าสุดพบว่าเติบโตเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตามแม้ช่วงที่ผ่านมายอดขายสะสมจะติดลบ แต่หลายคนก็ยังมองว่าปีนี้ตลาดมีโอกาสเติบโตขึ้นไปในระดับ 6 แสนคัน จากการเห็นว่าทิศทางตลาดครึ่งหลังปีนี้ดูดีกว่าครึ่งปีหลัง 2567 ที่ตลาดติดลบรุนแรงกว่าครึ่งปีแรก 2567

และนี่นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้สิ่งที่หลายคาดหวังตัวเลข 6 แสนคัน อาจจะเป็นจริงได้ 

ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์เดือนสิงหาคม 2568 ตลาดรวม 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว แบ่งเป็น

• ตลาดรถยนต์นั่งยอดขาย 18,168 คัน ลดลง 0.7% 
• รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (รวมกลุ่มปิกอัพ) ยอดขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3% 
• รถปิกอัพ 1 ตัน ยอดขาย 14,599 คัน ลดลง 2.5%

และในภาพรวมตลาดรถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 11,230 คัน เพิ่มขึ้น 26% และมียอดขายสะสม 8 เดือนแรก 89,598 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 50.6% ของตลาด xEV ทั้งหมด

ศุภกรกล่าวว่าในส่วนโตโยต้า ยังคงครองอันดับ 1 ด้วยยอดขายสะสม 8 เดือน149,328 คัน ส่วนแบ่งตลาดที่ 37.3% 

รถที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Toyota Yaris ATIV ที่มียอดขาย 35,017 คัน และ Hilux REVO 25,182 คัน 

ขณะที่รถใหม่ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้อย่าง Yaris ATIV HEV พบว่าตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึงวันที่ 24 กันยายน มียอดขายมากกว่า 3,700 คัน 

ขณะที่รถพลังไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) bZ4X ที่เปิดรับจองสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเปิดตัว พบว่ามีผู้ลงทะเบียน 1,890 คัน ณ วันที่ 26 กันยายน 2568

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์เดือนกันยายน มีแนวโน้มทรงตัว จากการที่ผู้บริโภครอความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลใหม่ ที่อาจทำให้ตัดสินใจชะลอการซื้อ รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย

สำหรับ 3 อันดับ ยอดขายในเดือนสิงหาคม 2568 

ตลาดรถยนต์รวม 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4%

• โตโยต้า 17,279 คัน ลดลง 3.2% ส่วนแบ่ง36.3%
• อีซูซุ   5,581 คัน ลดลง 9.2% ส่วนแบ่ง11.7%
• ฮอนด้า 5,557 คัน เพิ่มขึ้น 11% ส่วนแบ่ง11.7%

รถยนต์นั่ง 18,168 คัน ลดลง 0.7%

• โตโยต้า 5,892 คัน เพิ่มขึ้น 6.1% ส่วนแบ่ง 32.4%
• ฮอนด้า 3,056 คัน ลดลง  7.5% ส่วนแบ่ง16.8%
• บีวายดี 1,379 คัน ลดลง 36.5% ส่วนแบ่ง 7.6%

รถเพื่อการพาณิชย์ (รวมกลุ่มปิกอัพ) 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3%

• โตโยต้า 11,387 คัน ลดลง 7.3% ส่วนแบ่ง 38.7%
• อีซูซุ 5,485 คัน  ลดลง 9.2% ส่วนแบ่ง 18.9%
• ฮอนด้า 2,501 คัน เพิ่มขึ้น 46.9% ส่วนแบ่ง 8.5%

รถปิกอัพ 11,023 คัน ลดลง 10.4%

• โตโยต้า5,457 คัน ลดลง 12.9% ส่วนแบ่ง 49.5%
• อีซูซุ 3,940 คัน ลดลง 4.3% ส่วนแบ่ง 35.7%
• ฟอร์ด 960 คัน เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนแบ่ง 8.7%

รถพีพีวี  3,576 คัน

• โตโยต้า 1,162 คัน 
• เกรท วอลล์ มอเตอร์ 973 คัน 
• อีซูซุ 796 คัน

 

ยอดจำหน่ายสะสมเดือน มกราคม-สิงหาคม 2568  

ตลาดรถยนต์รวม 399,945 คัน เพิ่มขึ้น 0.1%

• โตโยต้า 149,328 คัน ลดลง 1.7% ส่วน 37.3%
• อีซูซุ 48,572 คัน ลดลง 17.9%  ส่วนแบ่ง 12.1%
• ฮอนด้า 45,917 คัน ลดลง 14.9% ส่วนแบ่ง 11.5%

รถยนต์นั่ง 154,766 คัน เพิ่มขึ้น 0.4%

• โตโยต้า 51,931 คัน เพิ่มขึ้น 17.7% ส่วนแบ่ง 33.6%
• ฮอนด้า 25,622 คัน ลดลง 16.1% ส่วนแบ่ง 16.6%
• บีวายดี 13,837 คัน ลดลง 7.3% ส่วนแบ่ง 8.9%

รถเพื่อการพาณิชย์ (รวมกลุ่มปิกอัพ) 245,179 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%

• โตโยต้า  97,397 คัน ลดลง 9.6% ส่วนแบ่ง  39.7%
• อีซูซุ 48,572 คัน ลดลง 17.9% ส่วนแบ่ง 19.8%
• ฮอนด้า 20,295 คัน ลดลง 13.2% ส่วนแบ่ง 8.3%

รถปิกอัพ 96,046 คัน ลดลง 16.5%

• โตโยต้า 46,260 คัน ลดลง 16.5% ส่วนแบ่ง 48.2%
• อีซูซุ 34,172 คัน ลดลง 21.4% ส่วนแบ่ง 35.6%
• ฟอร์ด 7,619 คัน ลดลง 16.9% ส่วนแบ่ง 7.9%

พีพีวี  28,110 คัน

• โตโยต้า 9,562 คัน 
• อีซูซุ 7,883 คัน 
• ฟอร์ด 4,812 คัน