นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

นิสสัน เซเรน่า (Nissan Serena) ถือว่าเป็นเอ็มพีวี ของนิสสัน ที่กำลังไปได้ค่อนข้างน่าพอใจ กับสภาพตลาดและเศรษฐกิจแบบนี้ ไปดูกันว่ารถคันนี้จะน่าใช้แค่ไหน

ในงานมหกรรมยานยนต์  หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ปี 2567 ที่ผ่านมา สำหรับนิสสัน จะเรียกว่าฉีกกฎการตลาดที่เคยเห็นกันมาก็ว่าได้ เมื่อนิสสัน เปิดตัว เซเรน่า เอส ไฮบริด (Serena S Hybrid) รหัส C27 ซึ่งเป็นโฉมเก่า แต่บนเวทีเดียวกันมีโฉมใหม่ รหัส C28 คือ เซเรน่า อี-พาวเวอร์ (Serena e-Power) มาจอดเคียงข้างกัน 

ก็แฟร์ ๆ ดีครับ จะขายรุ่นเดิม แต่บอกให้ลูกค้าได้รับรู้ว่าอีกไม่นานโฉมใหม่จะเปิดตัวตามมา ดังนั้นก็เปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกที่จะซื้อเลยหรือจะรอ 

คือถ้าใครอยากรับรถเร็ว และราคาต่ำกว่า ก็ซื้อเอส ไฮบริด ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากสายการผลิตในมาเลเซียได้เลย ส่วนใครที่พร้อมจ่ายเพิ่มขึ้นและรอรถได้ ก็รอ ซี 28

โดย อี-พาวเวอร์ ก็เปิดตัวหลังจากนั้นไม่นานนัก ในเดือน มีนาคม 2568 กับต่าราคา 1.69 ล้านบาท ขณะที่ เอส ไฮบริด เปิดตัวในราคา 1.469 ล้านบาท 

แต่ปัจจุบันนิสสัน ปรับราคา เอส ไฮบริด ลงมาอยู่ที่ 1.429 ล้านบาท เพื่อทำให้ช่องว่างราคากับ อี-พาวเวอร์ ถ่างออกไปมากขึ้น เป็น 2.61 แสนบาท เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้นหากมีใจอยากได้ เอส ไฮบริด  

แต่เอาเข้าจริง ปัจจุบันลูกค้านิยม เซเรน่า อี-พาวเวอร์ มากกว่า ดูได้จากตัวเลขการส่งมอบที่ล่าสุดส่งมอบไปแล้ว 1,300 คัน และยังมีแบ็ค ออเดอร์ อีกราว 600 คัน ขณะที่ เอส-ไฮบริดมียอดส่งมอบประมาณ 700 คัน 

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หลายคนจะยอมจ่ายเพิ่ม แลกกับความสดใหม่ รวมถึงเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ที่วันนี้ลูกค้ารู้จักและยอมรับเทคโนโลยีเป็นอย่างดีแล้ว ว่าจะได้อารมณ์ไม่ต่างจาก อีวี เพราะใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน 100% ส่วนเครื่องยนต์มีหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าเท่านั้น

พูดถึงตัวเลขยอดจำหน่ายของเซเรน่า ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีของนิสสันที่ในช่วงตลาดตึง ๆ ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และตวามตึงของตัวผลิตภัณฑ์เอง นิสสันจึงปรับแผนในช่วงปลายปี โดยจะห้นมาเน้นเพิ่มความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น รวมถึงการเปิดตลาดในกลุ่มใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำตลาดมาก่อน 

ซึ่งเซเรน่า เป็นรุ่นแรกของการปรับแผนครั้งนี้ หลังจากที่ปล่อยให้ผู้นำเข้าร่ายย่อยกินตลาดมาหลายปี  และเป็นที่ถูกใจของลูกค้าหลายคน

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

เมื่อไม่วันมานี้ ผมลองขับ เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ที่ สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช กับเส้นทางหลากหลาย ยอมรับว่า อี-พาวเวอร์ ทำได้ดี มอเตอร์ไฟฟ้าตอบสนองได้ลื่นไหล การขับขี่ที่เปลี่ยนความเร็ว จังหวะการการเพิ่มความเร็ว การเร่งแซง เรียกกำลังมาได้อย่างต่อเนื่อง

อารมณ์ของรถ การใช้คันเร่งให้ความรู้สึกดีเมื่อค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักลงไปที่คันเร่ง ไม่ต้องรุนแรงกับมัน และเมื่อความเร็วขยับขึ้นจากความเร็วที่ใช้ปกติ มันจะไหลมาอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น ซึงดีสำหรับรถประเภทนี้ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ที่มีผู้โดยสารหลายคน ที่น่าจะชื่นชอบกับอารมณ์แบบนี้ คือ นุ่มนวล

และถ้าหากผู้ขับขี่อยากได้การตอบสนองที่กระฉับกระเฉงมากขึ้นก็เลือกใช้โหมด Sport (มี3 โหมด Eco, Normal, Sport) ซึ่งปุ่มเลือกโหมดอยู่ที่คอนโซลหน้าด้านขวามือของผู้ขับขี่ 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

ผมชอบอารมณ์ของโหมด Sport นะ มันตอบสนองที่ว่องไวขึ้นเมื่อเทียบกับ Normal แต่ยังให้ความนุ่มนวล และลื่่นไหลที่ดี ไม่กระโชกโฮกฮาก ซึ่งก็เหมาะกับรถประเภทนี้ 

ส่วนอัตราสิ้นเปลือง อีโค สติกเกอร์ระบุไว้ที่ 19.6 กม./ลิตร ส่วนการลองขับผมว่าทำได้น่าพอใจ กับการขับแบบผสมผสาน ทั้งเส้นทางที่หลากหลาย ความเร็วที่สอดคล้องไปกับเส้นทางจริง เป็นการเดินทางจริง มีผู้โดยสารรวม 5 คน กับสัมภาระอีกกองใหญ่ จากสุราษฎร์ไปแวะทานข้าวที่เขาพลายดำ นครศรีธรรมราช ผ่านถนนเลียบทะเลสวยงาม คดโค้ง ได้ตัวเลข 16.2 กม./ลิตร

ถือว่าอัตราสิ้นเปลืองกับใช้งานจริงนี่ทำได้ดี เมื่อเท่ียบกับเส้นทาง ความเร็วที่ใช้ และน้ำหนักบรรทุกโดยรวม

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

มาดูกันที่อารมณ์ขับขี่โดยรวมของรถ ซึ่งเซเรน่า อี-พาวเวอร์ นั้นมาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่น บีม คอยล์สปริง 

ช่วงล่างนี่ใช้ได้เลยครับ รถในรูปแบบ เอ็มพีวี มีความสูงของตัวถัง 1,870 มม. แต่การโยนตัวของตัวถัง การให้ตัวมีน้อย สามารถควบคุมในช่วงทางเขาทางโค้งได้ไม่ยาก เอาเป็นว่าไม่ใช่แค่เดินทางได้ แต่ยังขับได้สนุก สามารถรีดจุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าออกมาใช้กับเส้นทางแบบนี้ได้ 

ขณะที่การขับขี่ในเส้นททางหลักทั่ว ๆ ไป รถนิ่ง แม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูงก็ตาม

 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

มอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous

  • กำลังสูงสุด 163 แรงม้า/3,700-8,600 รอบต่อนาที
  • แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร/3,600 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์  3 สูบ DOHC 1,433 ซีซี

  • กำลังสูงสุด 98 แรงม้า/5,600รอบต่อนาที
  • แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร/5,600 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction

 

ดังนั้นสรุปได้ว่าเป็นรถที่ขับแล้วไม่เหนื่อยครับ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ทางใกล้หรือทางไกลก็ตาม บวกกับจุดเด่นอีกอย่างคือ มุมมองของผู้ขับขี่ที่เห็นได้กว้างได้ไกล เป็นรถที่มีทัศวิสัยดี โดยเฉพาะมุมมของผู้ขับขี่ที่โดดเด่นมาก จากกระจกบังลมหน้าที่หากพูดกันเล่นๆ ว่าจะกว้างไปไหน

บวกกับกระจกหน้าต่างคู่หน้าที่กว้าง และโปร่งโล่งเช่นกัน เสาเอ ก็ออกแบบให้ไม่รบกวนสายตา ทำให้เป็นรถที่มีทัศนวิสัยที่ดี 

ไม่แปลกใจที่มันเป็นหนึ่งในรถที่แม่บ้านญี่ปุ่นนิยม เพราะการขับขี่ในเมืองที่จราจรหนาแน่น การเห็นได้กว้าง ได้ไกล ทำให้ผ่อนคลาย ไม่อึดอัด

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ กระจกหน้าต่างของเบาะนั่งแถว 2 เองก็มีขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ส่วนกระจกสำหรับเบาะแถว 3 เล็กกว่าเขาหน่อย แต่ผมไปลองนั่งมาแล้ว ก็ไม่อึดอัดครับ กระจกด้านข้างเปิดโอกาสให้ชมวิวทิวทัศน์ 2 ข้างทางได้ 

ถ้าซื้อมาเป็นรถใช้งาน เดินทางท่องเที่ยว เดินทางไกลสำหรับครอบครัวหรือองค์กร เรื่องของมุมมอง น่าจะเหมาะ 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

สำหรับกระจกหน้า และกระจกประตูคู่หน้าเป็นแบบอคูสติก ทำให้ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดี โดยเฉพาะเบาะคู่หน้า ส่วนแถว 2 และแถว 3 ที่ตำแหน่งนั่งอยู่บนล้อหลังมีเสียงเข้ามาบ้าง แต่ไม่มาก ถือว่าเด่น

และการเดินทางจริง คนนั่งเบาะ 3 สามารถคุยกับผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารด้านหน้าได้แบบไม่ต้องตะโกนคุยกัน อาจจะเพิ่มระดับเสียงขึ้นเล็กน้อยตามระยะห่าง 

แต่ว่ามันจะมีอยู่ช่วงจังหวะหนึ่งที่ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง บวกลบ จะมีเสียงให้น้องโดยสารเล็กน้อย คล้ายกับเสียงคลื่นที่มันกวนกัน แต่ไม่ดังนัก และเป็นช่วงสั้น ๆ  เรียกว่าไม่ก่อปัญหาอะไร  และถ้าเปิดเครื่องเสียงก็จบกัน

ซึ่งจะว่าไป ระบบเสียงคุณภาพดีใช้ได้

การขับ เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ยังมีโหมด B มาให้ เป็นทางเลือกเช่นการขับเส้นทางภูเขา หรือจะเลือกโหมด e Padal ที่ใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียวควบคุมการเพิ่มหรือชะลอความเร็วก็สะดวกดีกับเส้นทางแบบนี้ และเลือกใช้สะดวกกับปุ่มที่แยกออกมาให้เลือกกดใช้ได้เลย และทำงานในทุกโหมดขับเคลื่อน 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

เกียร์เป็นแบบปุ่มกด และยังมีโหมดปลดเกียร์ว่างเมื่อจอดมาให้ ซึ่งอันนี้ดี เพราะบ้านเราโดยเฉพาะในเมือง บางทีก็เลี่ยงยากที่จะต้องจอดแบบซ้อนคัน หรือจอดขวาง

โดยรวมสำหรับการขับขี่ทั้งด้านกำลัง การควบคุม อัตราสิ้นเปลือง สอบผ่านในระดับคะแนนดี แต่ถ้าถามว่าอยากได้อะไรเพิ่ม ก็คงเป็นน้ำหนักพวงมาลัย เข้าใจว่าเซ็ทมาให้ขับง่ายโดยเฉพาะถ้าขับขี่ในเมือง เข้าออกขึ้นลงอาคารจอดรถเบาแรงมาก 

และการขับที่ใช้ความเร็วสูงก็ยังนิ่ง จับแบบหลวม ๆ สบาย ๆ แต่ก็ยังอยากได้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น มีแรงหน่วงมากขึ้นในช่วงการเข้า-ออกโค้ง ซึ่งจะเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในการขับขี่ แม้จะไม่ใช่รถสปอร์ตก็ตาม

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

เซเรน่าเป็นเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ขนาดกลาง ๆ  ความยาวตัวถัง 4,765 มม. ความกว้าง 1,715 มม. ส่วนความสูงใต้ท้องรถ 135 มม. ซึ่งเท่า ๆ กับรถยนต์นั่งทั่วไป ซึ่งก้มีผลกับเรื่องของศูนย์ถ่วงและการควบคุมรถ และความสะดวกในการขึ้นลง โดยเฉพาะเบาะนั่งแถว 2 ที่เป็นประตูบานเลื่อน ควบคุมด้วยไฟฟ้า เปิดกว้าง 

เป็นรถที่ผมว่าตอบสนองลูกค้าได้หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน ขับใช้งานคนเดียว เพราะรถไม่ได้ใหญ่เกินไป โดยมีพื้นที่เหลือเผื่อเอาไว้ใช้ด้านอื่่น ๆ เช่น พาเพื่อนฝูงไปทานข้าว ขนจักรยานยนต์ไปปั่นออกกำลังหล้งเลิกงาน หรือเอาง่าย ๆ เมื่อต้องบรรทุกสัมภาระบางอย่าง ก็ขนขึ้นลงได้สะดวกกว่ารถเก๋งทั่วไป 

เรียกว่าเป็นคนที่เบื่อรถในรูปแบบซีดาน

หรือจะเป็นกลุ่มองค์กร ใช้เป็นรถใข้งานภายใน รถผู้บริหาร หรือเป็นรถครอบครัวขนาดย่อม ๆ หรือ กลาง ๆ ก็เหมาะครับ 

เพราะจะได้ประโยชน์ใช้สอยจากห้องโดยสารเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหลังที่สูง นั่งไม่อึดอัด เข้าออกสะดวก ขนสัมภาระชิ้นใหญ่ ๆ สูง ๆ ได้ จากความสามารถในการปรับเบาะได้ 13 รูปแบบ 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

และไม่ต้องกลัวว่ามันจะบดบังทัศนวิสัยด้านหลัง บังกระจกมองหลัง เพราะนิสสัน เซเรน่า มีออปชั่นอย่า มี IRVM หรือการแสดงภาพด้านหลังผ่านกล้องที่กระจกมองหลังมาให้ใช้งาน 

ส่วนการพับแถวที่ 3 ซึ่งพับได้ทั้งแบบแบบราบหรือพับแล้วแขวนไว้ด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่เชิงลึกตรงกลาง แขวนแล้วไม่บดบังกระจกหลังครับ 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

เบาะนั่ง คู่หน้านั่งได้สบาย เบาะคู่กลางที่เป็นพระเอกเป็นแบบกัปตัน ซีท แยกซ้ายขวา สามารถเดินผ่ากลางระหว่างเบาะไปแถว 3 ได้ ออกแบบให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ เลื่อนซ้าย ขวาได้ และมีโต๊ะพับได้ติดตั้งไว้หลังเบาะคู่หน้า  พร้อมที่วางแก้วที่ละ 2 ตำแหน่ง

พูดถึงที่วางแก้ววางขวด เซเร่น่า ออกแบบมารองรับการเดินทางจริง ๆ เพราะมีรวม 17 ตำแหน่ง และมีจุดช่องเชื่อมต่อยูเอสบีรวม 6 จุด เป็น ไทป์ ซี 5 จุด และ ไทป์ เอ อีก 1 จุด พร้อมที่ชาร์จไฟแบบไร้สาย 1 ตำแหน่ง

เบาะแถว 2 ยังมีม่านบังแดดให้ด้วย และแน่นอนเพิ่มความสะดวกเข้า-ออก กับประตูบานเลื่อนไฟฟ้า 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

เบาะนั่งแถวที่ 3 มีโต๊ะพับได้มาให้เช่นกัน ติดตั้งไว้หลังเบาะคู่กลาง ตัวเบาะกว้างใช้ได้ พนักพิงกว้าง ปรับเอนได้ รองรับร่างกายได้ดี โดยรวมก็รองรับผู้ใหญ่ได้ นั่งใกล้ ไกล ได้ แต่เขาจะยกชันขึ้นมาสักนิด ต้องขยับเป็นบางช่วงเวลา ผมคิดถ้าปาดเบาะในส่วนที่รองก้นลงลึกไปสักหน่อย จะทำให้ด้านหน้ารองรับต้นขาได้ ก็น่าจะดี 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยก 3 โซน ระบบฟอกอากาศแบบ Plasmacluster

จอแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่ TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมกราฟฟิกเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ เห็นภาพชัดเจน จอมอนิเตอร์กลางขนาด 12.3 นิ้ว 

ที่คอนโซลหน้ามีปุ่มแยกต่างหากให้เลือกใช้งานโหมดต่าง ๆ ได้สะดวกไม่ต้องเข้าไปที่หน้าจอ เช่น เลือกโหมด อีวี ที่สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ประมาณ 2-3 กิโลเมตร แต่นั่นไม่น่าจะใช่ความต้องการหลักของผู้ใช้ที่น่าจะเลือกเก็บพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรีความจุ 1.77 kWh เอาไว้ใช้สำหรับเปิดแอร์ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงมากกว่า

และยังมีปุ่มเลือกโหมด ขับขี่ หรือ ปุ่ม Camera สำหรับระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ทำให้ง่ายต่อการใช้งานเมื่อต้องการมองเห็นภาพรอบตัวรถครบทุกทิศทาง

ส่วนออปอื่น ๆ ก็ใส่มาไม่น้อย เครื่องเสียงพร้องลำโพง 6 ดอก คุณภาพเสียงใช้ได้เลย เบรกมือไฟฟ้า และระบบออโต้ เบรก โฮลด์ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน พร้อมระบบช่วยเบรก สัญญาณฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน

ระบบเตือนมุมอับสายตา ระบบป้องกันการชนมุมอับสายตา ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย ระบบเตือนรถออกนอกช่องทาง ระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง ไฟหน้าเปิด-ปิด อัตโนมัติ เป็นต้น 

นิสสัน Serena e-Power ประหยัด ขับง่าย เร่งรีบได้ ใช้งานคล่องตัว 

จากฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะประตูสไลด์ไฟฟ้า พร้อมโหมดแฮนด์ฟรีใช้เท้าแหย่ที่ด้านข้างตัวรถ ฝาท้ายแบบเปิดได้ 2 ระดับ หรือ Dual Back Door สามารถเปิดเฉพาะชิ้นบนเมื่อด้านหลังรถห่างกำแพงประมาณ 44 ซม.เท่านั้นได้ ความหลากหลายในการใช้สอยห้องโดยสาร บวกกับความสามารถในการขับขี่ การควบคุมรถ ถือเป็นรถอีกคันที่น่าใช้ครับ