นิสสัน ประเทศไทย รวมสายการผลิต 2 โรงงานสมุุทรปราการแล้วเสร็จ

นิสสัน ประเทศไทย รวมสายการผลิต 2 โรงงานสมุุทรปราการแล้วเสร็จ

นิสสัน ประเทศไทย เผยการรวมสายการผลิตโรงงานในประเทศไทย ประสบความสำเร็จ เตรียมพร้อมรับการผลิตรถรุ่นใหม่ในอนาคต 

โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน เปิดเผยว่า โครงการรวมสายการผลิตของโรงงานในประเทศไทยที่สมุทรปราการ เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน Re:Nissan มีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขัน และการเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต

"การรวมสายการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์ได้ตามกำหนด การยกระดับสายการผลิตในครั้งนี้จะช่วยให้สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาด รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนต่อไปทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน”

ก่อนหน้านี้ผู้บริหารนิสสัน มอเตอร์ ออกมาพูดถึงการปรับโครงสร้างในไทย ในช่วงที่นิสสัน ปรับแผนทั่วโลก รวมถึงการปิดโรงงานบางแห่ง แต่ยืนยันว่าในไทยจะไม่ปิด แต่ปรับเปลี่ยนใหม่ โดยโรงงานแห่งที่ 1 จะปรับไปทำรับผิดชอบการขึ้นรูปชิ้นส่วนและประกอบตัวถัง รวมถึงงาน โลจิสติกส์ ส่วนไลน์การผลิตดิมจะนำไปรวมกับโรงงานแห่งที่ 2 

 

ล่าสุดนิสสันจัดพิธีฉลองที่โรงงาน โดยมีผู้บริหาร และพนักงานมาร่วม รวมถึงผู้บริหารของกลุ่มสยาม มอเตอร์ นำโดย พรเทพ พรประภา ประธานกรรมการ และ ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการ

นิสสัน ประเทศไทย รวมสายการผลิต 2 โรงงานสมุุทรปราการแล้วเสร็จ

ทั้งนี้กลุ่มสยามกลการ เป็นผู้ริเริ่มทำตลาดนิสสันในไทยเป็นครั้งแรก และยังลงทุนสร้างโรงงานแห่งแรกที่สมุทรปราการ ก่อนที่นิสสัน มอเตอร์  ญี่ปุ่นจะเข้ามาทำธุรกิจเอง 

ฟูจิคิกล่าวว่าการที่นิสสันประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในประเทศไทยนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจจากพันธมิตรและความทุ่มเทของพนักงานในโรงงานผลิตทุกคน

 

โดยการรวมสายการผลิตเป็นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่จะทำให้นิสสันมีสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้โรงงานแห่งนี้มีความพร้อมและศักยภาพที่จะรองรับการผลิตรถยนต์ รุ่นหลัก ๆ คือ อัลเมร่า คิกส์ อี-พาวเวอร์ นาวารา และเทอร์ร่า ตลอดจนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

นอกจากผลิตรถยนต์เพื่อป้อนตลาดในประเทศ โรงงานแห่งนี้จะผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ