ใช้แทนได้ ไม่ต้องห่วง

ใช้แทนได้ ไม่ต้องห่วง

ผมเขียนถึงเรื่องการซ่อมแซมรถแบบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการใช้รถยนต์ของคนรุ่นเก่า ๆ ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ยังไม่มีแผนกให้บริการซ่อมบำรุง รวมไปถึงวิธีการหาซื้ออะไหล่เพื่อมาทำการซ่อมรถยนต์ที่เสียหาย

การเทียบอะไหล่ที่มีขนาดและลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกัน รวมไปถึงการเกิดขึ้นของ “โรงกลึง” ซึ่งต่อมาโรงกลึงจำนวนมากพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานผลิตรถยนต์

เมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการที่รัฐบาลไทยออกมาตรการสนับสนุน ให้ผู้ผลิตรถยนต์จากทั่วโลกเข้ามาตั้งโรงงานผลิต และประกอบรถยนต์กันมากขึ้น ผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ปรับตัวพัฒนาเพื่อรับมือกับการแข่งขันกันตามไปด้วย ผู้บริโภคหรือผู้ใช้รถยนต์เองก็ตื่นตัว ผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านการซ่อมบำรุง ที่เรียกกันว่าอู่ซ่อมรถยนต์ หรืออู่นอก ก็แพร่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ

ทำให้ผู้จำหน่ายรถยนต์เริ่มหันมามองรายได้จากส่วนบริการหลังการขาย อันได้แก่การให้บริการเรื่องการตรวจและดูและรถยนต์มากขึ้น แต่ด้วยความที่ระบบการบริหารจัดการทางธุรกิจ ทำให้ศูนย์บริการของผู้จำหน่ายรถยนต์ มีค่าบริการสูงกว่าอู่ทั่วไปที่เรียกกันว่าอู่นอก สิ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์ ว่าแม้จะต้องจ่ายแพงกว่าแต่เมื่อเข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการแล้ว รถยนต์ทุกคันจะได้รับงานบริการที่ตรงตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดเอาไว้ และสำคัญที่สุดก็คือจะทำให้ได้ อะไหล่แท้” เท่านั้น

คำว่าอะไหล่แท้จึงเริ่มถูกปลูกฝังเข้าไปในความคิดของผู้ใช้รถยนต์ แต่ในยุคเริ่มต้นนั้นคนใช้รถยนต์ส่วนมากเติบโตมาจากระบบเก่าคือ การพึ่งพาตนเองในการดูแลบำรุงรักษารถยนต์ หรือหลายคนแก่กล้าในระดับที่ซ่อมแซมด้วยตนเอง และอย่างน้อยก็อยู่ในระดับที่มีความรู้เพียงพอ ที่จะเลือกอู่ที่เชื่อใจได้ในด้านฝีมือการซ่อมบำรุง

ระยะแรกของการช่วงชิงลูกค้ากันนั้น เจ้าของรถยนต์ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่าอะไหล่แท้มากนัก เพราะเข้าใจดีว่าอะไหล่และชิ้นส่วนหลายอย่าง ผู้ผลิตรถยนต์เองก็ต้องสั่งซื้อจากผู้ผลิตทั่วไปเช่นกัน เพียงแต่อาจจะมีข้อกำหนดของมาตรฐานที่จำกัดเอาไว้เฉพาะ ในขณะเดียวกันผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายราย ก็ต้องหารายได้จากทางอื่นนอกเหนือไปจากผลิตป้อนให้โรงงานผลิตรถยนต์มาเสริม เพราะการลงทุนเกี่ยวกับเครื่องจักรและบุคลากรเริ่มสูงมากขึ้น ผู้ผลิตบางรายจึงใช้โรงงานเดียวกับที่ผลิตป้อนผู้ผลิตรถยนต์ มาผลิตอะไหล่ตัวเดียวกันในนามของยี่ห้อตัวเอง ออกวางจำหน่ายตามร้านขายอะไหล่ทั่วไป

อะไหล่บางตัวก็มีมาตรฐานและคุณสมบัติ เหมือนกันกับที่ผลิตป้อนโรงงานผลิตรถยนต์ทุกประการ บางตัวบางชิ้นก็อาจจะมีการปรับคุณสมบัติบางอย่าง เพราะติดข้อบังคับที่ตกลงกับผู้ผลิตรถยนต์บ้าง หรือเพื่อลดต้นทุนให้ต่ำลงบ้าง แต่ก็มีบางชิ้นที่ผลิตให้มีมาตรฐานด้านต่างๆสูงกว่าที่ผลิตป้อนเข้าโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ แล้วมาทำการตลาดยี่ห้อนั้นให้คนใช้รถยนต์ทั่วไปรับรู้ อีกทั้งสามารถตั้งราคาจำหน่ายให้สูงกว่ายี่ห้อที่ผลิตและตีตราเดียวกันกับยี่ห้อรถยนต์อีกด้วย

คำว่า อะไหล่แท้, อะไหล่เทียบ, อะไหล่เทียม และ อะไหล่ใช้แล้ว จึงถูกนำมาเรียกขานอะไหล่แต่ละชนิดอย่างชัดเจน ช่างซ่อมรถและเจ้าของรถยนต์ในยุคนั้นและยุคต่อมา จึงใช้ความรู้ของตนเองทำการเลือกอะไหล่ เพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพ และที่สำคัญคือสามารถประหยัดรายจ่ายจากการซ่อมบำรุงไปด้วย

ต่างจากผู้ใช้รถสมัยใหม่ในยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งส่วนมากไม่มีเวลาที่จะหาความรู้จากความแตกต่างของอะไหล่ที่มาจากแหล่งผลิตต่างกัน หรือมีความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของอะไหล่ต่างยี่ห้อกันน้อยลง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงแพงขึ้น เพราะต้องใช้บริการของศูนย์บริการผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆเป็นหลัก แม้จะมีเจ้าของรถยนต์บางคนที่มีความรู้อยู่บ้าง และอยากจะออกมาใช้บริการกับอู่นอกหรือศูนย์บริการอื่นที่เปิดขึ้นมามากมาย แต่ด้วยความที่ยังกลัวขาดการรับประกันจากผู้ผลิตและจำหน่าย จึงต้องรอจนกระทั่งถึงวันที่หมดอายุการรับประกันไปแล้ว

แต่ในขณะเดียวกันแม้ว่าจะยังคงต้องใช้ศูนย์บริการของผู้ผลิตและจำหน่ายเพื่อความมั่นใจ ก็ยังสามารถใช้อุปกรณ์หรืออะไหล่หลายอย่าง ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแท้หรือเหมือนกับที่ติดตั้งมาจากโรงงานผู้ผลิต แต่ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์จำนวนมากยังไม่เข้าใจ ทำให้เกิดคำถามกันขึ้นมาเป็นประจำบ่อยครั้ง

เช่น เรื่องของการเติมลมยางรถยนต์ ที่ปัจจุบันนี้มีเจ้าของรถยนต์จำนวนมาก เติมลมยางรถยนต์ของตนเองด้วยลมไนโตรเจน ทีนี้เมื่อใช้งานไปแรงดันลมในยางอ่อนลงที่ล้อใดล้อหนึ่ง แต่ในพื้นที่บริเวณนั้นไม่สามารถหาไนโตรเจนมาเติมเข้าไปได้ เจ้าของรถเองก็กลัวว่า หากใช้ลมปรกติธรรมดาที่มีให้บริการฟรีตามปั๊มน้ำมันทั่วไป เติมเข้าไปในยางที่เคยเติมลมไนโตรเจนแล้วจะเกิดความเสียหาย จึงทนขับรถที่ลมยางมีระดับแรงดันต่ำลงหรือแตกต่างกันมาก ๆ โดยไม่รู้ว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมาได้ 

กรณีอย่างนี้ผมจะบอกเสมอว่า สามารถเติมลมยางด้วยลมปรกติทั่วไปได้ โดยเติมให้อยู่ในระดับแรงดันลมเท่ากับมาตรฐาน จะไม่มีข้อเสียหายเกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

หรือแม้แต่คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยมากอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือเมื่อขับรถไปแล้วพบว่าระดับน้ำมันเครื่องพร่องลงไป แต่ไม่สามารถหาน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดและค่ามาตรฐานเดียวกันมาเติมได้ กรณีอย่างนี้ก็สามารถใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดและค่ามาตรฐานใกล้เคียงกันมาเติมลงไปใช้งานได้ ทั้งนี้รวมไปถึงน้ำมันเครื่องต่างยี่ห้อก็สามารถนำมาเติมได้เช่นกัน ดีกว่าที่จะทนใช้รถที่มีน้ำมันเครื่องในปริมาณที่ต่ำลง จนอาจจะสร้างความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้

แม้แต่น้ำในระบบหล่อเย็นก็เช่นกัน หากพบว่ามีระดับลดต่ำลงมาก ก็สามารถใช้น้ำสะอาดไม่ว่าจะเป็นน้ำประปา, น้ำดื่มที่บรรจุขวดขายทั่วไป มาเติมลงไปจนอยู่ในระดับที่กำหนดมาตรฐานเอาไว้ได้ ทั้งนี้ยังมีอะไหล่และอุปกรณ์อีกมากมาย ที่สามารถใช้งานทดแทนอะไหล่แท้ได้ โดยไม่ต้องเกรงว่าจะขาดจากการรับประกันแต่อย่างใด

แต่สำหรับเจ้าของรถที่ไม่มั่นใจ ก็สามารถใช้บริการจากศูนย์บริการของผู้ผลิตและจำหน่ายได้ตามสะดวกครับ