กางไทม์ไลน์ ‘ริดดาร่า’ เพิ่มไลน์ปิกอัพ - พลังงาน ลุยตั้งโรงงาน

ริดดาร่า (Riddara) ในเครือ จีลี่ โฮลดิ่ง กรุ๊ป เข้ามาเปิดตลาดรถปิกอัพพลังงานไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในเดือนต.ค.2567 และเตรียมแผนเชิงรุกจากนี้ไป
ริดดาร่า (Riddara) เปิดตัวรถรุ่นแรกในไทย คือ ปิกอัพ RD6 โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และความจุแบตเตอรี 4 ทางเลือก โดยช่วงเปิดตัวมี 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- Riddara RD6 2WD 63kWh ราคา 8.99 แสนบาท
- Riddara RD6 2WD 73kWh ราคา 9.99 แสนบาท
- Riddara RD6 4WD 73kWh ราคา 1.149 ล้านบาท
- Riddara RD6 4WD 86kWh ราคา 1.299 ล้านบาท
ก่อนที่หลังจากนั้นจะขยับเพิ่มเติมอีก 2 รุ่นย่อย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ขยับคือ ราคาจำหน่ายที่ยังคงเดิม
ล่าสุด "จาง ชง" ผู้จัดการทั่วไป จีลี่ ริดดาร่า ประเทศไทย (Geely Riddara)ก็ยังคงยืนยันว่า จะไม่ลงไปl6jสมรภูมิสงครามราคาที่ประทะกันดุเดือดเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอน ริดดาร่า ก็จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาดเป็นช่วง ๆ ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์
ทั้งนี้ตั้งแต่เปิดตัวปลายปีที่ผ่นมา ถึงปัจจุบัน ริดดาร่า มียอดขายสะสมประมาณ 600 คัน แต่หลังจากนี้ไปจะเปิดเกมรุกมากขึ้น รวมถึงมีแผนธุรกิจต่อเนื่องในอนาคต
- ปี 2568
ปี 2568 ถือเป็นปีแรกที่ทำตลาดเต็มปี บริษัทตั้งเป้ายอดจำหน่ายรวม 5,000 คัน โดยในจำนวนนี้ สัดส่วน 30% เป็นการขายให้กับลูกค้าองค์กร ซึ่งปัจจุบันมีแล้ว คือ
บริษัท ไทยอีวี จำกัด บริษัทที่ให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เช่าระยะยาวให้กับ บริษัท รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บรท.) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป และกำลังเตรียมส่งมอบให้กับ การไฟฟ้านครหลวง (MEA)
ทั้งนี้แต่เดิม ช่วงเปิดตัว ริดดาร่า ตั้งเป้าการขายไว้ปีละ 10,000 คัน แต่ด้วยสถานการณ์ตลาดรถยนต์ที่ไม่ดีตั้งแต่ปีผ่านมา ทำให้ปรับตัวเลขใหม่
เพิ่มความแข็งแกร่งตัวแทนจำหน่าย (dealer) ให้มีการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น และจะช่วยเพิ่มศักยภาพการบริการลูกค้า โดยตัวแทนจำหน่ายจะพัฒนาเป็นผู้ให้บริการ 3 เอส หรือ การขาย บริการหลังการขาย และอะไหล่ (Sale, Service, Spare Part) ทั้งหมด
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในอนาคตจะมีตัวแทนจำหน่าย 40 แห่ง อย่างไรก็ตามปีนี้จะยังตัวเลข 18 แห่ง ซึ่งเหมาะสมกับเป้าหมายการขาย เพื่อช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนจำหน่าย หลังจากบริษัทมuความชัดเจนในด้านการตลาดและการบริการหลังการขายมากขึ้น ก่อนที่จะขยายเพิ่มในอาคตเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมต่อไป
เตรียมเสริมผลิตภัณฑ์ในช่วงไตรมาส 3 คือ RD6 Econ โดยมีหลักการสำคัญคือเป็นรุ่น 4 ประตูเช่นเดิม คงความจุแบตเตอรีเท่า่เดิม แต่ลดสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้าลง สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการความแรงมากนัก และมีผลดีต่อเนื่องคือ ระยะทางใช้งานไกลขึ้น และราคาที่ถูกลง
และมีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
- ปี 2569
ศึกษาแผนการตั้งโรงงานประกอบรถในประเทศไทย เพื่อรองรับแผนการขยายตลาด และเป้าหมายของบริษัทแม่ที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ริดดาร่า
โรงงานริดดาร่า ยังรองรับแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่คือ ปิกอัพ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งหากนำเข้าจากจีนจะต้องเสียภาษีนำเข้า 50% โดยรูปแบบโรงงานอยู่ระหว่างการเลือกรูปแบบ เช่น ลงทุนเองทั้งหมด หรือ การร่วมทุนกับพันธมิตร
การมาของปลั๊ก-อิน ไฮบริดจะทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโต 2 เท่าตัว หรือ 1 หมื่นคัน
ทั้งนี้ ริดดาร่า เพิ่งเปิดตัว ปิกอัพ ไฮบริด ในงาน เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ ช่วงเดือน เมษายน ที่ผ่านมา
- ปี 2570
แผนเปิดตัวปิกอัพ เฮฟวี ดิวตี้ เพื่อรองรับการใช้งานหนัก ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างตัวถัง จากปัจจุบันเป็นแบบโมโนค็อคเหมือนกับรถยนต์นั่งเป็นแบบใช้แชสซีส์ เช่นเดียวกับปิกอัพส่วนใหญ่ในขณะนี้
นอกจากนี้เป้าหมายเฮฟวี ดิวตี้ จะใช้ขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มองว่าเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า และด้านเทคนิค ยังเหมาะสมกับโครงสร้างรถที่เป็นแบบแชสซีส์ ซึ่งมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากโมโนค็อก ดังนั้นหากใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี จะทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถมากเกินไป
- ปี 2571
แผนการต่อไปด้านผลิตภัณฑ์จะตามมาในปี 2571 ด้วยการเปิดตัว ปิกอัพ ฟูลไซส์ รองรับตลาดที่คาดว่าจะมีความต้องการมากขึ้นในอนาคตต่อไป
.