'Mitsubishi Xforce' 2 ล้อ สายลุย ขับสนุก มีทาง ไม่มีทาง ก็พร้อมไป

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส (Mitsubishi Xforce) เป็นรถเอสยูวี ขนาดกะทัดรัด

• ความยาวตัวถัง 4,390 มม.
• ความกว้าง 1,810 มม.
• สูง 1,650 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
• ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,565 มม.
• รัศมีวงเลี้ยว 5.2 มม.
• ความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 183 มม.

การออกแบบ เน้นห้ดูเรียบ ๆ ผสมดุดัน ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED  ไฟท้าย LED สี Smoke ส่วนไฟเลี้ยว LED หลายคนบอกว่ามันเล็กไปหน่อย แต่เอาจริง ๆ ก็เห็นได้ชัดเจนครับ จากการลองขับบนถนนจริง ช่วงที่ขับตามคันอื่น สรุปว่าขนาดไม่เกี่ยว 

ตัวรถมีสีตัวมีให้เลือกทั้งแบบทูโทน และโมโนโทน รวม 8 ทางเลือก

ภายในห้องโดยสาร มิตซูบิชิระบุว่าว่าใหญ่ที่สุดในคลาสเดียวกัน เลือกใช้สีทูโทน เพิ่มความโดดเด่นด้วยการตกแต่งหลายส่วนด้วยผ้าชนิดพิเศษ 

เช่น ที่บริเวณคอนโซลหน้า ทำให้ดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์ พร้อมยันยันว่าเป็นผ้าที่ผ่านการเคลือบมาหลายชั้น มีคุณสมบัติกันน้ำ เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาหากมีอะไรหกเลอะเทอะ จะเป็นกาแฟ หรือชา เพราะสามารถเช็ดออกได้ง่าย

ความสะดวกในการใช้งาน ออกแบบให้เบาะนั่งตอนหลังพับได้แบบ 40:20:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ และปรับเอนได้ รองรับการเดินทาง โดยวัสดุหุ้มเบาะเป็นแบบ “Heat Guard” สะท้อนควำมร้อนจากแสงแดด ทุกที่นั่ง

 

ฟูล ไฮบริด-ระบบส่งกำลัง 2 สปีด เพิ่มความลื่นไหล

เอ็กซ์ฟอร์ส เราอาจคุ้ยเคยชื่อนี้กับตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดแรกที่เปิดตัว แต่ที่นั่นทำตลาดแต่รุ่นเครื่องยนต์เท่านั้น ขณะที่ในไทยเป็นรุ่นไฮบริด และผลิตในโรงงานแหลมฉบัง พร้อมกับมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างออกไป รวมถึงรายละเอียดของช่วงล่าง

สำหรับระบบไฮบริด เป็นอีกจุดเด่นของเอ็กซ์ฟอร์ส เป็นแบบฟูล ไฮบริดทำงานทั้งแบบ ซีรีส์ ไฮบริด, พาราเลล ไฮบริด และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% หรือ อีวี

โดยอีวี จะทำงานในจังหวะการออกตัว

ส่วนการขับขี่ขณะเร่งความเร็วหรือขับด้วยความเร็วปานกลางระบบจะเลือกซีรีส์ ไฮบริด หรือ การใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน 100% ส่วนเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟ สลับกับโหมด อีวี เมื่อแบตเตอรีมีพลังงานเพียงพอ

การขับขึ้นทางชัน หรือ ขึ้นเขาซึ่งต้องการกำลังเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันส่งกำลังไปที่ล้อ หรือพาราเลล ไฮบริด แบบ LOW เปรียบเหมือนกับใช้เกียร์ต่ำนั่นแหละครับ แต่ขณะเดียวกันเครื่องยนต์ก็ยังทำหน้าที่ปั่นไฟ และบางจังหวะก็ตัดสลับเข้าไปที่ ซีรีส์ ไฮบริด ได้เช่นกัน ถ้าคำนวณแล้วว่าลำพังมอเตอร์ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง

ขณะที่การขับขี่ที่ความเร็วสูง หรือ ความเร็วคงที่หลัก ๆ จะเป็นโหมด พาราเลล ไฮบริด อัตราทด HIGH หรือเหมือนกับการใช้เกียร์สูง สลับกับการที่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนอย่างเดียว

ซึ่งตรงนี้ มิตซูบิชิใส่ระบบตัดการเชื่อมต่อหรือ Motor Disconnected มาให้เพราะหากมอเตอร์ไม่ต้องทำงาน ก็ไม่ต้องมาอยู่ให้เป็นภาระของเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยให้เพิ่มความประหยัดได้มากขึ้น

ซึ่งถือเป็นอีกจุดเด่นของ เอ็กซ์ฟอร์ส ร่วมกับระบบส่งกำลังที่มี 2 ระบบ คือ LOW กับ HIGH ซึ่งทำให้การขับขี่ลื่นไหล จังหวะการเชื่อมต่อของแต่ละความเร็วไม่สะดุดครับ

ซึ่งระบบไฮบริดนี้ยกชุดมาจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ แต่ปรับจูนใหม่ให้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มีสมรรถนะสูงขึ้น
 

• กำลังเพิ่มจาก 95 แรงม้า เป็น 107 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที
• แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะเท่าเดิม

• กำลังสูงสุด 116 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร

ลองขับยาวๆ บนถนน - นอกถนน

ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมได้ลองขับ เอ็กซ์ฟอร์ส ในสนามปทุมธานี สปีดเวย์ และสรุปว่ามันเป็นรถที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่ชอบการขับขี่ เพราะสามารถจัดการกับเส้นทางต่าง ๆ ในสนามได้สบาย ๆ แถมด้วยความสนุกในการขับขี่

คราวนี้มาลองขับกันยาว ๆ กับเส้นทางที่หลากหลายภูเก็ต-กระบี่-ภูเก็ต และยังมีเส้นทางพิเศษคือ ทางโคลน กับทางดินทางฝุ่น

ครับเพราะว่าจุดเด่นหนึ่งของเอ็กซ์ฟอร์สคือมีโหมดขับขี่ให้ใช้ถึง 7 โหมดรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงเส้นทางนอกถนน อย่าง โหมดกราเวล (Gravel) รองรับการขับขี่ในทางดิน ทางลูกรัง หรือหญ้า ฯลฯ และ มัด  (Mud) หรือโหมดการขับขี่เส้นทางโคลน

อีก 3 โหมดสำหรับขับขี่บนทางเรียบ คือ Normal, Tarmac หรือเทียบได้กับโหมดสปร์ต และ Wet ซึ่งก็ได้ใช้งานจริงเนื่องจากเป็นการลงไปขับในวันเริ่มต้นฤดูฝนอย่างเป็นทางการ

อีก 2 โหมดเกี่ยวกับไฟฟ้า คือ EV เป็นการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ซึ่งทำความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม. แต่ระยะทางไม่มากเพราะมันเป็น ไฮบริด แบตเตอรี 1.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง

ซึ่งพลังงานในแบตเตอรี เอาไว้ใช้ในการขับเคลื่อนในโหมดต่าง ๆ หรือ ถ้าจะเลือกใช้งานเอง น่าจะเอาไว้ใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ เช่น เมื่อขับเข้าไปในชุมชน หรือ จอดรอ ที่สามารถดึงพลังงานไฟฟ้าออกมาใช้ได้ โดยเตรื่องยนต์ไม่ต้องทำงาน ซึ่งเอ็กซ์ฟอร์ส มีอีกโหมดสนับสนุนคือ Charge สำหรับชาร์จไฟเก็บไว้ใช้ในช่วงที่ต้องการนั่นเอง

สำหรับการลองขับขี่ในโหมด Gravel เป็นทางดินทางฝุนรอบนี้ การที่ฝนตกลงมาก่อนหน้านี้ทำให้เพิ่มความลื่นเข้าไปอีก เพราะเป็นเหมือนกับมีโคลนฉาบที่ผิวทาง

แต่ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ ทั้งช่วงล่าง รวมถึง AYC เอาอยู่

ช่วงล่างของเอ็กซ์ฟอร์สนั้นด้านหน้าเป็นแบบ แมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวช็อคแอบซอร์เบอร์ ด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม ติดตั้งยางขนาด 225/50 R18

เป็นช่วงล่างที่เลือกและเซ็ทโดยทีมไทยเพื่อให้เข้ากับสภาพการใช้งานมากที่สุด

ส่วน AYC หรือ Active Yaw Control เป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่เป็นเอกสิทธิของ มิตซูบิชิ ทำหน้าที่ควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง โดยควบคุมแรงขับของล้อหน้าแต่ละข้าง

นั่นช่วยให้หน้ารถสามารถจัดการกับเส้นทางได้ดี แม้ว่าจะมีความลื่นจากการเป็นทางกรวดทางดิน และฉ่ำด้วยฝนเช่นนี้ การขับคล้าย ๆ แรลลี่ เอาหน้ารถจิกเข้าไป ปล่อยให้ท้ายรถกวาดไปมาบ้าง ก่อนจัดระเบียบในตัว ทำให้รถเดินทางผ่านเส้นทางโค้งต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

อ้อ เอ็กซ์ฟอร์ส เป็นรถขับเคลื่อน 2 ล้อหน้านะครับ

อีกระบบคือ Mud ที่เริ่มสร้างชื่อให้กับมิตซูบิชิในฐานะรถขับ 2 ที่ลุยโคลนได้ ตั้งแต่นำมาใช้ในเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอสก่อนหน้านี้

ซึ่งหากเลือกโหมดนี้ ระบบจะสั่งการให้การทำงานของ แทรคชั่นคอนโทรลนั้นต่ำที่สุด ส่วน AYC ไม่ต้องทำงาน

และก็อย่างที่เห็นครับ ถือว่าโคลนลึกพอประมาณ แต่รถขับ 2 คันนี้ ผ่านมาได้ไม่ยากเย็นอะไร

ซึ่งประเด็นนี้หากสื่อสารดี ๆ น่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า เพราะเหมาะกับการใช้งานจริงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่ถนนหนทางบางแห่ง หรือจุดที่จะต้องแวะ ต้องไปทำธุระอาจไม่ใช่ถนน และเมื่อเข้าช่วงหน้าฝน ก็แปรสภาพเป็นโคลนได้ รวมถึงโหมด Gravel ที่ทำให้การเดินทางไปทำธุระหรือท่องเที่ยวง่ายขึ้น

 

ทางไกล ขับสนุก ไม่เหนื่อย 

ทีนี้ขึ้นถนนกันบ้างครับ เส้นทางภูเก็ตปไปกระบี่และกลับมาภูเก็ตอีกรอบ รวมแล้วราว ๆ 300 กม. เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยโค้ง รวมถึงโค้งลึก ๆ ไม่น้อย แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้สามารถรีดสมรรถนะของ เอ็กซ์ฟอร์ส ออกมาได้ มันเป็นเอสยูวีที่อารมณ์ในการควบคุม (Handling) ดีเลยครับ เข้าออกโค้งได้เร็ว หน้ารถแม่น พวงมาลัยแม่น การโยนตัวให้ตัวน้อย ทำให้คนขับรับรู้อาการของรถได้ตลอดเวลา จังหวะการเปลี่ยนทิศทางต่อเนื่องเมื่อเจอโค้งสลับไปมา ก็ทำได้ดีเช่นกัน

ขับได้สนุกเลยครับกับเส้นทางแบบนี้

ส่วนถนนที่เป็นทางตรง หรือโค้งนิดหน่อย การใช้ความเร็วค่อนข้างสูง รถนิ่ง พวงมาลัยนิ่ง การควบคุมก็จับแค่หลวม ๆ มือเท่านั้น

และเมื่อเจอฝน ก็สามารถไปได้ คุมรถได้ไม่ยาก

แต่ถ้าจะเลือกโหมด WET ก็แนะนำครับ เพราะเข้าเซ็ทมาให้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เปิดการทำงานของแทรคชั่น คอนโทรล หรือ AYC ในระดับสูง ลดการตอบสนองของคันเร่งลง เผื่อใครเผลอตัวไปกระทืบคันเร่งแรง ๆ บนถนนเปียก ๆ ซึ่งคงไม่ดีนัก

โดยรวมพูดได้ว่าเอ็กซ์ฟอร์สเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานเดินทางไกลด้วย เพราะขับแล้วไม่เหนื่อยครับ ผ่อนคลาย สามารถใช้หางตาชื่นชมทิวทัศน์รอบข้างได้

และเมื่อมีโอกาสไปลองนั่งเป็นผู้โดยสารเบาะหลัง ผมว่าก็เหมาะกับการเดินทางเช่นกัน เพราะการใ้ห้ตัว หรือ อาการเด้งของตัวถังมีน้อย เมื่อเจอทางโค้ง ขระขระ หรือทางยุบทางคลื่นทางลอน นั่นทำให้ลดการมึนหัวลงได้

จุดเด่นอีกอย่างคือ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ถือว่าทำได้ดีเลย และเครื่องเสียงยามาฮ่า ให้โทนเสียงเป็นธรรมชาติ สายปาร์ตี้อาจไม่ชอบนัก แต่ถ้าใครที่ชอบโทนเสียงออกแนวละมุน เสียงดนตรีแต่ละชิ้นไม่ตบตีกันเอง น่าจะโดนใจ

 

ออปชั่น ไมน้อย 

มาดูกันที่ ออปชั่น และระบบการทำงานหลัก ๆ  ที่มีมาให้ เช่น

เครื่องเสียงไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่าพรีเมียม ซาวด์ ซิสเต็มลำโพง 8 ดอก ซึ่งมิตซูบิชิบอกว่าไม่ได้แค่ไปเอาเครื่องเสียงยามาฮ่ามาใส่ แต่เป็นการดีไซน์ร่วมกันกับผู้ผลิตเครื่องเส่ียงจากญี่ปุ่น

หน้าจอระบบสัมผัส 12.3 นิ้วจอแสดงผลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ออกแบบให้เป็นแบบมัลติวิดเจ็ต (Multiwidget) โดยหน้าจอแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แสดงข้อมูลต่าง ๆ พร้อมกันบนหน้าจอเดียว และยังสามารถแสดงผลเช่น ระดับความสูง มุมเอียง และทิศทางการเดินทางอีกด้วย

รองรับ Apple CarPlay และ Android Autoไร้สาย และ WebLink เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

ระบบฟอกอากาศ nanoe™ X ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร หรือ Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้ำและแผงประตูด้านหน้า

เทคโนโลยีความปลอดภัยไดมอนด์ เซ้นส์ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถด้วย กล้อง เซนเซอร์ และเรดาร์ซึ่งทำงานและมีสัญญาณเตือนผู้ขับขี่เมื่อเกิดสภาวะฉุกเฉินหรือ ต้องระมัดระวัง ได้แก่

• MAM with Moving Object Detection : กล้องมองภำพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะ (กล้อง 4 ตำแหน่ง) พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว
• LCDN : ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัว
• BSW with LCA : เตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน
• FCM : เตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
• ACC : ระบบควบคุมควาเร็วแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง
• AHB : ระบบควบคุมไฟสูงโดยอัตโนมัติ
• RCTA : ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยรถ โดยระบบจะส่งสัญญำณเตือน เมื่อพบวัตถุ เคลื่อนไหวด้านหลังรถ
• ถุงลม 6 ตำแหน่ง
• Traction Control System (TCL) : ระบบป้องกันกำรลื่นไถล ป้องกันล้อหมุนฟรี
• Active Stability Control (ASC) : ระบบควบคุมเสถียรภำพกำรทรงตัว
• Electric Power Steering : พวงมาลัยไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตำมความเร็วและสภาพถนน และ โหมดการขับขี่

ส่วนจุดที่ผมอยากได้เพิ่มอีกเล็กน้อยคือ ความสูงของเบาะผู้ขับซึ่งจริง ๆ แล้ว มันสามารถปรับสูงต่ำได้ แต่ผมอยากให้ปรับได้ได้ต่ำกว่านี้อีกสักหน่อย และเข็มขัดนิรภัยถ้าปรับระดับได้ก็ดี

แต่ถ้ามองในภาพรวม ความสามารถในการใช้งาน การขับขี่ ที่ทำได้ดี ขับง่าย ผ่อนคลาย ไม่เหนื่อย ขับสนุก “เอ็กซ์ฟอร์ส” เป็นตัวเลือกที่ไม่สามารถมองข้ามได้ครับ