อีวี อนาคตยานยนต์ ยกระดับเดินทาง เร่งสร้างความเชื่อมั่น หนุนแกร่งอุตสาหกรรม

อีวี อนาคตยานยนต์ ยกระดับเดินทาง เร่งสร้างความเชื่อมั่น หนุนแกร่งอุตสาหกรรม

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ และโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ต่ำกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างมาก

อีวี เติบโตแบบก้าวกระโดด เริ่มต้นจากปี 2562 เมื่อ เอ็มจี เปิดตัว "MG ZS EV" ทำให้ภาพรวม ตลาดอีวี ที่เคยอยู่ในหลักร้อยต้น ๆ กระโดดขึ้นสู่หลักพันเป็นครั้งแรก ในปีเดียวกัน

ความสำเร็จของ ZS EV ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นในยุคนั้น คือ 1.19 ล้านบาท แม้จะสูงกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในก็ตาม แต่ก็เป็นการบ่งบอกถึงความต้องการของผู้บริโภคที่รอการมาของ อีวี และความพร้อมที่จะเปิดรับรถพลังงานใหม่นี้

หลังจากนั้นกระแสการตอบรับอีวี ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับตลาดที่ขยายตัวอย่างโดดเด่นคือ การหลั่งไหลเข้ามาทำตลาดในไทยของแบรนด์อีวีจำนวนมาก และยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดแต่อย่างใด และแม้ว่ากระแสดังกล่าว ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง และบางครั้งก็มีการใช้สงครามราคากันอย่างดุดันแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภคที่มีทางเลือกมากขึ้น และการเข้าถึงอีวีง่ายขึ้นจากอดีตเช่นกัน

อีวี อนาคตยานยนต์ ยกระดับเดินทาง เร่งสร้างความเชื่อมั่น หนุนแกร่งอุตสาหกรรม

หลีหมิง โฮ๋ว (Liming Hou) ผู้อำนวยการฝ่ายประกันคุณภาพ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ระบุว่า การเข้ามาของ อีวี เป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภคที่มีทางเลือกที่หลากหลายเพิ่มขึ้น สามารถหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเองได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม อีวี ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ดังนั้นเจ้าของโปรดักท์กับลูกค้าจึงต้องหาจุดร่วมกันให้ได้ และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เน้นเรื่องของเอาท์พุต ไม่เน้นสินค้าที่เจ้าของแบรนด์ "อยากขาย" แต่ต้องเป็นสิ่งที่ลูกค้า "อยากได้"

สิ่งที่อยากได้ของผู้บริโภคแต่ละคนไม่เหมือนกัน แน่นอนรวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วย แม้ว่าอีวีจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นรวดเร็ว แต่ก็อาจจะเป็น pain point ของบางคน ดังนั้นทางเลือกพลังงานใหม่อื่น จึงจำเป็นเช่นกัน เช่น ไฮบริด หรือ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เป็นต้น

ฟีดแบ็ก ลูกค้า ดีลเลอร์ ส่วนสำคัญพัฒนาธุรกิจ

หลีหมิง ระบุว่า สิ่งสำคัญที่จะรับรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคก็คือ การออกไปพบปะกับลูกค้า ทั้งตัวแทนจำหน่ายและ end user ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูล และเสียงสะท้อนที่มีประโยชน์กลับมาทุกครั้ง

การออกไปรับฟังข้อมูล ความคิดเห็น ทำให้แบรนด์ได้รับข้อมูลครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ ปัญหาต่างๆ ที่ควรได้รับการแก้ไข ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ต่อการวางแผนธุรกิจ และการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

การรับฟังข้อมูลโดยตรงจะนำไปสู่แผนการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่จะเน้นเรื่องของความแตกต่างของความต้องการในแต่ละพื้นที่โดยเฉพาะ นั่นหมายถึงทุกผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทั่วโลก

ตัวอย่างเช่น รถบางรุ่นแม้จะผลิตในจีน แต่เมื่อเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย ก็จะมีบางอย่างที่จีนไม่มี แต่คนไทยต้องการ เช่น พรม หรือที่วางแก้ว เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดก็มาจากการได้ข้อมูลจากลูกค้านั่นเอง

อีวี อนาคตยานยนต์ ยกระดับเดินทาง เร่งสร้างความเชื่อมั่น หนุนแกร่งอุตสาหกรรม

สร้างความมั่นใจใช้งาน ลบ pain point อีวี

นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคแล้ว pain point ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งของอีวีก็คือ ความมั่นใจในการใช้งานและการบริหารหลังการขาย ซึ่งปัจจุบันอาจจะได้ยินเสียงร้องเรียนเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย จึงเป็นการบ้านที่แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องหาทางแก้ไข

แนวทางการจัดการกับปัญหานี้ก็คือ แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องมีศูนย์บริการเพื่อให้บริการกับลูกค้าที่ครอบคลุมทั่วถึง ทั้งนี้สิ่งสำคัญของการดำเนินธุรกิจ คือ การสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจในด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่ได้เฉพาะคุณภาพเท่านั้น แต่ต้องตรงกับความต้องการ และความมั่นใจในการใช้งาน ความมั่นใจในการดูแลบริการหลังการขาย ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมาก

"ด้านความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ เรามีตัวอย่างที่ดี เช่น อีวี ที่ปัจจุบันนี้มีตลาดที่ใหญ่ขึ้นในไทย แต่ก็พบว่ามีปัญหาร้องเรียนจากลูกค้าไม่น้อย รวมถึงเรื่องของแบตเตอรี่"

ทั้งนี้แบตเตอรีแรงดันสูง ถือเป็นหัวใจสำคัญของอีวี และก็เป็นส่วนประกอบที่มีต้นทุนที่สูงที่สุดเช่นกัน จึงถือเป็นหนึ่งใน pain point ของอีวี เพราะผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกังวลประสิทธิภาพในการใช้งานระยะยาว

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างความมั่นใจในการใช้งานผ่านวิธีการต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ การรับประกันคุณภาพระยะยาว การรับประกันประสิทธิภาพและคุณภาพระยะยาว นอกเหนือจากการทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในการบริการแล้ว ยังได้รับความมั่นใจในแบรนด์ เพราะแบรนด์ที่กล้ารับประกันในระยะยาว นั่นหมายถึงเป็นการแสดงความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของตนเอง

บริการหลังการขาย สร้างธุรกิจยั่งยืน

สำหรับหนึ่งในปัญหาสำคัญของธุรกิจรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานอะไรก็ตาม ทั้งเครื่องยนต์ อีวี หรือลูกผสมตระกูลไฮบริด ก็คือ การบริการหลังการขาย ซึ่งรวมถึงอะไหล่ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นถึงการแสดงความไม่พอใจของผู้บริโภคจำนวนมาก

ประเด็นนี้หากแบรนด์ใดเข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยมีเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้นคือ การยกระดับอุตสาหกรรม การมีส่วนร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทย การให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ก็จะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค

เพราะการให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศทั้งการผลิตรถยนต์ ผลิตชิ้นส่วนประกอบ หรือแบตเตอรี หรือการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หมายถึงการที่แบรนด์นั้นจะมีอะไหล่ไว้ให้บริการลูกค้าได้อย่างสะดวก ไม่ต้องรอการนำเข้าจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ การลงทุนดำเนินเต็มระบบในประเทศ ยังจะมีส่วนส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ หรือ suppliers และการจ้างงานในประเทศ เป็นการสร้างรายได้ให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง และการที่ปัจจุบันมีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการชาวไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ชิ้นส่วนไทย แรงงานไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับการยอมรับในเวทีโลกว่ามีทักษะที่ดี และหลายแบรนด์ก็ภูมิใจที่ประกาศว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในไทย เช่น ล่าสุด MG4 Electric ได้รับการรับรอง "Made in Thailand" (MIT) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ออกโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

ร่วมมือมหาวิทยาลัย พัฒนาบุคลากร

อย่างไรก็ตามอุตสหกรรมนั้นมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีหลายอย่างเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ดังนั้นจึงต้องยกระดับบุคลากรรองรับ

หนึ่งในวิธีการที่ดีและได้ผลคือ การร่วมมือกับสถาบันการศึกษา จัดหลักสูตรการเรียนการสอนที่เพิ่มองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเข้าไป รวมถึงการบุคลากรจากแบรนด์เข้าไปเป็นอาจารย์พิเศษ ก็จะยิ่งทำให้การพัฒนาทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"ความรู้ความสามารถ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เศรษฐกิจจะแข็งแกร่งได้ ก็มาจากเรื่องนี้" หลีหมิง กล่าว