โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น 'G 63 - GT 63 - SL 55'

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น 'G 63 - GT 63 - SL 55'

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นแบรนด์ พรีเมียมที่เน้นการทำตลาดรถยนต์สมรรถนะสูง หรือ เอเอ็มจี (AMG) อย่างต่อเนื่อง มีตัวเลือกที่หลากหลาย ล่าสุด เตรียมส่ง 3 รุ่น เจาะตลาดคนใจแรง

ปี 2567 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ขายรถไป 9,189 คัน ต่ำกว่าหลักหมื่นในรอบหลายปี และเป็นการหดตัวที่ค่อนแรงทีเดียวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยติดลประมาณ 30% ซึ่งเรื่องนี้ “มาร์ทิน ชเวงค์” ประธานบริหาร ระบุว่าเป็นเพราะตลาดในกลุ่ม entry ที่หายไป

ตลาดนี้เป็นตลาดที่แข่งรุนแรง รวมถึงยังอาจได้รับผลกระทบจากรถกลุ่มอื่น เช่น อีวี จากจีน และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ไม่ต้องการที่จะลงไปเล่นในเกมราคา

แต่จะมุ่งเน้นไปยังตลาดกลุ่มลักชัวรี ที่เห็นว่ามีศักยภาพดีกว่า และลูกค้ามีกำลังซื้อที่ดี เช่น การเปิดตัว อี-คลาส ใหม่ ปีที่ผ่านมา พบว่าสามารถสร้างยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนหน้า

หรือ รถรหัสใหม่ อย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซีแอลอี 53 คูเป้” (Mercedes-AMG CLE 53 Coupe) ที่เปิดตัวเดือนกันยายนปีที่แล้ว สามารถสร้างสัดส่วนการขายในกลุ่ม เอเอ็มจีได้ถึง 30%

และปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็จะมุ่งเน้นการทำตลาดกลุ่มลักชัวรี และ เอเอ็มจี ต่อเนื่องต่อไป

และในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ หรือ บางกอก มอเตอร์โชว์ ปีนี้ ค่ายตราดาวจะเปิดตัว เอเอ็มจี 3 รุ่นพร้อมกัน ไปดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง

 

Mercedes-AMG G 63

รถที่ครองใจลูกค้าหลายคน ด้วยเสน่ห์ ดุ ดิบ และพรีเมียม ติดตั้งเครื่องยนต์ไมลด์ไฮบริด V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0 ลิตร ตามแนวคิด “One Man, One Engine” อย่างที่รู้กันว่า เครื่องยนต์ AMG เป็นเครื่องยนต์ที่ประกอบด้วยมือจากวิศวกร 1 คน ซึ่งจะเซ็นชื่อกำกับไว้บนเพลทที่เครื่องยนต์​เมื่อจบงานเรียบร้อย 

เกียร์แบบใหม่ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-SPEED SPORTS TRANSMISSION พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

  • กำลังสูงสุด 585 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2,500-3,500 รอบ/นาที
  • อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาที  
  • ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

ด้านตัวรถออกแบบรอบคันแบบ AMG bodystyling กระจังหน้าแบบ AMG Specific Grille กันชนหน้าแบบ AMG-specific front bumper ที่มีส่วนทั้งเพิ่มมุมองสปอร์ต และช่วยในด้านแอโรไดนามิก รวมถึงการระบายอากาศ 

ไฟหน้า MULTIBEAM LED แก้ไขการออกแบบจุดเสา A-pillar เพื่อทำให้มีทัศนวิสัยดีขึ้น และใส่ Spoiler ไว้ด้านบน เพื่อช่วยลดเสียงภายในห้องโดยสารลง 20% 

หลังคาซันรูฟไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ และเป็นครั้งแรกของ G-Class ที่มาพร้อมปุ่มเปิด-ปิด ประตูทั้งหมดเป็นแบบ KEYLESS-GO โดยการใช้มือสัมผัสที่มือจับประตูเพื่อล็อกหรือปลดล็อกโดยไม่ต้องใช้กุญแจ

เครื่องยนต์แรง ระบบเบรกก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับ AMG High-Performance Braking System ตกแต่งด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ประดับด้วยโลโก้ AMG 

ระบบท่อไอเสียคู่ AMG Performance Exhaust System พร้อมระบบปรับระดับเสียง ติดตั้งกล้อง 360° with Transparent Bonnet หรือการแสดงภาพด้านหน้าและการจำลองภาพใต้ท้องรถผ่านหน้าจอแสดงผล ทำให้สามารถขับขี่ในเส้นทางออฟโรดได้ง่าย และปลอดภัยขึ้น

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'
 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

ช่วงล่างแบบ Active Hydraulic เพิ่มความเสถียรในการขับขี่ และลดอาการโคลงตัวของรถ โดยปรับการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ คือ Off-Road และ Sport เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ความเป็นมอเตอร์สปอร์ตมากขึ้น แต่ยังให้ความสำคัญกับ Differential Lock ซึ่งเป็นฟีเจอร์เอกลักษณ์ของ G-Class โดยสามารถล็อกเฟืองท้ายได้ 3 จุด แต่ละจุดสามารถล็อกได้เต็ม 100%

ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ All-Digital Instrument Display ขนาด 12.3 นิ้ว เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการมัลติมีเดีย COMAND Online ขนาด 12.3 นิ้ว พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel หุ้มหนัง Nappa สลับ DINAMICA microfibre 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

มาพร้อมระบบ AMG DYNAMIC SELECT ให้สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงสามารถปรับค่าการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และพวงมาลัยให้ตรงกับความต้องการของแต่ละคนได้ 

ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System ระบบฟอกอากาศ Air Balance Cabin-Air Purification System 

ระบบความปลอดภัยขั้นสูง Assistance Package เช่น ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC) ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist with exit warning function) ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist) ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist) เป็นต้น 

มีสีตัวถังให้เลือก 8 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (Iridium Silver) สีเงิน (Mojave Silver) สีน้ำเงิน (Sodalite Blue) สีน้ำเงิน (Brilliant Blue) สีเขียว (Emerald Green) และสีเทา (Selenite Grey)

Mercedes-AMG G 63 ราคาเริ่มต้น 18,800,000 บาท

และยังมี OPITONAL EXTRA ให้ลูกค้าเลือกออปชันและอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกหลายรายการ ตั้งแต่สีตัวถังแบบ MANUFAKTUR ล้ออัลลอย AMG ชุดแต่ง AMG Night Package และ Black accents อุปกรณ์ตกแต่ง “G manufaktur” รวมถึงการตกแต่งภายในที่มีให้เลือกทั้งแบบ EXCLUSIVE และ SUPERIOR Line

 

Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+

เป็นเรือธงในตระกูล GT เจเนอเรชันที่ 2 กลับมาเปิดตัวในประเทศไทยด้วยรหัสตัวถัง C192 ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร  Bi-Turbo และติดตั้งในตำแหน่งอันเป็นเอกลักษณ์แบบ hot inside “V” 

  • กำลังสูงสุด 585 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 2,350–5,000 รอบ/นาที
  • อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 3.2 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'
 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

เป็นความเร็วที่ดุดันเลยทีเดียว ซึ่งใครที่มีไว้ในครอบครอง คงต้องหาทางไปปลดปล่อยดูบ้าง แต่แน่นอนว่าไม่ควรเป็นท้องถนน แต่คือ พามันไปลงแทรค เพราะ GT ก็ออกแบบมาให้สามารถขับกินลมลมวิว หรือจะพาไปสู้กับแรงจีแรงเหวี่ยงในแทรคก็ได้ 

ทั้งนี้ GT 63 ออกแบบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้สามารถทำงานร่วมกัน รวมถึงระบบ RACE START ในจังหวะออกตัว ขณะที่ระบบขับเคลื่อน AMG Performance 4MATIC+ ปรับจูนมีให้เข้าโค้งได้ปลอดภัยและรวดเร็วโดยไม่เสียการควบคุม ด้วยการกระจายกำลังที่สั่งการจากระบบต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อให้ทำเวลาในสนามแข่งได้ดีที่สุด

เบรกสมรรถนะสูงที่ออกแบบโดย Mercedes-AMG ที่มาพร้อมระบบเบรกแบบ Sports Braking System และช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของเบรกเมื่อมีการใช้งานในความเร็วสูง

ทั้งนี้การเข้าออกโค้งด้วยความเร็วสูงยังเป็นผลมาจากระบบช่วยเหลือการควบคุมการเลี้ยวล้อหลังแบบ AMG Rear-Axle Steering โดยทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง  ล้อหลังเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกันกับล้อหน้า ไม่เกิน 0.7° 

แต่หากต่ำกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะเลี้ยวตรงกันข้ามกับล้อหน้า ไม่เกิน 2.5° เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดรัศมีวงเลี้ยว 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

ช่วงล่างติดตั้งระบบ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension รองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยผู้ขับสามารถปรับระบบการทำงานของช่วงล่าง 3 ระดับ ได้แก่ Comfort, Sport และ Sport+

Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ มีตัวถังแบบ Wide Body ด้วยความกว้าง 2 เมตร กระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator grille with V8 Exterior Styling Package ไฟหน้า DIGITAL LIGHT

ระบบความปลอดภัย Driving Assistance Package ที่รวมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง และกล้องรอบคัน 360 องศา

ระบบส่งกำลัง AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission รองรับแรงบิดได้สูง เปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที 

เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Real Performance Sound โดยระบบจะแสดงเสียงภายในห้องโดยสารบริเวณคอนโซลกลาง ผู้ขับขี่สามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Sporty, Discreet (BALANCED), Motorsporty และ Emotive (POWERFUL) สามารถเลือกโหมดผ่านระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT โดยในโหมด S และ S+

ระบบปฏิบัติการ MBUX7 หน้าจอกลางขนาด 11.9 นิ้ว ระบบสัมผัส โดยจอสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าได้ 12° ถึง 32° 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

จอ Driver’s display ขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicators พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel และเบาะหลังที่พับพนักพิงได้ในรถยนต์แบบ 2+2 ที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

ราคาเริ่มต้น 15,900,000 บาท 

 

Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+

อีกรุ่นของตระกูล เอเอ็มจี ที่เปิดตัวครั้งนี้ “Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+” รถยนต์สปอร์ตพรีเมียมมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร Bi-Turbo 

  • กำลังสูงสุด  476 แรงม้า ที่ 2,250-4,500 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที
  • อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 3.9 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

ระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission เหมือนกับ GT สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที รวมถึงมีระบบช่วยการออกตัวแบบ RACE START เช่นเดียวกัน ทำให้เมันเป็นรถที่รองกับการขับบี่ในสนามแข่งได้ไม่แพ้กัน 

รวมถึงรระบบช่วยเหลือการควบคุมการเลี้ยวด้วยล้อหลังแบบ AMG Rear-Axle Steering เหมือนดับ GT ด้วย หลักการทำงาน และองศาการเลี้ยวเหมือนกัน ปรับระบบการทำงานของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ คือ Comfort, Sport และ Sport+ เช่นเดียวกัน 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

ระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Real Performance Sound จะแสดงเสียงภายในห้องโดยสารบริเวณคอนโซลกลาง โดยเป็นเสืยงสังเคราะห์ที่ทำงานร่วมกับเสียงจากท่อ โดยสามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง Sporty, Discreet  (BALANCED) หรือ Motorsporty และ Emotive (POWERFUL) 

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

การดีไซน์ภายนอก กระจังหน้า AMG-specific radiator grille with V8-Styling-Paket Exterieur ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ระบบไฟด้านข้างประตูแบบ AMG light display หลังคาเปิดประทุนแบบผ้าหรือ Fabric soft-top เปิดและปิดภายในระยะเวลา 15 วินาที และสามารถทำได้ขณะรถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

ด้านท้ายมีสปอยเลอร์ไฟฟ้า electrically extending rear wing ติดตั้งล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX7 หน้าจอขนาด 11.9 นิ้ว ระบบสัมผัสและปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 12-32 องศา เพื่อช่วยให้ผู้ขับมองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนขึ้น ป้องกันแสงสะท้อนเมื่อเปิดหลังคา

จอหน้าที่นั่งคนขับขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicator พวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel หุ้มNappa leather และเบาะ AMG Sport seats พร้อม AIRSCARF

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

โหดทุกตัว มอร์เซเดส-เบนซ์ ลุย AMG รวดเดียว 3 รุ่น \'G 63 - GT 63 - SL 55\'

มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีเหลือง (Sun Yellow) สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (High-tech Silver) สีเทา (Selenite Grey) สีน้ำเงิน (Hyper Blue) และสีน้ำเงิน (Spectral Blue)

ราคาเริ่มต้น 14.900,000 บาท

ทั้งนี้ยังมีออปชั่นที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติม เช่น สีตัวถังแบบ MANUFAKTUR สีหลังคา Fabric soft-top ล้ออัลลอยด์ AMG การตกแต่งภายในแบบ AMG special trim ระบบเสียง Burmester® high-end 3D surround sound system ที่มาพร้อม AMG 3D Spider ในการเพิ่มเส้นใยนำเสียงที่บริเวณหลังคา 

การตกแต่งภายนอกด้วยชุดแต่ง AMG Night Package, AMG Night Package Plus หรือ AMG DYNAMIC PLUS Package การเปิดระบบช่วงล่างแบบ AMG ACTIVE RIDE CONTROL suspension ที่จะมาพร้อมระบบ Lift system, front axle ที่สามารถปรับระดับบริเวณล้อหน้าได้ชั่วคราว