ยอด BMW-MINI ปี 67 หดตัว 11% แต่ยังยืน 1 พรีเมียม โหมเปิดตัวรถใหม่ปีนี้

ยอด BMW-MINI  ปี 67 หดตัว 11% แต่ยังยืน 1 พรีเมียม โหมเปิดตัวรถใหม่ปีนี้

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยปัจจัยลบฉุดตลาดรถยนต์ปี 2567 ส่งผลยอดขายติดลบ มั่นใจปีนี้สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น เดินหน้าเปิดเกมรุกปี 68 รถใหม่จ่อคิวเปิดตัวกระตุ้นตลาด

เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์พรีเมียมในประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน 

โดยบีเอ็มดับเบิลยูและมินิมียอดส่งมอบรถยนต์รวมกัน 13,659 คันในปี 2567 ลดลง 11.7 % ครองส่วนแบ่งตลาด 45% 

ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่บีเอ็มดับเบิลยู มีจำนวน 12,208 คัน ทำให้ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำยอดจดทะเบียนรถยนต์ระดับพรีเมียมเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน 

ด้านมินิ การเปิดตัวรุ่นใหม่ในตระกูล New MINI Family ส่งผลให้มียอดส่งมอบเพิ่มสูงขึ้น 7.6%

นอกจากการส่งมอบรถให้กับลูกค้าทั่วไป อีกตลาดหนึ่งที่บริษัทมีความแข็งแกร่งคือ ลูกค้าองค์กร โดยส่วนแบ่งตลาดฟลีท (fleet) ในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมของบีเอ็มดับเบิลยู ขยายตัวขึ้นมาเป็น 70% ในปี 2567 หรือโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 27% ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่กลุ่มธุรกิจการโรงแรม

เรเน่กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรุ่นสมรรถนะสูงด้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ปีนี้บริษัทจึงเตรียมสนองความต้องการของลูกค้าด้วยรถยนต์ใหม่จากตระกูล M และ M Performance ประกอบด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 ใหม่ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และซูเปอร์ไบค์ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ที่ปรับโฉมอีกครั้ง 

ยอด BMW-MINI  ปี 67 หดตัว 11% แต่ยังยืน 1 พรีเมียม โหมเปิดตัวรถใหม่ปีนี้

ยอด BMW-MINI  ปี 67 หดตัว 11% แต่ยังยืน 1 พรีเมียม โหมเปิดตัวรถใหม่ปีนี้

ยอด BMW-MINI  ปี 67 หดตัว 11% แต่ยังยืน 1 พรีเมียม โหมเปิดตัวรถใหม่ปีนี้

นอกจากการเปิดตัวรถใหม่ สิ่งที่บริษัทจะทำในปีนี้คือการทำงานอย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายที่จะนำแนวคิด 'Retail Next' เข้าไปเป็นหัวใจของโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยูทุกแห่งภายใน 2 ปีข้างหน้า

ด้านตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ในปี 2567 บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขับเคลื่อนรวม 6 รุ่น หลังจากการเปิดตัว  i5 และ iX2 ที่เข้ามาเสริมทัพรุ่นที่จำหน่ายอยู่ก่อนหน้านี้ คือ iX3, i4, i7 และ iX 

ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมของบีเอ็มดับเบิลยูเติบโตก้าวกระโดดในปีที่แล้ว จาก 13.5% ในปี 2566 มาเป็น 22.6% ในปี 2567 และมีส่วนช่วยผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดพรีเมียมของบีเอ็มดับเบิลยูเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่ที่ 39.9% 

ขณะที่การเปิดตัวมินิเจเนอเรชันใหม่ New MINI Family ปีที่ผ่านมา ทั้งในรุ่นคูเปอร์ คันทรีแมน และ น้องใหม่อย่างเอซแมน ทำให้ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของมินิเติบโตกว่า 44% จากปีก่อนหน้า

ด้านตระกูล M ผู้บริโภคให้การต้อนรับรุ่นใหม่อย่าง M5 และ M4 CS หลังจากที่เปิดตัวไปในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 ที่ผ่านมา และปี 2568 นี้ จะเพิ่มความเร้าใจมากขึ้น ด้วยรถยนต์ใหม่จากตระกูล M และ M Performance ที่มีแผนเปิดตัวเพิ่มเติมอีกตลอดปี