เปิดทุกเงื่อนไข ‘EV3.5’ ครม.เคาะหนุนรถอีวีอีก 4 ปี อุดหนุนสูงสุด 1 แสนบาท/คัน

เปิดทุกเงื่อนไข ‘EV3.5’ ครม.เคาะหนุนรถอีวีอีก 4 ปี อุดหนุนสูงสุด 1 แสนบาท/คัน

ครม. อนุมัติแพ็คแกจ EV 3.5 เคาะเงินอุดหนุนปี 67-70 รถยนต์และรถกระบะสูงสุด 100,000 บาท/คัน รถจักรยานยนต์ 10,000 บาท/คัน เดินหน้าผลักดันไทยสู่ฮับอีวีภูมิภาค คาด 4 ปี หนุนยอดขายอีวีทะลุ 8.3 แสนคัน

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ในช่วงเวลา 4 ปี (2567 – 2570) โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นฐานผลิตชั้นนำของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค 

 

“มาตรการ EV3.5 เป็นมาตรการที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรม EV อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฮับยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ซึ่งการออกมาตรการ EV3.5 ในครั้งนี้ จะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมอีวีในประเทศไทยเพิ่มเติม ทั้งการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายเดิมเปลี่ยนผ่านไปสู่ การผลิตอีวี รวมทั้งดึงบริษัทรถยนต์รายใหม่ๆ ให้เข้ามาตั้งฐานผลิตในประเทศเพิ่มเติมด้วย“

นายนฤตม์ กล่าวว่า บีโอไอในฐานะเลขานุการของบอร์ด EV ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินหน้าผลักดันเต็มที่ เพื่อให้ไทยบรรลุเป้าหมายการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด ภายในปี 2573 ตลอดจนสามารถรักษาความเป็นผู้นำด้านยานยนต์อันดับ 1 ในอาเซียน และ 1 ใน 10 ของโลก และสนับสนุนเป้าหมายของประเทศในการลดก๊าซเรือนกระจก และก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593

สำหรับมาตรการ EV 3.5 ที่จะมีผลใช้บังคับในช่วงปี 2567-2570 ครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยสิทธิประโยชน์ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เงินอุดหนุน การลดอัตราอากรขาเข้ารถยนต์สำเร็จรูป และการลดอัตราภาษีสรรพสามิต 

โดยเงินอุดหนุนจะเป็นไปตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่ ดังนี้

- กรณีรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh

  • จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน ในปีที่ 1  
  • 75,000 บาท/คันในปีที่ 2 และ 50,000 บาท/คันในปีที่ 3-4 

- สำหรับรถที่มีขนาดแบตเตอรี่ต่ำกว่า 50 kWh

  • จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คันในปีที่ 1
  • 35,000 บาท/คัน ในปีที่ 2
  • 25,000 บาท/คันในปีที่ 3-4

กรณีรถกระบะไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh

  • จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน ตลอดระยะเวลา 4 ปี เฉพาะส่วนที่ผลิตในประเทศ

กรณีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 150,000 บาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh

  • จะได้รับเงินอุดหนุน 10,000 บาท/คัน ตลอดระยะเวลา 4 ปี เฉพาะส่วนที่ผลิตในประเทศ

นอกจากนี้ ภายใต้มาตรการ EV 3.5 จะมีการลดอากรขาเข้าไม่เกิน 40% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูป (CBU) ที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีแรก (2567 – 2568) และลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท  

เปิดทุกเงื่อนไข ‘EV3.5’ ครม.เคาะหนุนรถอีวีอีก 4 ปี อุดหนุนสูงสุด 1 แสนบาท/คัน

เพิ่มเงื่อนไขผลิตในประเทศ

โดยได้กำหนดเงื่อนไขการลงทุนในประเทศ ให้ผู้ได้รับการสนับสนุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อชดเชยการนำเข้าภายในปี 2569 ในอัตราส่วน 1:2 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 2 คัน) และจะเพิ่มอัตราส่วนเป็น 1:3 ในปี 2570

โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเดิมที่เข้าร่วมมาตรการ EV 3 แล้ว หากมีความประสงค์จะเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ให้สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ได้ โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของแต่ละมาตรการ

คาดหนุนยอดขายอีวี 8.3 แสนคัน

ท้ังนี้ ภายใต้มาตรการ EV3.5 กรมสรรพสามิตคาดว่าจะมียานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนตลอดระยะเวลา 4 ปี จำนวนประมาณ 830,000 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 454,000 คัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 346,000 คัน และรถกระบะไฟฟ้า 30,000 คัน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณจำนวน 34,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 4 ปี

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้กรมสรรพสามิตขยายเวลาการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV 3 จากเดิมที่ต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2566 ให้ขยายเวลาเป็นต้องจำหน่ายภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2566 และต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 ม.ค. 2567 เพื่อให้ผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้อยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงปลายปี 2566 สามารถยื่นจดทะเบียนได้ทันภายในเดือนม.ค. 2567

ทั้งนี้ บีโอไอจะร่วมกับกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน จัดการประชุมผู้ประกอบการรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อชี้แจงรายละเอียดของมาตรการ EV 3.5 รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ประกอบการทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าร่วมกว่า 30 ราย และหน่วยงานภาครัฐ ในวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. 2566 เวลา 13.00 – 15.30 น. ณ C asean ห้องประชุม Auditorium ชั้น 10 อาคาร CW Tower ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ