ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

ฮอนด้า แอคคอร์ด Global Model ของฮอนด้า เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่น 11 เปิดตัวในไทย พร้อมคำวิจารณ์ และคำชื่นชม ผสมกันไป เสียงวิจารณ์แรกๆ หนีไม่พ้นเรื่องของการออกแบบ ส่วนเสียงที่ชื่นชอบคือ เรื่องของเทคโนโลยี ออปชั่น รวมถีงสมรรถนะ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่

ครับ ช่วงที่เผยโฉมใหม่ๆ ดูเหมือนว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด (Honda Accord) ที่เจเนอเรชั่น 11 จะมีเสียงวิจารณ์พอประมาณ ในด้านแนวทางการออกแบบที่บางคนมองว่าย้อนยุคไปหน่อย แต่เรื่องนี้ผมพูดอยู่เสมอว่าเป็นมุมมองของแต่ละคน เพราะความชอบไม่เหมือนกัน 

เอาเข้าจริงพอได้เจอตัวจริง เห็นมันวิ่งบนท้องถนน ผมว่ามันก็ดูดีครับ สวยแบบผู้ใหญ่ๆ สุขุม มีความพรีเมียมมากกว่าสปอร์ต

และที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องของรูปร่างหน้าตา ก็คือ การใช้งาน การขับขี่ 

ทั้งนี้การมาของ เจนฯ 11 ฮอนด้า โยนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทิ้งไป หันมาทำตลาดระบบฟูล ไฮบริดทุกรุ่นย่อย 

ซึ่งฟูล ไฮบริดของแอคคอร์ด มีมอเตอร์ 2 ตัว แต่ว่าที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนล้อหน้ามีแค่ตัวเดียว อีกตัวแยกไว้สำหรับสร้างพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เกียร์ เป็น E CVT

  • กำลังรวมสูงสุด 207 แรงม้า 
  • แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร 

ฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นรถที่สำคัญในฐานะแฟลกชิปโมเดลทั้งในระดับโลกและไทย และฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ พัฒนาระบบฟูลไฮบริด e:HEV ให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม 

โดยแอคคอร์ด เจเนอเรชัน 11 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ 

  • e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท 
  • e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท 
  • e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท 

ส่วนคันที่ผมขับ เป็นตัวท็อป RS ซึ่งเป็นรหัส RS ครั้งแรกของแอคคอร์ด แต่ฮอนด้ายังคงราคาไว้เท่ากับรุ่นท็อปเดิมของเจเนอเรชั่นที่ 10 คือ แอคคอร์ด ไฮบริด เทค (Honda Accord HYBRID TECH) 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

สำหรับการคงราคา ส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดนี้ ทั้งคู่แข่งโดยตรงในตลาด D-Segment อย่าง โตโยต้า คัมรี่ คู่แข่งที่มาจากตลาดเอสยูวี รวมถึงคู่แข่งใหม่อย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)

โดยเฉพาะการเปิดตัวของ บีวายดี ซีล (BYD Seal) ที่ทำราคาได้ในระดับที่ต่ำกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ 1,325,000 – 1,599,000 บาท 

นั่นคือช่วงการเปิดตัว แต่ถึงวันนี้ก็มีคู่แข่งอีวี เพิ่มเติมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น โอร่า 07 (ORA 07) หรือว่า ดีพอล 07 (Deepal 07) ของฉางอัน 

สำหรับแอคคอร์ดใหม่ ที่ทุกรุ่นย่อยเลือกใช้ขุมพลังไฮบริด แต่แม้จะเป็นแค่ไฮบริด ไม่ใช่ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด แต่ด้วยเทคโนโลยี การเซ็ท การชาร์จพลังงาน ทำให้แอคคอร์ดมีลูกเล่นกับพลังงานไฟฟ้าด้วยโหมด EV หรือการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว ได้ระยะทางสูงสุดประมาณ 3 กม. 

ไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ใช้ได้ครับ บางพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้เครื่องยนต์ทำงาน เช่น ชุมชน ที่ไม่ต้องการความเร็ว ก็เลือกโหมดนี้ได้เลย 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

โดยโหมดการขับขี่ของ แอคคอร์ด  มีให้เลือกตามความเหมาะสม และความต้องการ  แต่ละโหมดให้อารมณ์ต่างกันชัดเจน โดยปกติก็ใช้โหมด Normal ขับได้สบายๆ เดินทางทั่วไปได้ จะใช้ความเร็วในการเดินทาง หรือ เร่งแซง ก็ทำได้สบายๆ 

แต่เมื่อจำเป็นต้องเร่งรีบ เช่น ช่วงเช้าอยุ่กรุงเทพ สายๆ มีงานแถวศรีราชา ก่อนที่จะตีรถต่อไปยังนครปฐมตอนเย็น โหมด Sport จึงถูกนำมาใช้เพื่อจังหวะการแซง หรือเปลี่ยนช่องทางในพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งแอคคอร์ดไม่ทำให้ผิดหวัง รถที่มีความยาวหย่อนๆ 5 เมตร ซึ่งยาวกว่า เจนฯ 10 กลายเป็นรถที่คล่องแคล่วซะอย่างนั้น 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

ก็ต้องให้เครดิตกับระบบไฮบริดที่ให้แรงบิดที่สูง และมาได้เร็วจากการที่มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยกันทำงานกับเครื่องยนต์ และโดยสเปคของรถ ระบุอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 7.9 วินาที 

และแน่นอน การขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็ว การเปลี่ยนความเร็วกะทันหัน การเรียกแรงบิด การเปลี่ยนช่องทางไปมาอย่างรวดเร็วบ่อยครั้งนั้น สิ่งสำคัญคือ ช่วงล่างต้องรองรับให้ได้ ซึ่งแอคอร์ดก็ทำได้ดีในเรื่องนี้ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามันพัฒนาช่วงล่างขึ้นมาอย่างชัดเจนหรือว่าช่วงขับขี่ทางโค้ง ก็ยังควบคุมได้ดีแบบผิดหูผิดตา พวงมาลัยก็มีความแม่นยำสูง ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย ขับสนุก 

ขณะที่การขับขี่บนถนนหลวงทั่วที่ใช้ความเร็วค่อนข้างสูง รถนิ่ง ไม่มีอาการสั่น ร่อน ให้รู้สึกเหวอ รู้สึกเครียด 

เรียกว่าอารมณ์ภายในของรถต่างจากสิ่งที่เห็นภายนอกชัดเจน และก็ต่างจากรุ่นเดิมเช่นกัน พูดได้ว่ามันเป็น D Segment อารมณ์สปอร์ต 

ส่วนโหมด Eco มีใช้บ้างเมื่อขับขี่ในสภาพจราจรหนาแน่น เพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ลดโลกร้อนโดยไม่ต้องใช้ อีวี 

หรือใครจะปรับแต่งเองด้วย โหมด Individual ก็ได้เช่นกัน ซึ่งผมก็ใช้บ่อย โดยตั้งค่าตอบสนองของไฮบริดแบบ Normal และเลือกพวงมาลัยแบบสปอร์ต เพราะโดยส่วนตัวชอบที่รองรับการขับขี่ด้วยความเร็วได้มั่นใจขึ้น

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

จุดเด่นอีกอย่างคือ ความเงียบในห้องโดยสารที่ทำได้ดี แม้ว่าจะขับขี่ที่ความเร็วสูง ก็ยังเงียบ มาจากการพัฒนาหลายส่วน ทั้งโดยโครงสร้างรถเอง เช่น ไฟร์วอลล์ การซีล การปรับเซ็ทช่วงล่าง รวมถึงเทคโนโลนีหักล้างเสียงภายในห้องโดยสาร (ANC) พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)

และอีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ อัตราสิ้นเปลือง ที่อาจทำให้หลายคนที่อยากคบหากับ อีวี ต้องคิดเพิ่มก็ได้ เพราะเจ้ารถคันใหญ่ที่ อีโค สติกเกอร์ ระบุอัตราสิ้นเปลือง 25 กม./ลิตร การขับขี่ในกรุงเทพฯ ของผมบางช่วงค่าเฉลี่ยทะลุไปถึง 26 ด้วยซ้ำ

และเมื่อต้องตะบี้ตะบันกับเส้นทาง กรุงเทพฯ-ศรีราชา-กรุงเทพฯ-นครปฐม-กรุงเทพฯ ด้วยเวลาที่มีไม่มากนัก ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 17 กม./ลิตร 

เมื่อเฉลี่ยทั้งหมดเกือบๆ 700 กม. อยู่ที่ประมาณ 20 กม./ลิตร มันช่างน่าคบหาเสียจริง เรียกว่าเหยียบไม่ค่อยจะยุบครับ 

ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับตลาดเก๋ง D Segment ถ้าต้องการรถที่มีขนาดกว้างขวาง ขับง่าย ไม่เหนื่อย ขับสนุก ประหยัด 

ก็ไปลองขับ ลองนั่งเปรียบเทียบกันดูกับรถในตลาด ว่าคันไหนถูกใจที่สุด ซีึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกไม่มากนัก คือ โตโยต้า คัมรี ที่ก็เตรียมเปิดตัว เจเนอเรชั่นใหม่เช่นกัน 

หรือถ้าจะร่วมเอา EV เข้ามาด้วย ก็มีจะมีตัวเลือกอย่าง บีวายดี ซีล, โอร่า 07 หรือว่า ดีพอล แอล 07 

ลองเลือกกันดูครับ แต่ถ้าถามผม โดยส่วนตัว ณ วันนี้ ผมสนใจ แอคคอร์ด ครับ 

ครับโดยรวมถือว่า แอคคอร์ด ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ดี แต่ส่วนที่อาจจะยังเป็นจุดอ่อนสำหรับลูกค้าบางส่วนคือหน้าตา และการออกแบบภายในสำหรับใครที่ไม่ชอบแบบที่ออกไปทางเรียบๆ (แต่ผมชอบนะ) รวมถึีงระบบเตือนจุดอับสายตา หรือ blind spot ที่ลูกค้าหลายคนอยากได้แทน lane watch

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

ก็แล้วแต่ครับ แต่สำหรับผมมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะหากตั้งมุมกระจกมองข้างให้ดีๆ จุดบอดก็จะน้อย และหากจะเปลี่ยนเลน ก็ดูให้แน่ชัด และค่อยๆ ปรับองศาพวงมาลัย หรือหากเปลี่ยนหลายเลนก็ไปทีละเลน แค่นั้นก็ไม่มีปัญหา

แต่ปัญหาที่ lane watch มี คือ หากใครชอบดูแผนที่นำทางผ่า่นหน้าจอมอนิเตอร์ เมื่อเปิดไฟเลี้ยวซ้ายภาพจากกล้องจะมาแทนที่แผนที่ เท่านั้นเอง แต่ถ้าดูข้อมูลจากระบบแสดงผลที่กระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ก็ไม่มีปัญหา

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

ขณะที่ออปชั่นต่างๆ แอคคอร์ดให้มาเต็มที่ และก็มีสิ่งเด่นๆ ซึ่งบางอย่างก็เพิ่งมีเป้นครั้งแรก เช่น Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศตามความชอบแต่ละคน โดยบันทึกได้ 8 คน กล้องมองภาพรอบทิศทาง เครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง Charge Mode 

ถุงลม 8 ตำแหน่งในทุกรุ่นย่อย ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL) เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด ด้านหลัง 4 จุด เป็นต้น

หน้าจอสัมผัส  12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ ไฟเลี้ยว  LED Sequential ระบบควบคุมประตู Honda Smart Key System และ Honda Smart Key Card

 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

 

อัปเกรด Honda Sensing เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ทำงานได้แม่นยำและเนียนขึ้น จากการใช้ข้อมูลจากกล้องมุมกว้างและเรดาร์ ประกอบด้วย 

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
  • ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

ฮอนด้า แอคคอร์ด เหยียบ ไม่ยุบ บุคลิกใหม่ อารมณ์สปอร์ต ชัดเจน 

และที่เพิ่มขึ้นใหม่ในแอคคอร์ด คือ

  • ไฟหน้า Adaptive Driving Beam ที่ปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ที่มีเป็นครั้งแรกในแอคคอร์ดเช่นกัน 

นอกจากนี้ก็ยังมี ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่  ถุงลม 8 ตำแหน่ง ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย