ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ใหม่ (New Mercedes E-Class) รหัส W214 เปิดตัวในเวทีโลกเมื่อไม่นานมานี้ และเตรียมเปิดตัยวในไทยต้นปี 2567 ในรูปแบบรถประกอบในประเทศ หรือ CKD แต่ก่อนจะเปิดตัว ผมได้ไปลองขับที่ ออสเตรีย เมื่อไม่นานมานี้ และได้คำตอบว่ามันดีกว่า W213 ในทุกมิติ

ก่อนหน้านี้ผมเล่าถึงรายละเอียดของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ใหม่ (New Mercedes-Benz E-Class) รหัสตัวถัง W214 ที่ได้ไปสัมผัสตัวจริงที่เวียนนา ออสเตรียมาเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงจาก W213 หรือโฉมปัจจุบันที่ขายในบ้านเราอย่างน่าสนใจ

ทั้งเรื่องของเทคโนโลยี และภาษาการออกแบบ ที่เน้นความเรียบหรูมากขึ้น ลดเส้นสายต่างๆ รอบคัน เน้นความโค้งมน ลดรอยต่อในส่วนต่างๆ โดยรวมแนวคิดกลมกลืนกับ ซี-คลาส ใหม่ และมีกลิ่นอายของยุคใหม่ อย่าง อีคิว-เอส (EQS)

สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ https://www.bangkokbiznews.com/auto/1084091

สำหรับบ้านเรา อี-คลาส ใหม่ จะเริ่มทำตลาดต้นปี 2567 ใครที่รอไหวก็รอครับ ถ้ารอไม่ไหวผมว่าโฉมปัจจุบันก็เป็นรถที่ตอบสนองได้ดี ทั้งการขับขี่ หรือ ความสะดวกสบาย แต่แน่นอน สู้โฉมใหม่ไม่ได้ 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังไม่ระบุว่า จะทำตลาดรุ่นใด แต่ก็คงหนีไม่พ้น ปลั่๊ก-อิน ไฮบริด และ รุ่นดีเซล โดยจะเริ่มที่ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ก่อน ในรูปแบบของรถประกอบในประเทศ หรือ CKD เลยทันที 

สำหรับ อี-คลาส ที่ไปเจอที่ออสเตรีย นั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดเตรียมหลายรุ่นย่อยให้ได้ลองขับกัน ไม่ว่าจะเป็น E 200, E 300 e, E450 4Matic, E400 e 4 Matic, E220 d และ E300 de

เวลาประมาณ  1 วันครึ่ง ผมได้ลอง 3 คัน คือ E 300 e, E220 d และ E300 de

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

แต่วันนี้จะพูดถึงหลักๆ คือ E300 e กับ E220 d เป็นหลัก เพราะคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นที่เข้าไปทำตลาดในไทย โดยด้านเทคนิคนั้น E220 d น่าจะตรงรุ่น ส่วนตัวปลั๊ก-อิน ไฮบริด E 300 e ไม่แน่ว่าเข้ามาบ้านเรา อาจจะเปลี่ยนชื่อเล็กน้อย และปรับจูนเครื่องยนต์ให้เหมาะกับด้านต่างๆ เช่น เงื่อนไขด้านไอเสีย หรือว่าเชื้อเพลิง แต่ก็คงไม่ต่างกันมากนัก

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

ทั้ง 2 รุ่น มีจุดเด่นเฉพาะตัว E220 d นั้น เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้หลงใหลในอารมณ์ของดีเซล ยิ่งถ้าได้รู้ว่านี่จะป็น ดีเซล ตัวสุดท้ายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็น่าจะอยากซื้อไว้ ทั้งเห็นว่ามันเป็นรุ่นสุดท้าย และการมองว่ามันคือการพัฒนามาถึงขั้นสุดท้าย ดังนั้นมันคือความสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว 

เมื่อขับขี่ผมชอบเสียงของเครื่องยนต์ที่เข้ามาจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่มันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว แม้ตอนขับที่ความเร็วต่ำๆ เป็นเสียงคราง ดูขรึมๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงที่ทำให้รำคาญแต่อย่างใด

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

ขระที่อารมณ์ของรถก็ออกแนวดุดัน การเรียกกำลังของรถมาได้อย่างต่อเนื่อง จังหวะเร่งแซงต่างๆ ทำได้เร็ว และการไล่ความเร็วขึ้นไป ทำได้นุ่มนวลต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ E220 d ไม่ได้มีแต่เครื่องยนต์เพียวๆ แต่เป็นระบบไมล์ด ไฮบริด ที่มีมอเตอร์ 48 โวลต์ ที่มีแรงบิด 205 นิวตันเมตร คอยช่วยเหลือในบางจังหวะที่ต้องการกำลังพิเศษ เช่น ออกตัว หรือ เร่งแซง

และที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ อัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้ประมาณ 20 กม./ลิตร 

ส่วน E300 e ซึ่งเป็นปลั๊ก-อิน ไฮบริด ก็เป็นรถที่กระฉับกระเฉงเช่นกัน การไล่ความเร็ว การเร่งแซง ทำได้เร็วมาก และเป็นแบบง่ายๆ สบาย เพราะทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า 127 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ทำให้มันเป็นเรื่องง่าย 

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

ทั้ง 2 เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีเหมือนกัน ต่างกันที่อารมณ์ ถ้าเป็นปลั๊ก-อิน การกดคันเร่งก็แค่แตะน้ำหนักเบาๆ ถ้าเป็นดีเซลก็กดมากกว่ากันเล็กน้อย แต่ก็จะได้อารมณ์ไปอีกแบบ 

ทั้ง 2 รุ่น ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G TRONIC

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

ช่วงล่าง หรือการเซ็ทรถ ถ้าเทียบกับโฉมปัจจุบัน ดีขึ้นชัดเจน ซึ่งก่อนไปออสเตรียไม่กี่วัน ผมได้ขับโฉมเดิมไปกลับ-พัทยา ก็ยังรู้สึกถึงความคล่องตัวความสนุก กับการที่ต้องขับเปลี่ยนช่องทางไปมา ระบบไฮบริดทำงานได้ดี ช่วงล่างควบคุมเส้นทางได้ดี แต่ก็ยังมีจังหวะให้ตัวของตัวถังอยู่บ้างเมื่อใช้ความเร็วสูงในการเปลี่ยนช่องทางไปมา

แต่ก็ W214 อาการเหล่านี้แทบไม่มี รถนิ่งมากในจังหวะการเข้า-ออก โค้ง ส่วนการเปลี่ยนเลนไปมานั้นมีน้อย เพราะคนที่นั่นไม่ขับรถเหมือนคนจำนวนมากในบ้านเรา แต่ทางโค้งมีเยอะทั้งทางนอกเมือง หรือทางบนภูเขา นั่นช่วยให้ขับได้สนุกทีเดียว 

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

และสำหรับ E300 e ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่น 4 เพิ่มความจุแบตเตอรีเป็น 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลสุด 115 กม.(WLTP) น่าจะตอบโจทย์คนที่ชอบอารมณ์ อีวี แต่ไม่พร้อมไปแย่งที่ชาร์จสาธารณะ

ส่วนการชาร์จนั้นรองรับทั้งชาร์จปกติ 11 กิโลวัตต์ และชาร์จเร็ว 55 กิโลวัตต์

เส้นทางการลองขับครั้งนี้หลากหลาย ทั้งไฮเวย์ ทางชนบท บางภูเขา และทางในเมืองที่ปะปนไปกับคนเดินเท้า และบางช่วงยังต้องคลานตามรถม้าท่องเที่ยวเป็นระยะๆ

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

แต่ก็ทำให้ได้คำตอบที่น่าสนใจว่า อี-คลาส ใหม่ตอบสนองทั้งอารมณ์สปอร์ต การขับขี่ที่สนุก หรือ เมื่องต้องการความสะดวก หรือขับแบบผ่อนคลาย มันก็ทำได้เช่นกัน แม้จะมีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่าโฉมเดิมในทุกมิติก็ตาม 

แต่ทั้งนี้ต้องมีหมายเหตุเล็กน้อยว่า สภาพถนนหนทางก็มีผลเหมือนกัน ซึ่งที่นั่นเกือบร้อยทั้งร้อย ทั้งในเมืองนอกเมือง เรียบกริบครับ

นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ยกระดับขึ้นจากโฉมเดิมอย่างชัดเจน ภายในห้องโดยสารก็ยกระดับขึ้นเช่นกัน รวมถึงออปชั่นต่างๆ ที่พูดถึงไปแล้วก่อนหน้านี้

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ  

ขนาดตัวถัง ฐานล้อ ที่ยาวขึ้น ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่มากขึ้น และการลองนั่งที่เบาะหลังสบายมากทีเดียว นี่เป็นจุดขายสำคัญของค่ายตราดาวเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ในรุ่นที่ผ่านๆ มา ที่หลายคนอาจชอบบุคลิก การขับขี่ของ ซีรีส์ 5 มากกว่า

แต่ถ้าผู้บริหารที่นั่งเบาะหลัง น่าจะชอบ อี-คลาส มากกว่า 

เบาะกระชับ องศาพนักพิงเหมาะเจาะ ช่วยให้นั่งได้ผ่อนคลาย พื้นที่วางเท้าเหลือเฟือ พื้นที่ว่างช่วงเข่าและเหนือศีรษะก็เหลือๆ มีช่องแอร์รองรับทั้งตรงกลาง และที่เสา B ทั้ง 2 ด้าน 

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

 ความสบายยังมาพร้อมกับการที่รถนิ่ง ทั้งการขับขี่ทั่วไป หรือ การขับขี่ในทางโค้ง ที่แม้จะต้องเลี้ยวไปมาตามโค้ง แต่การโยนตัวของตัวถังที่ลดลง ก็ทำให้สบายมากขึ้น 

รวมถึงจังหวะเบรก จะเบรกปกติ หรือว่า เบรกค่อนข้างหนักอยู่บ้างไม่บ่อยนัก แต่ก็รู้สึกได้ว่า อาการหน้ายุบ ท้ายยกนั้นไม่มี

เรียกว่ายังรักษาจุดเด่นในการเป็นรถที่สำหรับผู้นั่งเบาะหลังได้ดี ทีนี้ต้องรอดูว่า คู่แข่งอย่างซีรีส์5 ซึ่งรอบนี้ดันบังเอิญมาเปิดในเวลาไล่เลี่ยกัน จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง 

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

และก็เช่นเดิมครับ ต้องรอดูว่าถ้าต้องขับในสภาพถนนบ้านเราที่ไม่ได้เรียบกริบ มีทั้งขรุขระ คลื่น ลอน ร่อง และโดด (คอสะพาน) จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็น่าจะไหวอยู่ เพราะรุ่นน้อย อย่าง ซี-คลาส ที่เคยลองขับก่อนหน้านี้ ก็จัดการกับเส้นทางแบบนี้ได้ค่อนข้างน่าพอใจทีเดียว 

ส่วนเบาะนั่งผู้ขับขี่ นุ่มแต่กระชับตัว ช่วยได้มาก เมื่อต้องการขับขี่แบบอารมณ์สปอร์ต ตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ควบคุมง่าย ทัศนวิสัยดี และในรุ่นที่มีระบบแสดงข้อมูลที่กระจกหน้า หรือ HUD ชัดเจนมากครับ รายละเอียดขนาดใหญ่เห็นได้ชัด ทั้งข้อมูลการขับขี่ หรือ ระบบนำทาง 

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

และจุดเด่นอีกอย่างคือ ระบบเสียง ที่เป็นเบอร์เมสเตอร์ และยังมี ดิจิทัล แอทมอส มาให้ เรียกว่าความละเอียด ความลึกของมิติเสียงชัดเจนมาก และยังตัดเสียงรบกวน ออกไปก่อนที่จะปล่อยเสียงออกมาอีกด้วย 

ลองขับ Benz E-Class ใหม่ มาไทยปีหน้า เนียนขึ้นทุกมิติ

สรุป จากการลองขับ ลองนั่ง น่าพอใจมาก เพราะมันพัฒนาขึ้นจากรุ่นเดิมชัดเจน ทีนี้ก็เหลือแต่รอลุ้นว่าเมื่อเข้ามาเมืองไทย แล้วราคาจะเป็นอย่างไร รออีกไม่นานครับ