ตั้งแก๊งขโมยรถส่งขาย จับ 'ผู้พันแม็ค' ขบวนการเรียกค่าไถ่ประเทศเพื่อนบ้าน

ตั้งแก๊งขโมยรถส่งขาย จับ 'ผู้พันแม็ค' ขบวนการเรียกค่าไถ่ประเทศเพื่อนบ้าน

ตำรวจทางหลวง จับมือ บก.ปปป. บุกรวบคารีสอร์ท "ผู้พันแม็ค" อดีตทหารนอกรีตยศพันโท ตัวการใหญ่ตั้งแก๊งโจรกรรมรถหรู ทำทีขอเช่าตามเต็นท์ ก่อนส่งขายขบวนการเรียกค่าไถ่รถประเทศเพื่อนบ้าน พบประวัติโชกโชน มี 4 หมายจับติดตัว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. สั่งการ พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล. พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ฝอ.กก.2 บก.ปปป. นำกำลังเข้าจับกุม "ผู้พันแม็ค" นายเจษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” ขณะกำลังพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ท ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากก่อนหน้าได้มีแก๊งโจรกรรมรถออกอาละวาดตระเวนหลอกเช่ารถหรู จำพวกรถยนต์เอนกประสงค์ยอดนิยมอย่าง โตโยต้า อัลพาร์ด Alphard และ เวลล์ไฟร์ Vellfire ตามเต็นท์รถเช่าต่างๆ ในหลายพื้นที่ ก่อนเชิดหนีหายไป จนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง 

โดยพฤติกรรมมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะทำทีอ้างว่าต้องการใช้รถชั่วคราว 2 วัน พร้อมกับจ่ายเงินค่าเช่าให้ในทันที 50,000 บาท แต่เมื่อได้รถไปแล้วก็จะตัดขาดการติดต่อ ก่อนนำรถไปส่งขายต่อให้กับนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นนายทุนประเทศเพื่อนบ้านที่รับซื้อรถ ก็จะติดต่อกลับมาหาผู้เสียหาย พร้อมยื่นข้อเสนอหากต้องการรถกลับคืนต้องนำเงินจำนวน 1.5-1.7 ล้านบาท มาไถ่ถอน คล้ายกับการเรียกค่าไถ่รถ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องผู้เสียหายหลายราย จึงกระจายเข้าแจ้งความตามท้องที่ต่างๆ จนมีการตามจับกุมสมาชิกผู้ร่วมขบวนการได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมี ครูชำนาญการพิเศษรวมอยู่ด้วย ก่อนให้การซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายเจษฎา หรือ “ผู้พันแม็ค” ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งอดีตเคยเป็นนายทหารยศพันโท ด้วยเงินจำนวน 20,000 บาท ให้ไปติดต่อเช่ารถหรูตามเต็นท์ต่างๆ แล้วนำมาส่งมอบให้ 

จากนั้นนายเจษฎา ก็จะขับรถมุ่งหน้าไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อส่งข้ามฝั่งไปขายต่อให้กับ นายทุนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่กระขบวนการเรียกค่าไถ่รถต่อไป เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำมาสู่การจับกุมตัว นายเจษฎา หัวหน้าขบวนการโจรกรรมรถได้ดังกล่าว

สอบสวนนายเจษฎา ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว เรื่องที่เกิดขึ้นตนถูกใส่ร้าย หรือกลั่นแกล้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติพบ มีหมายจับในคดีลักษณะเดียวกันติดตัว 4 หมายจับ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป