ลองแล้ว น่าเลือก "BYD DOLPHIN" เหลือแค่ลุ้นราคา 

ลองแล้ว น่าเลือก "BYD DOLPHIN"  เหลือแค่ลุ้นราคา 

บีวายดี ดอลฟิน (BYD DOLPHIN) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) รุ่นที่ 2 ของ บีวายดีในประเทศไทย เปิดให้ลูกค้าจองสิทธิ์ซื้อตั้งแต่งานมอเตอร์โชว์ และเตรียมเปิดราคาวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ แต่ก่อนจะรู้ค่าตัว เอาไปเรียนรู้อารมณ์ของโลมาตัวนี้ จากการลองขับ BYD DOLPHIN กันก่อน  

บีวายดี ดอลฟิน (BYD DOLPHIN) เป็นรถที่สร้างขึ้นบน อี-แพลทฟอร์ม มีขนาดที่เล็กกว่ารุ่นพี่อย่าง ATTO 3 แต่ว่าความสามารถในการยืดหยุ่นของ อี-แพลทฟอร์ม ทำให้มีระยะฐานล้อที่สั้นกว่าแค่ 2 ซม.เท่านั้น 

โดย ดอลฟิน มีมิติตัวถัง

  • ความยาว 4,290 มม.
  • ความกว้าง 1,770 มม. 
  • ความสูง 1,579 มม.​
  • ระยะฐานล้อ 2,700 มม.

ซึ่งระยะฐานล้อที่ยืดยาว ในขณะที่ตัวถังสั้นลง ทางเทคนิคอย่างแรกก็คือ โอเวอร์แฮงก์ที่สั้น ซึ่งจะมีผลต่อความคล่องตัว และการควบคุมรถ 

และสิ่งที่จะได้ตามมาคือพื้นที่ในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น บวกการการเป็นอีวี ที่สามารถลดพื้นที่สำหรับเครื่องยนต์ และรายละเอียดอื่นๆ ทำให้มีอิสระในการออกแบบมากขึ้น

ดังนั้นแม้ว่าตัวถังจะสั้นลง แต่การนั่งในห้องโดยสาร ค่อนข้างสบาย และผู้นั่งเบาะหลัง ก็มีพื้นที่วางเท้า และพื้นที่ว่างช่วงเข่าที่ไม่ติดกับเบาะหน้า 

แต่แน่นอนในด้านความกว้างที่แคบกว่า ถ้าเบาะหลังนั่ง 3 คน ก็จะเบียดกันสักหน่อย แต่ถ้านั่ง 2 คน ก็สบายๆ ครับ 

ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะ สำหรับเบาะนั่งแถวหลัง แม้ว่าโครงสร้างหลังคาจะลาดลง แต่ก็มีพื้นที่เหลือพอสำหรับคนสูง 180 ซม. นั่งได้ ไม่ติดหลังคา

ลองแล้ว น่าเลือก \"BYD DOLPHIN\"  เหลือแค่ลุ้นราคา 

.

ลองแล้ว น่าเลือก \"BYD DOLPHIN\"  เหลือแค่ลุ้นราคา 

ดอลฟิน นั้นมี 2 รุ่น คือ Standard Range และ Extended Range ซึ่งรายละเอียดแตกต่างกันพอสมควร ไม่ใช่แค่ความจุ แบตเตอรี 44.9 kWh กับ 60.48 kWh เท่านั้น 

แต่ยังรวมถึงขุมพลัง แรงม้า แรงบิด และออปชั่นอีกหลายรายการ 

แต่วันนี้ผมขอพูดถึงรุ่น Extended Range ก่อน เพราะเป็นรถที่ผมลองขับ BYD DOLPHIN จากกรุงเทพฯ มาพัทยา วันนี้

แบตเตอรี  Blade Battery ที่มีชื่อเสียงของ บีวายดี ขนาดความจุ 60.48 kWh ของ Extended Range รองรับการใช้งานสูงสุด 490 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC 

แต่การลองขับจริง แบบขับจริงๆ ปกติทั่วไป ไม่ได้เน้นต้องสร้างตัวเลขความประหยัด ตกอยู่ที่ 15 kWh/ 100 กม.​ เมื่อคำนวณคร่าวๆ ตามรูปแบบการขับขี่จริงๆ ของผม ก็จะตกอยู่ประมาณ 400 กม. ซึ่งผมถือว่าโอเค รับได้ และจัดเป็น อีวี อีกรุ่นที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันค่อนข้างสะดวก 

ด้านสมรรถนของมอเตอร์ไฟฟ้า ก็ไม่เบา ร้อนแรงทีเดียว เท่ากับรุ่นพี่อย่าง ATTO 3

  • กำลังสูงสุด 201 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร 
  • อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม.  7.1 วินาที 

แรงม้า แรงบิดที่เท่ากัน แต่ตัวเล็กกว่า ทำให้มันดูจี๊ดจ๊าดกว่า ATTO 3 และคล่องตัวกว่าในสภาพจราจรที่หนาตา เพราะมันไปยังพื้นที่ว่างบนท้องถนนได้เร็วกว่า 

แน่นอนต้องขอบคุณแรงบิดที่สูง ที่ช่วยกระชากรถไปยังตำแหน่งว่างได้ในเวลาที่รวดเร็ว 

เช่นเดียวกับจังหวะเร่งแซง มันทำได้รวดเร็วทันใจ เป็นจุดเด่นของแรงบิดที่สูง และการตอบสนองที่รวดเร็วของมอเตอร์ไฟฟ้า

นี่คือจุดเด่นของ อีวี ที่ควรใช้ คือ ใช้ในจังหวะที่เปลี่ยนความเร็ว หรือใช้เพื่อนำรถออกจากพื้นที่อันตราย ไม่ได้แรงเอาไว้ให้ซิ่งครับ

ลองแล้ว น่าเลือก \"BYD DOLPHIN\"  เหลือแค่ลุ้นราคา 

ซึ่งหากจะพูดถึงเรื่องความเร็ว ตามสเปค ดอลฟิน ระบุว่าความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กม./ชม. แต่การหาสถานที่โล่งๆ ลองดู มันขึ้นไปเกือบ 170 กม./ชม. และเป็นการไต่ความเร็วขึ้นได้ค่อนข้างเร็ว

มันช่วยให้ขับได้สนุก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ขับกันที่ความเร็วสูงๆ แบนนี้นะครับ แต่การไล่ความเร็วที่ทำได้เร็ว ก็เริ่มตั้งแต่ความเร็วต่ำๆ ถึงระดับความเร็วกฎหมายกำหนด นั่นก็ทำให้ขับสนุก รีดอารมณ์สปอร์ตได้ 

ซึ่งโหมดการขับมีทั้ง eco, normal และ sport หากใช้โหมด sport ก็จะตอบสนองรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ยืนยันว่าใช้ normal ก็ขับได้สนุกแล้วครับ 

ลองแล้ว น่าเลือก \"BYD DOLPHIN\"  เหลือแค่ลุ้นราคา 

ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลัง มัลติลิงค์ บีม เกาะถนนได้ดี รถนิ่งในทุกย่านความเร็ว การขับขี่ในทางโค้งทั้งโค้งกว้างๆ บนทางหลัก หรือ โค้งแคบๆ ในเส้นทางย่านอ่างเก็บน้ำบางพระ ให้ความรู้สึกดี เกาะถนนอยู่ แม้หลายโค้ง มองด้วยตาก็นึกถึงคนออกแบบ นึกถึงคนสร้าง เพราะเป็นโค้งแบบเทออก แทนที่จะเอียงรับความเร็วของรถ 

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่สปอร์ต ก็ยังไปไม่สุด เพราะเซ็ทมานุ่มไปสักหน่อย ทำให้มีจังหวะโยนตัวให้รู้สึกได้ หากเซ็ทแข็งกว่านี้อีกสักนิด น่าจะทำให้ขับได้สนุกมากขึ้น 

แต่ถ้ามองในมุมของการขับขี่ในเมือง หรือ เดินทางออกต่างจังหวัด จะทางหลวง ทางเขา แต่ขับไปเรื่อย ร่วมกับรถคันอื่นๆ บนท้องถนน อันนี้สบายๆ ครับ

สำหรับยางของ ดอลฟิน Extended Range ขนาด 205/50 R17

พวงมาลัย น้ำหนักดี แม่นยำ ส่วนการชาร์จกลับพลังงาน ถ้าเป็นค่า deafalt จากโรงงานจะเลือกแบบสูงทุกครั้งหลังสตาร์ท ซึ่งทำให้มีแรงหน่วงเมื่อถอนคันเร่งมากกว่า อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ก็สามารถปรับได้ที่หน้าจอ อินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 12.7 นิ้ว เป็นแบบปกติได้ ทำให้รู้สึกไม่ต่างจากการขับรถทั่วไป 

พูดถึงจอนี้ก็เหมือนกับรุ่นพี่ คือ หมุนได้ อยากได้แบบแนวตั้ง หรือ แนวนอน ก็กดปุ่มเลือกเอา

ลองแล้ว น่าเลือก \"BYD DOLPHIN\"  เหลือแค่ลุ้นราคา 

ถ้าพูดถึงภาพรวม และการขับขี่ บีวายดี ดอลฟิน Extended Range เป็นรถที่น่าสนใจครับ ใครอยากได้ อีวี ขนาดย่อมๆ ไว้ใช้งานสักคัน ก็ปักหมุดรอได้ และเมื่อ เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้แทนจำหน่ายในไทย ประกาศราคาวันที่ 6 กรกฎาคม แล้วถูกใจ ก็ซื้อได้เลยครับ

แต่ถ้าให้เดา ตัวนี้ก็คงไม่เกิน 800,000 บาท ส่วนตัว Standard Range ก็น่าจะถูกกว่ากันสัก 100,000 บาท ครับ 

ลองแล้ว น่าเลือก \"BYD DOLPHIN\"  เหลือแค่ลุ้นราคา