ดีไซน์ใหม่ Porsche Cayenne ถอดแบบ Taycan - 911

ปอร์เช่ ระบุที่สตุ๊ทการ์ท สำนักงานใหญ่ เยอรมนีว่า ปอร์เช่ คาเยนน์ ใหม่ (Porsche Cayenne) รุ่นใหม่ เตรียมเผยโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023 ประเทศจีน วันที่ 18 เมษายนที่จะถึงนี้

โดยในงานนี้ปอร์เช่จะนำเสนอแนวคิดใหม่ในการออกแบบในส่วนของหน้าจอแสดงผล และระบบบังคับควบคุม ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นการสร้างประกสบการณ์ใหม่สำหรับการขับขี่
โดยหน้าจอใหม่ของ ปอร์เช่ คาเยนน์ จะเป็นหน้าจอดิจิทัลสมบูรณ์แบบ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน 

นอกจากนี้ยังออกแบบการจัดวางปุ่มควบคุมระบบต่างๆ ที่บริเวณคอนโซลกลางโดยคำนึงถึงการใช้งานของผู้ขับขี่เป็นหลัก และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นหลักในการใช้งานที่ถูกจัดวางรวมกันที่บริเวณพวงมาลัย 

ส่วนการดีไซน์ภายในห้องโดยสาร มีแนวคิดคือการสะท้อนความหรูหรา โดยใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ถ่ายทอดความพรีเมี่ยมจากรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าหรือ อีวี (EV) ตัวเก่ง ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan)

นั่นถือเป็นครั้งแรกที่มีการปรับเปลี่ยนแนวคิดดังกล่าว มาใช้กับรถยนต์ ปอร์เช่ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่จะได้เห็นหน้าจอแสดงผลดิจิทัลทรงโค้งมน ดีไซน์แบบ free-standing 

ขณะที่คอนโซลกลางก็ออกแบบใหม่ทั้งหมด มาพร้อมพวงมาลัยเจเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมคันเกียร์ติดตั้งบริเวณฝั่งขวาของพวงมาลัย ทำให้มีพื้นที่บริเวณคอนโซลกลางสำหรับแผงควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศเพิ่มขึ้น

โดยแผงควบคุมดีไซน์แบบพรีเมียม ด้วยสีดำ 

นอกจากนี้ยังอัพเกรดระบบการสื่อสารที่เชื่อมต่อกับตัวรถและผู้ขับขี่ ผ่านหน้าจอสำหรับผู้โดยสาร 

ห้องโดยสารของปอร์เช่ คาเยนน์ Cayenne ใหม่ เน้นการออกแบบใหม่ที่เข้าถึงการใช้งานของผู้ขับขี่และระบบการเชื่อมต่อภายในรถ

ทั้งนี้แผงหน้าปัดดิจิทัลทรงโค้งมนขนาด 12.6 นิ้วแบบ free-standing มีความคมชัด รูปทรงเพรียวบาง ล้ำสมัย ผู้ขับขี่สามารถเลือกมุมมองหน้าปัดที่แตกต่างกันได้ 7 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

ความเร็วรอบเครื่องยนต์ ระบบนำทาง online navigation ระบบเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน Night Vision Assist หรือระบบ 3D driving assistance 

นอกจากนี้ยังสั่งการให้ลดขนาดการแสดงข้อมูล และเข้าสู่โหมดคลาสสิคบนแผงหน้าปัดดีไซน์วงกลมห้าวงตามสไตล์ดั้งเดิมของปอร์เช่ ซึ่งมาในรูปแบบดิจิทัลได้อีกด้วย

ขณะที่ฝั่งผู้โดยสาร เป็นครั้งแรกของ ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) ที่ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 10.9 นิ้วระบบสัมผัส ทำให้ผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับแต่งการทำงานได้โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่ เช่น สั่งการระบบนำทาง หรือเลือกใช้บริการสื่อความบันเทิง 

และยังติดตั้งแผ่นฟิล์มแบบพิเศษ เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่ หมายความว่า ผู้โดยสารสามารถรับชมวีดีโอผ่านหน้าจอดังกล่าว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขับขี่
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบใหม่ติดตั้งบนฝั่งซ้ายของพวงมาลัย

แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบใหม่ ที่มาพร้อมปุ่มแบบอะนาล็อก นอกจากนี้ปอร์เช่ยังออกแบบปุ่มควบคุมระบบช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ โดยติดตั้งไว้บนพวงมาลัยของคาเยนน์ 

ซึ่งพวงมาลัยเป็นแบบสปอร์ตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปอร์เช่ 911 โดย เปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ดีไซน์สปอร์ตและทันสมัย 

สวิทช์เปลี่ยนโหมดสำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Normal, Offroad, Sport และ Sport Plus ติดตั้งบนพวงมาลัย 
ปุ่ม toggle สำหรับเลือกและออกแบบฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ ของแผงหน้าปัด ติดตั้งบนพวงมาลัย โดยสามารถควบคุมอุปกรณ์พิเศษ head-up display ได้อีกด้วย

แผงควบคุมระบบปรับอากาศบริเวณคอนโซลกลาง สามารถตั้งค่าการทำงานของระบบปรับอากาศได้รวดเร็ว แม่นยำ และสวิทช์ปรับอากาศแบบกลไก 

ช่องวางโทรศัพท์มือถือมาพร้อมฟังก์ชั่นชาร์จไร้สายและระบบระบายความร้อน ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งปอร์เช่ ระบุว่าการลดความร้อนสามารถเพิ่มกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จได้สูงสุดถึง 15 วัตต์ 

นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบบริการ online ด้วยทางเลือกมากขึ้น เช่น การสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri voice assistant เพื่อควบคุมฟังก์ชั่นของรถ ติดตั้งช่องเชื่อมต่อ USB-C 2 ตำแหน่งในช่องเก็บของคอนโซลหน้า และ USB-C อีก 2 ตำแหน่งในบริเวณส่วนท้ายของคอนโซลกลาง โดยทั้งหมดมาพร้อมฟังก์ชั่น fast charging 

หนึ่งช่องด้านหน้าสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเข้ากับระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM) เพื่อจับคู่โทรศัพท์กับรถยนต์ ด้วยการสแกน QR code ที่แสดงบนหน้าจอ PCM 

ฟังก์ชั่น In-Car Video สามารถรับชมวีดีโอได้โดยตรงผ่านระบบ PCM จากผู้ให้บริการ streaming provider Screenhits TV แสดงผลบนหน้าจอกลางทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อรถยนต์จอดอยู่กับที่ และรับชมได้จากหน้าจอฝั่งผู้โดยสารในระหว่างการขับขี่