‘โตโยต้า’ครองยอดขายอันดับหนึ่ง สามปีซ้อน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน แม้เจอปัญหาขาดแคลนชิปและซัพพลายเชนปั่นป่วนผลจากโควิด โตโยต้าและบริษัทในเครือขายรถได้เกือบ 10.5 ล้านคันในปี 2565 พอๆ กับในปี 2564เปรียบเทียบกับโฟล์คสวาเกนกรุ๊ป ที่เคยครองแชมป์ยอดขายมาตลอดจนกระทั่งถูกโตโยต้าแซงในปี 2563 ขายรถได้ 8.3 ล้านคันในปีที่ผ่านมา ลดลง 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

แถลงการณ์โตโยต้าระบุ “แม้มีผลกระทบจากการผลิตติดขัดเพราะโควิด-19 ระบาด, ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์เพิ่ม และปัจจัยอื่นๆ ยอดขายทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อนหน้า ผลจากความต้องการรอบๆ เอเชียแข็งแกร่ง”

ส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ปี 2565 โตโยต้าขายได้ 2.7 ล้านคัน มากกว่าปี 2564 ราว 5% ซึ่งรถไฟฟ้าที่ขายได้ในปีนั้น 2.6 ล้านคันส่วนใหญ่เป็นรุ่นไฮบริด ที่โตโยต้าเป็นเจ้าในเรื่องนี้ แต่นักวิจารณ์บางคนกล่าวว่า บริษัทไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบตเตอรีเสียที ทั้งๆ ที่ความต้องการรถยนต์มลพิษต่ำพุ่งสูงมาก ส่งผลให้ปีก่อนโตโยต้าต้องเพิ่มเป้าแผนกรถยนต์ไฟฟ้า ประกาศว่าจะออกรถไฟฟ้าพลังงานแบเตอรี 30 รุ่นภายในสิ้นทศวรรษ

มิโอะ คาโตะ นักวิเคราะห์บริษัทไลท์สตรีมรีเสิร์ช เผยกับเอเอฟพีว่า โตโยต้ามีแนวโน้มรักษาตำแหน่งได้ต่อไปในอนาคตอันใกล้

“ในแง่ของปริมาณ ยังเป็นเรื่องยากสำหรับโฟล์คสวาเกนหรือเจเนอรัล มอเตอร์ที่จะแซงโตโยต้าได้เพราะทั้งสองบริษัทเจอแรงกดดันเรื่องธุรกิจยานยนต์สันดาปภายในในจีนมากกว่า” แต่วันหนึ่งบริษัทผลิตรถอีวีอย่างเดียว เช่น บีวายดีของจีน จะกลายเป็น “ภัยคุกคามที่แท้จริง” ต่อโตโยต้า เพราะมีเทคโนโลยีแบตเตอรีแข็งแกร่ง อีกทั้งมีแบรนด์และประสบการณ์อีวีดีกว่า กระนั้น ผู้ผลิตอีวีอย่างเดียวยังเล็กเกินกว่าจะมาแข่งกับบริษัทเจ้าตำนานได้ อย่างน้อยๆ ก็ต้องรออีกหลายปี

สัปดาห์ก่อนโตโยต้าเปลี่ยนผู้บริหารแบบไม่ให้ใครตั้งตัว แต่งตั้งโคจิ ซาโตะ เป็นประธานและซีอีโอคนใหม่แทนอากิโอะ โตโยดะ ผู้นำรุ่นที่ 3 ของตระกูล