“Neta V” ไม่ใช่แบรนด์รถอีวี “ปตท.” “อรุณ พลัส”เดินหน้าโรงงานผลิตครบวงจร

“Neta V” ไม่ใช่แบรนด์รถอีวี “ปตท.” “อรุณ พลัส”เดินหน้าโรงงานผลิตครบวงจร

กลุ่ม ปตท. ยัน แบรนด์ “Neta V” ไม่ใช่แบรนด์ ปตท. ย้ำชัด เป็นผู้รับผลิตรถอีวีครบวงจร ไม่คิดทำแบรนด์รถแข่งกับใคร เดินหน้าผู้นำด้านระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร พาประเทศไทยก้าวสู่ยุคแห่งสังคม ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรตั้งแต่การผลิตรถทั้งคัน

นายเอกชัย ยิ้มสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ผู้นำด้านระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร หนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ของ ปตท.  กล่าวว่า จากกระแสโซเชี่ยลที่ออกมากระหน่ำว่า กลุ่ม ปตท. ไม่รับผิดชอบในการสั่งรถแบรนด์ Neta V ของ บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ประเทศจีน

ทั้งนี้ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ปตท.ถือหุ้น 100% ได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน โดยจะสร้างความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายโอกาสทางธุรกิจ EV แบบครบวงจร อาทิ ให้บริการเช่า หรือจัดจำหน่าย EV พวงมาลัยขวารุ่นแรกของแบรนด์ Neta V ผลิตโดย Hozon เป็นต้น

“ยืนยันว่าแบรนด์รถ Neta V ไม่ใช่แบรนด์ของปตท. โดยเรายังคงมีการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้ฮอริษอนผลิตรถอีวีให้ตามการเข้ารับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลภายใน 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าจองรถมาจำนวนหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่ากลุ่ม ปตท. ไม่ได้ผลิตรถอีวีในแบรนด์ของตัวเอง และจากกระแสโซเชียลมีเดียระบุว่า เนต้า วี เป็นรถของ ปตท. และไม่ยอมนำเข้ามาภายหลังการจองและปตท. ไม่รับผิดชอบนั้น อยากจะให้เข้าใจว่า เนต้า วี เป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจเราเช่นกัน”

ทั้งนี้ ฮอริษอน พลัส  ถือเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส กับ Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. (FOXCONN) หรือ ฟ็อกซ์คอนน์ ผู้นำเทคโนโลยีนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าบนพื้นที่ 313 ไร่ ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา

ส่วนงบลงทุนโครงการกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ของ ฮอริษอน พลัส มูลค่า 36,100 ล้านบาท จะแบ่งงบลงทุนออกเป็น 2 ส่วน โดยก้อนแรกจะลงทุนที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเดินหน้าโรงงานดันกำลังผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 4 ล้อ ต้นปี 2567 กำลังการผลิตระยะแรกปีละ 50,000 คัน และงบประมาณที่เหลืออีกราว 12,000 ล้านบาท เป็นการขยายกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน ในปี 2573 สอดรับกับความต้องการใช้ EV ทั้งภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียนที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ อรุณ พลัส ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้า รองรับการขยายฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าตามวิสัยทัศ์ ปตท. “Powering Life with Future Energy and Beyond” เพื่อส่งเสริมและสร้างระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้รถอีวีอย่างแพร่หลายในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

กลุ่ม ปตท. พร้อมเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจ ในการเป็นส่วนสำคัญที่จะร่วมพัฒนาระบบนิเวศ EV ของไทยให้ครบวงจร กลุ่ม ปตท. ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และจะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานอนาคตในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์ม EV โครงสร้างพื้นฐาน และการให้บริการแบบครบวงจร

มร. อเล็กซ์ เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า NETA ได้เปิดแบรนด์ Neta V (เนต้า วี) อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนส.ค. 2565 และตั้งเป้าส่งมอบรถไฟฟ้าให้กับลูกค้าภายในเดือนก.ย. 2565 ซึ่งผู้จำหน่าย NETA จะทำการนัดหมายกับลูกค้าแต่ละท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยบริษัทฯ จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าสอดคล้องกับเป้าหมายการขายของบริษัทฯ 3,000 คัน ในปี 2565 ส่วนลูกค้าที่จองในในช่วงนี้จะได้รับรถในช่วงต้นปี 2566

สำหรับ เนต้า วี เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Touchable Smart EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้” ราคาจำหน่ายคาดการณ์อยู่ที่ 549,000 บาท การออกแบบภายในเรียบง่ายแต่ล้ำสมัยด้วยระบบการสั่งการระบบการทำงานต่างๆ ของรถผ่านหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ที่มีระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน(Lithium-Ion Battery) ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC

และผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM รองรับการชาร์จกระแสสลับAC Normal Charge จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ ปัจจุบันมีสาขากว่า 25 แห่งทั่วประเทศ