ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เจน 2 เพิ่ม Honda SENSING ทุกรุ่น คาดตัวท็อปไม่เกิน 9.8 แสน

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 ปรับรูปแบบการออกแบบ โดยเน้นให้มีความพรีเมียมมากขึ้น สปอร์ตมากขึ้น และมีอารมณ์เอสยูวีมากขึ้น

และที่ยังคงเป็นจุดขายสำคัญคือ  ความเอนกประสงค์ในการใช้งาน เช่น การเป็นรถ 7 ที่นั่ง และสามารถพับเบาะแถว 2 และแถว 3 ได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ บีอาร์-วี และอีกหลายๆ รุ่นของฮอนด้าในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับฮอนด้า บีอาร์-วี เจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT

อัตราสิ้นเปลือง 16.1 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E20

และทุกรุ่นย่อยจะติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)

ขณะที่ออปชั่นหลักๆ ที่ติดตั้งมาให้ เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว เครื่องเสียง หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์และเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท (Remote Engine Start) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนช่องทาง (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) 

ทั้งนี้ บีอาร์-วี จะมีจำหน่าย 2 รุ่นย่อย โดยฮอนด้าเตรียมเปิดตัว และเปิดราคาอย่างเป็นทางการ วันที่ 18 ส.ค.เป็นต้นไป แต่เริ่มเปิดให้ลกค้าจองสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุราคาเบื้องต้น รุ่น E ไม่เกิน 930,000 บาท และรุ่น EL ไม่เกิน 980,000 บาท

ทั้งนี้ลูกค้าที่จองสิทธิ์ถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ฮอนด้ามีแคมเปญพิเศษคือ แถมชุดโต๊ะพับแคมป์ปิ้ง มูลค่า 4,200 บาท

รายละเอียดเบื้องต้นของ บีอาร์-ใหม่ เช่น

• กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ รุ่น EL มาพร้อมสี Piano Black
• กันชนหน้าและหลัง ตกแต่งสีเงิน (รุ่น EL)
• ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
• ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น EL)
• คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน (รุ่น EL)
• กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น EL)
• ราวหลังคาแบบสปอร์ต
• เสาอากาศ ครีบฉลาม
• ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว (รุ่น EL) และขนาด 16 นิ้ว (รุ่น E)
• คอนโซลตกแต่งด้วยวัสดุแบบ Piano Black เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย
• ที่วางแก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง พร้อมพนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)

• เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ
• เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น พับแยกแบบ 50:50 ได้ และพนักพิงปรับเอนได้ 2 ระดับ
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ในรุ่น EL
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
• ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
• ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง ( EL)
• ลำโพง 4 ดอก (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)

สำหรับ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งมาในทุกรุ่นย่อย ทำงานด้วยการตรวจจับรถยนต์และคนด้วยกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า มีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ คือ

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
• ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ( LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทาง (RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)

ส่วนเทคโนโลยึเกี่ยวกับความปลอดภัยอื่นๆ ที่อยู่ใน บีอาร์-วี ใหม่ เช่น

• ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ
• ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
• กล้องมองภาพด้านหลัง
• ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
• ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)

สำหรับฮอนด้า บีอาร์-วี เปิดตัวในไทยเครั้งแรกเมื่อปี 2558 เป็นการเสริมทางเลือกรถในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ที่ก่อนหน้านั้นทำตลาดโดยโมบิลิโอ