เผยโฉมรถคอนเซ็ปต์ “Apple” ไร้หน้าต่าง แต่ใช้ “VR” ดูทางแทน

เผยโฉมรถคอนเซ็ปต์ “Apple” ไร้หน้าต่าง แต่ใช้ “VR” ดูทางแทน

“Apple Inc.” จดสิทธิบัตรใหม่ รถยนต์ไม่มีหน้าต่าง พร้อมใช้เทคโนโลยีใส่แว่น “VR” ในการนำทาง รวมถึงชมภาพยนตร์หรืออ่านหนังสือได้โดยไม่เวียนหัว คาดเผยโฉมภายในทศวรรษนี้

มีกระแสข่าวที่ยังไม่ยืนยันมาโดยตลอดว่า “Apple Inc.” บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก กำลังซุ่มพัฒนายานยนต์มาตั้งแต่ปี 2557 แต่ Apple ไม่เคยเปิดเผยถึงโปรเจ็คการพัฒนารถไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับของตนเลย จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว “ทิม คุก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Apple ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Times ว่า “มีหลายอย่างเกี่ยวกับยานยนต์ที่คุณทำได้ เดี๋ยวได้รู้กันว่า Apple กำลังทำอะไร”

กระแสข่าวเรื่องรถยนต์ของ Apple กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมาสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สนใจซื้อบริษัทCanoo” สตาร์ทอัพผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติอเมริกัน ที่พึ่งแจ้งเตือนนักลงทุนว่าถ้าไม่มีเงินลงทุนเพิ่ม เงินที่มีอยู่อาจจะหมดภายในปีหน้า และหากเป็นจริง จะทำให้ Apple ได้ทั้งนวัตกรรมยานยนต์และความรู้ทางวิศวกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ “อุลริช ครานซ์” (Ulrich Kranz) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Canoo กำลังทำงานในโครงการยานยนต์ของ Apple อีกด้วย

 

  • รถยนต์ Apple จะมีลักษณะอย่างไร

Bloomberg รายงานว่า รถยนต์ของ Apple จะมีรูปร่างเหมือนกับรถมินิแวน พร้อมการตกแต่งภายในที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวางกว่ารถรุ่นอื่น ๆ โดยแหล่งข่าวของ Apple เปิดเผยว่า แนวคิดของรถ “Canoo Lifestyle Vehicle” นั้นมีความคล้ายคลึงรถยนต์ที่นักออกแบบของ Apple กำลังพัฒนาขึ้นมาก โดยยานพาหนะดังกล่าวน่าจะใช้เป็นโมเดลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยมีแบตเตอรี่ติดตั้งอยู่บนพื้นรถ เช่นเดียวกับรถของ Canoo

เผยโฉมรถคอนเซ็ปต์ “Apple” ไร้หน้าต่าง แต่ใช้ “VR” ดูทางแทน

รถไฟฟ้า Canoo Lifestyle Vehicle

เครดิตภาพ: เว็บไซต์ Canoo

 

รถยนต์ของ Apple จะขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ และไม่มีพวงมาลัยหรือคันเร่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ผู้โดยสารภายในห้องผู้โดยสารให้กว้างยิ่งขึ้น โดยจะมีเบาะที่นั่ง 2 ด้านหันหน้าเข้าหากัน เช่นเดียวกับ “Cruise Origin” แท็กซี่ไร้คนขับ ที่พัฒนาโดยบริษัท “เจนเนอรัล มอเตอร์ส” หรือ จีเอ็ม (General Motors: GM)

ในรายงานยังระบุอีกว่า Apple ตระหนักดีว่าการขับรถอย่างมีประสิทธิภาพและใช้ระยะเวลาในการเดินทางที่รวดเร็วเหมาะสมนั้น ผู้ขับขี่จะต้องเป็นผู้ควบคุมรถเอง จึงอาจต้องปรับเปลี่ยนระบบให้เข้ากับการออกแบบภายใน ทั้งในส่วนของการควยคุมด้วยตนเองและยังคงไว้ซึ่งระบบอัตโนมัติ เช่น ใน Super Cruise หรือ Autopilot ของ Tesla

นอกจากนี้ ภายในรถยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีของ Apple ไม่ว่าจะเป็น Apple CarPlay หน้าจอแสดงผล แอปพลิเคชันในรถยนต์ ตลอดจนระบบ Infotainment ซึ่งผสานการติดต่อสื่อสารเข้ากับความบันเทิง ที่เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกการติดต่อ และความบันเทิงต่าง ๆ ของ Apple

  • ใช้เทคโนโลยี VR แทนหน้าต่าง

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา Apple ได้ยื่นจดสิทธิบัตรนวัตกรรมชิ้นใหม่ ที่น่าจะเกี่ยวกับยานยนต์ของ Apple โดยสิทธิบัตรดังกล่าวนั้นเป็นรถยนต์ที่ไม่มีหน้าต่าง โดยที่ผู้โดยสารจะสวมชุดหูฟัง VR ได้ ซึ่งสามารถฉายภาพวิดีโอจากกล้องที่ติดตั้งภายนอกรถได้ นอกจากนี้ ชุดหูฟัง VR ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถชมภาพยนตร์และอ่านหนังสือขณะเดินทางด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวและไม่ทำให้เวียนหัว

เผยโฉมรถคอนเซ็ปต์ “Apple” ไร้หน้าต่าง แต่ใช้ “VR” ดูทางแทน

 

แม้ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับยานยนต์ของ Apple ออกมาเลย แต่เป็นที่ชัดเจนว่า บริษัทไม่ได้สนใจที่จะผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะผลิตรถไฟฟ้าและมีแนวโน้นที่จะขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าระบบอัตโนมัติทั้งหมดหรือบางส่วน ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นน่าจะเป็นแบตเตอรี่ก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียว พร้อมด้วยมอเตอร์ 1-2 ตัว และโครงพื้นรถแบบเรียบ (skateboard chassis)

ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่ชัดเจนว่า Apple จะเจาะกลุ่มใดเป็นลูกค้าของยานยนต์ใหม่นี้ ระหว่างการทำเป็นรถโดยสารส่วนบุคคล หรือรถสำหรับโดยสารระยะสั้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว ยานยนต์ไร้คนขับมักถูกวางตำแหน่งเป็นรถขนส่งมวลชน ซึ่งดูเหมือนจะเหมาะสมที่สุดในโลกแห่งความเป็นจริง

รายงานของ Bloomberg ระบุว่า Apple ต้องการเปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ก่อนสิ้นทศวรรษนี้ แต่ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นการยากเกินไปหากบริษัทต้องการให้รถยนต์ไร้คนขับโดยสมบูรณ์ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่รถยนต์ของ Apple อาจจะไม่ได้ถือกำเนิดในเร็ววันนี้ ตามที่คุกให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ไว้ว่า “เรากำลังตรวจสอบอะไรหลาย ๆ อย่าง ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการพัฒนานานหน่อย แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำ (รถ Apple) นะ

 

ที่มา: Auto Trader, Bloomberg, New York Times, VR Scout