โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ป้องกันไว้ดีกว่าแก้

ปัจจุบันพบว่าอัตราการเกิด “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน” เพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ สืบเนื่องจากการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปจากอดีต โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ที่เคร่งเครียดกับการทำงาน การสูบบุหรี่ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย และรับประทานอาหารจานด่วน ซึ่งหากเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันขึ้นแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องได้รับยาตลอดชีวิต ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็น
นพ.สันติ ฤทธิ์วิชัย อายุรแพทย์โรคหัวใจ อนุสาขาหัตถการปฏิบัติรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันมี 2 ชนิด คือ ชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง ชนิดเฉียบพลันจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงถ้าไม่รีบมาพบแพทย์ คนไข้อาจมีอาการเหนื่อยง่าย เจ็บช่วงหน้าอก และเป็นรุนแรงมากขึ้นแม้ขณะไม่ได้ออกกำลัง อาจมีอาการใจสั่น เหงื่อออก หายใจไม่สะดวกร่วมด้วย และเมื่อมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดแบบเฉียบพลันอาจทำให้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง ส่วนชนิดเรื้อรัง เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจมีอาการแน่นบริเวณหน้าอกลักษณะเป็นๆ หายๆ หรือปวดร้าวหัวไหล่ซ้ายขึ้นไปถึงกราม ซึ่งอาการเหล่านี้มักสัมพันธ์กับการใช้พละกำลัง เช่น การเดินเร็ว การออกกำลังกาย หรือการขึ้นบันไดก็จะทำให้เกิดอาการแน่นบริเวณทรวงอกได้ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ต้องรีบนำคนไข้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหรืออย่างช้า ภายในเวลา 6 – 12 ชั่วโมง
การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันนั้น เมื่อป่วยเป็นโรคนี้แล้วต้องรับประทานยาไปตลอดชีวิต เพื่อป้องกันการพอกตัวของไขมัน ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ในกรณีที่มีอาการหนักมากหรือเส้นเลือดตีบมาก ทำให้การบีบตัวของหัวใจลดลง คนไข้ต้องได้รับการสวนหัวใจด้วยการทำบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือด ส่วนในรายที่มีหลอดเลือดตีบหลายตำแหน่ง มักใช้วิธีการผ่าตัดทำบายพาส โดยแพทย์จะใช้เส้นเลือดแดงบริเวณแขนซ้ายหรือเส้นเลือดดำบริเวณขามาเย็บต่อเส้นเลือด เพื่อนำเลือดแดงจากเส้นเลือดแดงใหญ่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ขาดเลือด
อย่างไรก็ตามการป้องกันเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การออกกำลังประเภทแอโรบิค รับประทานอาหารประเภทปลาหรือเนื้อไก่ไม่ติดหนัง อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง รวมถึงผักและผลไม้ ส่วนพฤติกรรมที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดคือ การสูบบุหรี่ ควนนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำทุกปี
ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลหัวเฉียว มีทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการเฉพาะทางโรคหัวใจและหลอดเลือด ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ พรั่งพร้อมด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย อีกทั้งสามารถดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินทุกสิทธิตลอด 24 ชั่วโมง และมีบริการรถ Mobile ICU เพื่อรองรับผู้ป่วยฉุกเฉิน สายด่วนศูนย์หัวเฉียวพิทักษ์ชีพ โทร. 081-8703538-40
นพ.สันติ ฤทธิ์วิชัย อายุรแพทย์โรคหัวใจ
เฉพาะทางอนุสาขาหัตถการปฏิบัติรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด
ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลหัวเฉียว












