บีจีซีเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ มุ่งขยายกิจการบรรจุภัณฑ์ต้นน้ำ-ปลายน้ำตั้งเป้าปี 62 เติบโต 10%

บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส แถลงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ภาพรวมปี 2561 ผลกำไรเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ ตั้งเป้าปี 2562 เติบโตจากเดิม 10% เดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องพร้อมมองหาโอกาสขยายกิจการที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์แก้วตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ หวังครองตำแหน่งผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แก้วในภูมิภาคอาเซียน

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน)หรือ บีจีซี(BGC) เปิดเผยว่า บีจีซี เป็นบริษัทในเครือ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจี (BG) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วอันดับ 1 ของประเทศ ที่ครอบคลุมทั้งบรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และเวชภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตรวม3,495 ตันต่อวัน จากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว5 แห่งในประเทศไทย อันได้แก่ จ.ปทุมธานี จ.ขอนแก่น จ.ปราจีนบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ราชบุรี

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจีซี (BGC) เปิดเผยว่า บีจีซี เป็นบริษัทในเครือ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจี (BG) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วอันดับ 1 ของประเทศ ที่ครอบคลุมทั้งบรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และเวชภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตรวม 3,495 ตันต่อวัน จากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว 5 แห่งในประเทศไทย อันได้แก่ จ.ปทุมธานี จ.ขอนแก่น จ.ปราจีนบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ราชบุรี

ในปี2561 ที่ผ่านมาบีจีซีได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนและนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรก และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจจากปีก่อนที่เน้นขายให้กับกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ มาเป็นการขยายตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการกระบวนการผลิตและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี2561 มีกำไรเติบโตตามเป้า ตอกย้ำศักยภาพและพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2562 นี้
บีจีซีจะยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศโดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศ 10% ทั้งจากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว และสร้างฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเวียดนาม และอินเดีย

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในปีที่ผ่านมาบีจีซีได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศเวียดนาม เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางในการขายให้มากขึ้น ในขณะที่กำลังเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปเป็นผู้เล่นในตลาดอินเดีย ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อันได้แก่ จำนวนประชากรอินเดียที่มากเป็นอันดับสองรองจากจีน ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยกินดื่มที่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจในประเทศที่กำลังเติบโต และอีกมุมที่สำคัญคือบริษัทที่ทำบรรจุภัณฑ์แก้วที่มีคุณภาพในอินเดียยังมีไม่มาก

สำหรับตลาดออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยุโรปในปีนี้บีจีซีคาดว่าจะสามารถส่งออกบรรจุภัณฑ์แก้วได้เพียงพอต่อความต้องการมากขึ้น เนื่องจากโรงงานผลิตที่จังหวัดราชบุรีก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยความพิเศษของโรงงานแห่งนี้ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นในการผลิต ทำให้สามารถรองรับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า

นอกเหนือจากกลยุทธ์รุกตลาดต่างประเทศ บีจีซียังได้จัดสรรงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์โดยเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้นำเข้าซอฟต์แวร์ตัวใหม่ที่ช่วยควบคุมพลังงานที่ใช้ในเตาหลอม ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานลงไปจากเดิมได้ถึง 3 - 4% ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตและการใช้ทรัพยากรลดลง

นอกจากนี้ บีจีซียังแสวงหาโอกาสการขยายธุรกิจทั้งในรูปแบบการเติบโตภายใต้การดำเนินธุรกิจของตนเอง (Organic Growth) และการเติบโตในรูปแบบการร่วมทุนหรือการเข้าลงทุนในกิจการ (Inorganic Growth) ที่เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์แก้ว เช่น ธุรกิจการจัดหาวัตถุดิบ และธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้า เป็นต้น

ในปีนี้ บีจีซีตั้งเป้ารายได้เติบโตจากเดิม 10% โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แก้วและบรรจุภัณฑ์แก้ว รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

บีจีซี ขนผลิตภัณฑ์ร่วมงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรม ProPak Asia 2019

สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดในปัจจุบันจำเป็นต้องมีบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม

บีจีซีในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แก้วครบวงจร ที่มีกำลังการผลิตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี เล็งเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคอาเซียน จึงได้ร่วมนำผลิตภัณฑ์แก้วหลากหลายประเภท มาจัดแสดงภายในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ แห่งภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 27 หรือ Propak Asia 2019

ProPak Asia ถือเป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นเวทีที่ดีที่สุดที่เชื่อมต่อสู่ภูมิภาคเอเชียซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านอุตสาหกรรมการผลิตและบรรจุภัณฑ์ ตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ProPak Asia สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ซื้อที่มีคุณภาพได้เป็นจำนวนมาก และยังรวบรวมผู้ร่วมแสดงสินค้าจากนานาชาติไว้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์สำคัญคือการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์

สำหรับบูธของบีจีซีในงาน Propak Asia 2019 จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของบีจีซี ตั้งแต่เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน พร้อมนำบรรจุภัณฑ์แก้ว
หลากหลายรูปแบบในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มมาจัดแสดง อาทิ ขวดซอสปรุงรส กระปุกบรรจุแยม ตลอดจนขวดบรรจุเครื่องดื่มชนิดต่างๆ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ผลิตภัณฑ์ขวดแก้วจากเทคโนโลยีน้ำหนักเบา (Lightweight Technology) หรือ Narrow Neck Press & Blow (NNPB) ซึ่งมีกระบวนการผลิตคล้ายกับขวดทั่วไปแต่จะใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่ทำให้การกระจายของน้ำในแก้วมีความสม่ำเสมอขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้ขวดมีน้ำหนักเบาหรือบางลง แต่ยังคงมีความแข็งแรงเท่าเดิม ลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตได้อย่างมาก

บีจีซีเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ มุ่งขยายกิจการบรรจุภัณฑ์ต้นน้ำ-ปลายน้ำตั้งเป้าปี 62 เติบโต 10%

บีจีซีจึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์แก้ว เข้ามาเยี่ยมชมบูธบีจีซี ภายงาน Propak Asia 2019 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ บูธหมายเลข EH09 ฮอลล์ 106 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา (BITEC)