อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด แนะนำกองทุน LTF และ RMF เพื่อผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว

การลงทุนในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แล้ว และยังคงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้การวิเคราะห์ต่อสถานการณ์การลงทุนปัจจุบันผ่านมุมมองของ คุณอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด “นับตั้งแต่ต้นปีถึงไตรมาสนี้ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในประเทศของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี ค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ และเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ ยอดการส่งออกโดยรวมยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยอดการอุปโภคบริโภคภายในประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ภาคการท่องเที่ยวและการบริการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ การลงทุนของภาครัฐเริ่มมีการกระเตื้องขึ้นมา ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดที่แข็งแรงและธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีนโยบายด้านการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด”
นอกจากนี้ คุณอดิเทพ ยังได้กล่าวถึงการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่า ตลาดยังคงมีความผันผวน แต่ยังเชื่อมั่นว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่ค้าในเอเชีย เช่น ตุรกี จีน และอินโดนีเซีย ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดเกิดใหม่ถูกขายออกไปมากเนื่องจากเงินสกุลดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลทำให้ค่าเงินและตลาดทุนของตลาดเกิดใหม่อ่อนตัวลงเพราะประเทศเหล่านี้มีบัญชีเดินสะพัดที่อ่อนแอ อัตราเงินเฟ้อและระดับหนี้ต่างประเทศที่สูง รวมถึงส่งผลเป็นแรงกดดันต่อการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ขณะที่ ตลาดหุ้นของประเทศไทยยังคงแข็งแกร่งจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยเติบโตได้ต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยยังอยู่ในการควบคุมที่ดี และการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศทำได้ดีในขณะที่ประเทศยังมีความต้องการการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจมากขึ้นกับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มุ่งเน้นผลตอบแทนระยะยาวเพื่อสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงหลังจากการเกษียณอายุ ที่อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด เรามีกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันของนักลงทุน ขณะที่กองทุนทั้งหมดของเรามีจุดประสงค์ที่เหมือนกันคือ การสร้างมูลค่าสินทรัพย์ให้เพิ่มขึ้นในระยะยาว ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว เรามีผู้จัดการกองทุนประจำสำนักงานทั่วโลกที่มีความรู้และประสบการณ์ในแต่ละตลาดที่สั่งสมมานานจนเกิดเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าอย่างมาก เรามีปรัชญาการลงทุนที่ชัดเจนพร้อมการวิเคราะห์เชิงลึกหุ้นรายตัว (Bottom-up) เพื่อเน้นผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาว
“หลักการในการลงทุนของอเบอร์ดีนสแตนดาร์ด คือผู้จัดการกองทุนของเราจะทำการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของธุรกิจด้วยตัวเอง และเลือกบริษัทที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงคุณภาพของผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร และประวัติการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีความแข็งแกร่งของภาพลักษณ์และเครือข่าย รวมถึงงบการเงินที่ดี หรือมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจะยืนหยัดอยู่ได้และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติ คุณอดิเทพกล่าวเสริม
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด หุ้นระยะยาว (ABLTF) และกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด สมาร์ท แคปปิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSC-RMF)
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด มีกองทุนแนะนำ คือ กองทุน ABLTF และ ABSC-RMF ซึ่งเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยกองทุน ABLTF จัดตั้งในปี 2547 และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 49.33 บาท/หน่วย ขณะที่ ABSC-RMF จัดตั้งในปี 2545 และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 93.89 บาท/หน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2561)
หุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนนี้จะเน้นหุ้นที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
ข้อมูล กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด หุ้นระยะยาว (ABLTF)
นโยบายการลงทุน: ลงทุนในหลักทรัพย์ และหรือทรัพย์สินอันเป็นหรือที่เกี่ยวข้องกับตราสารแห่งทุนระยะยาวของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง หรือมีปัจจัยพื้นฐานดี โดยจะลงทุนเพื่อให้มี net exposure ในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้
- ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไปและผู้ลงทุนสามารถนำเงินลงทุนไปคำนวณลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ข้อมูล กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด สมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSC-RMF)
นโยบายการลงทุน: ลงทุนในหลักทรัพย์ และหรือทรัพย์สินอันเป็นหรือที่เกี่ยวข้องกับตราสารแห่งทุนโดยจะลงทุนเพื่อให้มี net exposure ในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะมุ่งเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
เหมาะสำหรับ:
-ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้
-ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุ โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และผู้ลงทุนสามารถนำเงินลงทุนไปคำนวณลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน ในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย
ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่บลจ. อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ของ บลจ.
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.aberdeen-asset.co.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 0-2352-3388
อีเมล์ [email protected]









