JMC จัดการนํ้าเมืองสุพรรณ นํ้าพอใช้-เกษตรกรเป็นสุข

จากสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีที่มีปริมาณน้ำต้นทุนไม่เพียงพอต่อภาคการเกษตร ซึ่งเป็นผลจากการผลิตข้าวที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ประกอบกับปัญหาด้านน้ำที่ชาวบ้านในพื้นที่พบเจอและเรียกร้องไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก ทำให้เกิดแนวคิดในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุและแก้ปัญหาร่วมกัน
โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุกได้รวมกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ รวบรวมข้อมูลแหล่งน้ำและปัญหา เพื่อศึกษาสาเหตุและเรียนรู้แนวทางแก้ปัญหา ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการและวางแผนทำงานร่วมกันในรูปแบบคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC)
นายบุญฤทธิ์ จำปาเงิน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยถึงที่มาของการจัดตั้ง JMC ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุกว่า มีจุดเริ่มต้นจากแผนยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี ที่จะมุ่งเน้นการสร้างเครือข่าย และการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ที่ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (อดีตอธิบดีกรมชลประทาน) ได้กำหนดแนวทางในการขับเคลื่อน RID No.1 ไว้ 7 ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กรมชลประทาน และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยกำหนดแนวทางให้เร่งรัดการจัดตั้งคณะ กรรมการจัดการชลประทาน และอาสาสมัครชลประทานให้แล้วเสร็จโดยเร่งด่วน
โดยกระบวนการความร่วมมือเริ่มตั้งแต่การอบรมเจ้าหน้าที่โครงการ ทั้งหัวหน้าฝ่าย และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานให้มีความรู้ความสามารถและมีความเข้าใจด้านการบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วมก่อนเปิดเวทีรับฟังปัญหา และ ความต้องการของเกษตรกร และเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มบริหารการใช้น้ำในทุกพื้นที่
ด้านนายคมน์ แจ่มแจ้ง รองประธานคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) เล่าว่า คณะกรรมการ JMC ของโครงการชลประทานสามชุก เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ใช้น้ำ กลุ่ม JMC มีหน้าที่ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้น้ำ และความต้องการของชาวบ้านที่เป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำ ในทุกกลุ่มเอามาประมวลกันว่า มีความต้องการใช้น้ำอย่างไร แล้วมาประสานกับทางชลประทานว่า ในฤดูกาลนี้มีน้ำเท่าไหร่ จะวางแผนการใช้น้ำกันอย่างไร ต่างจากเมื่อก่อนที่ไม่มีการทำงานแบบมีส่วนร่วม เป็นลักษณะตัวใครตัวมัน น้ำผ่านหน้าบ้านใคร คนนั้นก็สูบ คนนั้นก็วิดน้ำ ทำให้มีปัญหาการแย่งน้ำ แต่พอมีคณะกรรมการ ปัญหาตรงนี้ก็หมดไป โดยชลประทานจะประสานกับคณะกรรมการในการบริหารจัดการน้ำต้นทุน และคณะกรรมการก็ไปชี้แจงต่อกับชาวบ้าน อาทิ เช่น บอกว่า ปีนี้จะได้น้ำมา 10 ล้านลูกบาศก์เมตร จะแบ่งให้ใครได้บ้าง จะจัดเวรใช้น้ำกันอย่างไร ทำให้เกษตรกรได้น้ำทำนากันหมดทุกคน เป็นต้น
ขณะที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเดื่อ อันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และการทำการเกษตรในพื้นที่บริเวณตำบลนิคมกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการแก้ไขปัญหาน้ำ อย่างยั่งยืน โดยโครงการชลประทานสุพรรณบุรี ได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ มีการจัดตั้งกลุ่มบริหารการใช้น้ำ มีเจ้าหน้าที่ชลประทานเป็นพี่เลี้ยงในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการบริหารจัดการน้ำเพื่อประโยชน์สูงสุด
นายนัฐพล กาฬภักดี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ อ่างเก็บน้ำท่าเดื่อ ตัวแทนกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน กล่าวว่าทางกลุ่มตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2527 หลังมีการรวมกลุ่มแล้ว ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการประสานงานกับทางชลประทานในเรื่องการใช้น้ำอ่างเก็บน้ำท่าเดื่อจนถึงปัจจุบันในแต่ละปีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น จะสำรวจว่า พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่มีกี่ไร่ จะใช้น้ำกันอย่างไร ซึ่งก่อนจะถึงฤดูเพาะปลูกจะนัดกันดูแลความสะอาดคลองส่งน้ำทั้ง 3 สาย เพื่อที่จะส่งน้ำไปให้ถึงปลายสาย ซึ่งประโยชน์ตรงนี้คือ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรดีขึ้น คนในพื้นที่ไม่ต้องไปหางานทำที่อื่น จากมีน้ำใช้เพียงพอในการทำสวน ปลูกผัก ทำไร่มันสำปะหลัง ทำไร่อ้อย และอื่น ๆ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น









