'เดอะ ฟอเรสเทียส์' เมืองต้นแบบระดับโลก ยกระดับความสุข-คุณภาพชีวิตทุกGENบนผืนป่า

 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' เมืองต้นแบบระดับโลก ยกระดับความสุข-คุณภาพชีวิตทุกGENบนผืนป่า

ปรากฏการณ์ เรียกเสียงฮือในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่วงการ เวลานี้คงไม่มีใครนอกจากโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์  ที่ทุบสถิตินิวไฮในการลงทุนโครงการมิกซ์ยูสบนผืนป่า ด้วยงบลงทุนทะลุ 1.25 แสนล้าน ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 300ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม.7 ที่กลายเป็นอภิมหาโปรเจคใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่มุ่งเน้นในเรื่องนวัตกรรมความยั่งยืน โดยมีแนวคิดในการพัฒนาเมืองต้นแบบแห่งแรกของโลกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติภายชื่อ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS) ที่มี การพัฒนาโดยยึดโยงความสุขและสุขภาพของคน มาเป็นโจทย์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและสถาบันชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงอย่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาสร้างสรรค์เมืองแห่งนี้ให้เป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองจากภาคภาคเอกชน

 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' เมืองต้นแบบระดับโลก ยกระดับความสุข-คุณภาพชีวิตทุกGENบนผืนป่า

วัตถุประสงค์หลักคือ การเสนอเมืองต้นแบบเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น  ภายใต้ความเชื่อว่า ถ้าผู้คนที่เข้ามาได้มาสัมผัสโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์จะได้เรียนรู้ว่า เมืองที่ดีไซน์ให้คนที่อยู่อาศัยมีความสุข และสุขภาพดีเป็นแบบไหน ซึ่งจะกลายเป็นองค์ความรู้ในการพัฒนาสภาพแวดล้อม โครงการพื้นฐาน พื้นที่ส่วนกลางต่างๆเพื่อตอบสนองคนทุกเพศทุกวัยทำให้คนอยู่แล้วมีความสุขมากขึ้น ด้วยการค้นหาสิ่งที่’ขาดหายเพื่อเติมเต็มความสุข และความต้องการที่แท้จริงของชีวิตคนอยู่อาศัยเพื่อนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์คนอยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน 'ไม่ใช่' แค่ทำตามกระแส

ทั้งนี้จากข้อมูล พบว่า ผู้สูงอายุมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงขึ้น เป็นโรคอัลไซเมอร์และโรคซึมเศร้ามากขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะผู้สูงอายุเพราะเป็นได้ทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีเป็นโรคซึมเศร้ากันมากขึ้น สำหรับเหตุผลที่ผู้สูงอายุเป็นโรคซึมเศร้า’ไม่ใช่ไม่มีเงิน เพราะการไม่มีเงิน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่ปัญหาใหญ่ผู้สูงอายุคือการที่ขังตัวเองอยู่ในห้องไม่กล้าออกมานอกห้อง ขณะที่เด็กเสียชีวิตมากสุดจากการจมน้ำและอุบัติเหตุทางรถยนต์ สะท้อนให้เห็นว่า สภาพแวดล้อมปัจจุบันไม่มีความปลอดภัยในเด็กและผู้สูงอายุ

จึงเป็นที่มาของการนำ’  Pain Point’ ที่ค้นพบมาพัฒนาโครงการเดอะฟอเรสเทียส์  ขึ้นมา  ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของ ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือMQDCในการสร้างเมืองต้นแบบในฝันให้เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกของการสร้างโครงการเดอะฟอเรสเทียส์  ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 300 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม.7

 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' เมืองต้นแบบระดับโลก ยกระดับความสุข-คุณภาพชีวิตทุกGENบนผืนป่า

“ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เทรนด์แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องมี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่แตกต่าง จากโครงการอื่น เพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อน “ นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการ โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์  กล่าว

จุดเด่นของโครงการคือแนวคิดในการ“เพิ่มความสุข ให้ทุกเจเนอเรชั่น” ด้วยการสร้างป่าขนาดใหญ่ในพื้นที่ 30 ไร่ด้วยงบ1,000ล้านบาท เริ่มปลูกมาตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า ตั้งอยู่บริเวณใจกลางโครงการเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ซึ่งผืนป่าขนาดใหญ่นี้ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเมืองแห่งความสุขด้วยการนำธรรมชาติกลับคืนสู่ชุมชนและพื้นที่ที่เป็นเมืองเพื่อให้การอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวมีความสุขร่วมกันหรือเรียกว่า Intergeneration  ซึ่งตอบโจทย์ในการยกระดับความสุขและสุขภาพ ที่มาจาก การอยู่ร่วมกันในหลายเจนเนอร์เรชั่น และ การอยู่กับธรรมชาติ (ป่า)ให้กับผู้พักอาศัย

ภายใต้ความเชื่อว่า องค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และการมีความสุขอย่างยั่งยืน ก็คือการมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและคนในชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้พื้นที่ของโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ตอบสนองความต้องการและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละช่วงวัย โดยพื้นที่ต่างๆ เหล่านั้นมีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างกลมกลืนของคนทุกช่วงอายุสามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย  

โดยพื้นที่ป่าของโครงการเสมือนเป็น ‘พื้นที่ส่วนกลาง ที่สามารถใช้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบได้ตลอดทั้งปีForest Pavilion ศูนย์การเรียนรู้ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยTown Center ศูนย์รวมร้านค้าที่ครบครันไปด้วยสินค้าและบริการต่างๆ โดยจัดสรรพื้นที่ทั้งหมดในโครงการให้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้พักอาศัยไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกสบาย

โดยภายในโครงการจะมีที่พักอาศัยหลายรูปแบบ เพื่อครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย  ซึ่งประกอบด้วย

 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' เมืองต้นแบบระดับโลก ยกระดับความสุข-คุณภาพชีวิตทุกGENบนผืนป่า

วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์

คอนโดมิเนียมที่นำนวัตกรรมมาใช้ร่วมกับการออกแบบ ตอบสนองทุกฟังก์ชันของการใช้ชีวิตของทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนโสด คู่รักหรือครอบครัวคนรุ่นใหม่ไปจนถึงผู้ที่ต้องการมีสัตว์เลี้ยง ถือเป็นนิยามใหม่ของคำว่าบ้านแบบ Vertical Living รูปแบบการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ที่ผสานนวัตกรรมการดีไซน์เพื่อตอบสนองทุกฟังก์ชันของชีวิต ผ่านกระบวนการคิดออกแบบจากรากฐานแห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

มัลเบอร์รี โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์

แบรนด์ที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ แบรนด์แรกของไทย ภายใต้แนวคิด "สานความสุขให้ทุกเจเนอเรชั่น" ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนในครอบครัวไม่ว่าเจเนอเรชั่นไหนก็สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ทุกวัน ในขณะเดียวกันก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวในการใช้ชีวิต เพราะเชื่อว่าการสร้างความผูกพันในครอบครัว ซึ่ง เป็นรากฐานของความสุขที่แท้จริง

 

ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์

โครงการที่มอบการดูแลผู้สูงวัยอย่างครบวงจร ทั้งบริการสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พักอาศัย และศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่ช่วยดูแลรักษาสุขภาพกายและสภาวะทางสมองของผู้สูงวัย

ซิกส์เซ้นส์ โฮเทลส์ รีสอร์ท สปาส์ เดอะ ฟอเรสเทียส์

เป็นโรงแรมบูทีคระดับ 5 ดาว ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ที่ดีสุดให้แก่แขกที่เข้าพัก

 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' เมืองต้นแบบระดับโลก ยกระดับความสุข-คุณภาพชีวิตทุกGENบนผืนป่า

นายกิตติพันธุ์  ผู้อำนวยการ โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์   กล่าวว่า  โครงการนี้ใช้เวลาศึกษา 3 ปี และพัฒนาโครงการ3ปี รวมทั้งสิ้น6ปี  ซึ่งระหว่างการพัฒนาโครงการนำองค์ความรู้จากจากต่างประเทศและในประเทศผสมผสานกันเพื่อพัฒนาทุกรานละเอียดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยล่าสุดได้เพิ่มเงินลงทุนโครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ จากเดิม 90,000 ล้านบาท เป็น 125,000 ล้านบาท พร้อมกับขยายพื้นที่โครงการจากเดิม 300 ไร่ เป็น 398 ไร่ ซึ่งรวมในส่วนของทาวน์เซ็นเตอร์เพื่อรองรับผู้ที่มาเยี่ยมชม นักท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแต่ลูกค้าในโครงการ

ในเฟสสองเป็นส่วนที่เพิ่มเติมจากเดิมไม่เคยมีในมาสเตอร์แพลนว่าต้องมีที่เก็บของ ที่จอดรถยนต์เพิ่มจากความต้องการลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยให้กับแม่บ้าน และห้องเก็บของ ซึ่งเป็น Pain Point สำคัญที่ถูกมองข้ามไป ”

ความแตกต่างของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ คือการใส่ใจรายละเอียดของความต้องการของผู้อยู่อาศัยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งกายภาพ จิตใจ ไม่ได้เน้นเฉพาะเจาะจงด้านใดด้านหนึ่งแต่เน้นองค์รวมในการพัฒนาสภาพแวดล้อมในโครงการที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย  ที่เข้ามาอยู่อาศัยในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านหรือวิลล่า ซึ่งจะได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัว ที่แตกต่างจากโครงการอื่น

"เราอยากเป็นโครงการของคนไทยที่เกิดในประเทศไทยที่ทำให้คนไทยสามารถมีโอกาสมาร่วมใช้ชีวิตร่วมกันในเมืองนี้และเป็นโครงการที่เป็นระดับโลกให้คนไทยได้ภูมิใจ เพราะเป็นโครงการไม่มีใครทำมาก่อนและเป็นโครงการที่ทำให้ผู้อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจริง"

2ปีที่ผ่านมาโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์  เปลี่ยน’ไอเดีย มาเป็น ดีไซน์ในทุกๆรายละเอียดของโครงการ เพื่อให้ทุกตารางนิ้วของเมืองเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ยั่งยืน ปัจจุบันโครงการพื้นฐานเสร็จ 90% ไม่ว่าจะเป็นระบบถนน อุโมงใต้ดิน  ระบบการเดินท่อน้ำเย็น เริ่มปลูกต้นไม้ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มีนาคม ปี2563 พร้อมกันทุกโครงการซึ่งจะเสร็จพร้อมกัน !!!