รัฐประหารไม่ใช่จุดจบ! ‘Gen Z มาดากัสการ์’ คิดหนัก ที่ให้ทหารปกครองประเทศ
เจนซีในประเทศมาดากัสการ์ คิดหนักหลังจากขับไล่ปธน.คนก่อนออกจากประเทศ แล้วทหารทำรัฐประหาร ชี้ เรื่องนี้ยับไม่จบ ต้องรอดูต่อว่าทหารจะแก้ไขปัญหาตามที่พวกเขาร้องขอหรือไม่
เมื่อผู้บัญชาการหน่วยทหารระดับสูงร่วมวงผู้ประท้วงเจนซีในช่วงต้นเดือน ต.ค. ขับประธานาธิบดีมาดากัสการ์ออกนอกประเทศ โอลิเวีย ราเฟติสัน ผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหวเยาวชนรู้สึกยินดีที่ได้รับการปกป้องจากทหาร หลังถูกรัฐบาลก่อนหน้าปราบปรามการชุมนุมต่อต้านอดีตประธานาธิบดีแอนดรี ราเจโอลินา
จากนั้นหลายวันต่อมาพันเอกไมเคิล แรนเดรียนีรีนา ก็ประกาศยึดอำนาจ
ราเฟติสัน แกนนำเยาวชนวัย 28 ปี กล่าวว่า นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก “การปกป้องผู้คน” สู่ “การกุมอำนาจ” เธอกล่าวต่อ
"ฉันไม่ได้บอกว่าฉันต่อต้านมัน...แต่ฉันรู้สึกขัดแย้งเล็กน้อย"
แรนเดรียนีรีนาสาบานตนเป็นประธานาธิบดีมาดากัสการ์เมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) สามวันหลังจากควบคุมเกาะจาก การประท้วงขับไล่ปธน. คนก่อน
พันเอกซึ่งเป็นผู้นำมาดากัสการ์คนใหม่กล่าวว่า กองทัพจะบริหารรัฐบาลพลเรือนสูงสุด 2 ปีก่อนจัดการเลือกตั้งใหม่
พันเอกไมเคิล แรนเดรียนีรีนา ผู้นำคนใหม่ของมาดากัสการ์
ราเฟติสัน ผู้นำขบวนการเยาวชน Gen Z Collective ซึ่งเป็นขบวนการร่วมกลุ่มนักเคลื่อนไหวหลายกลุ่มนั้น ไม่ใช่ผู้ร่วมประท้วงเพียงคนเดียวที่รู้สึกสับสนเกี่ยวกับชายในเครื่องแบบที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างหลังแรนเดรียนีรีนาลาออก เพราะหลายคนสงสัยว่าความกังวลของพวกเขาจะได้รับการให้ความสำคัญหรือถูกเพิกเฉยเหมือนในอดีตหรือไม่
ในคืนที่เกิดรัฐประการ แรนเดรียนีรีนาได้รับข้อเสนอของราเฟติสันและกลุ่มเคลื่อนไหวเจนซีกลุ่มอื่นๆ
ราเเฟติสันกล่าว “เขาบอกว่าเรารับฟังคุณ” แต่ทหารเหนื่อยแล้วทุกคน และรีบจบบทสนทนา และแนะให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวเจนซีพูดคุยต่อภายหลัง
“ฉันหวังว่าเขาจะติดตาม เพราะนี้ไม่ใช้จุดจบของการหยุดชะงัก เราต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบอบจริงๆ ไม่ใช่การเปลี่ยนประธานาธิบดีเป็นอีกคน”
รอยเตอร์สระบุ ประชากรคนรุ่นใหม่ของมาดากัสการ์ ที่มีอายุเฉลี่ย 19 ปี เผชิญกับปัญหามากมายที่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของผู้นำคนก่อนหน้าอย่างราเจโอลินา ซึ่งเป็นผู้นำประเทศอายุน้อยสุดในโลก ณ ตอนที่ขึ้นสู่อำนาจเมื่ออายุ 34 ปี หลังรัฐประหารปี 2009 ทำให้เยาวชนผิดหวังด้วยการไม่สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรือง หรือให้บริการขั้นพื้นฐานได้ทันเวลา และถูกโค่นล้มในวัย 50 ปี
ตอนนี้ถนนในกรุงอันตานานาริโว เต็มไปด้วยขอทานและพ่อค้าแม่ค้าที่หาเลี้ยงชีพด้วยการขายทุกอย่างที่ขายได้
อาลิเซีย แอนเดรียนา จากสมาคม Dynamic Malagasy Students (Assedu-Mada) กล่าว “ทุกคนหาประโยชน์จากระบบ พวกเขาไม่สนใจอะไร แม้ประชากรเสียชีวิตจากความหิวโหย มันก็ไม่มีความหมาย (สำหรับพวกเขา)”
แอนเดรียนายังได้กล่าวขอบคุณการแทรกแซงของกองทัพ แต่เมื่อถามว่าเธอพอใจกับผลลัพธ์สุดท้ายหรือไม่ แอนเดรียนาตอบ
“ไม่ ยังไม่พอจริงๆ ยังไม่พอใจ เพราะเรายังไม่ได้ในสิ่งที่เราเรียกร้อง เราเรียกร้องน้ำ ไฟฟ้า เพื่อให้ทุกครอบครัวมีพอกิน” และเสริมว่าผู้นำรัฐประหารจำเป็นต้องวางระบใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในมาดากัสการ์ได้
กลุ่มคน Gen Z บางส่วนในมาดากัสการ์ก็รู้สึกไม่สบายใจกับแนวโน้มของการปกครองโดยทหาร กลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ Gen-Z Tonga Saina ซึ่งมีสมาชิก 18,000 คน เตือนเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ว่า พวกเขาคิดว่ากองทัพถูกแทรกแซง และ “ปกป้องผลประโยชน์ของระบบ ไม่ใช่ประชาชน”
อย่างไรก็ตามกลุ่มโซเชียลดังกล่าวยังไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นของรอยเตอร์ส
เกตากันเดรียนา ราฟิโตสัน รองประธาน Transparency International ที่มีบทบาทในการจัดการประท้วงช่วงแรกๆ และตัวเธอเองเป็นชนพื้นเมืองชาวมาลากาซีในมาดากัสการ์ กล่าวกับรอยเตอร์สว่า การรัฐประหารเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจในระบอบประชาธิปไตยเสมอ แต่ในกรณีนี้เป็น “ความไม่เต็มใจของผู้นำทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัดในการแก้ไขข้อร้องเรียน” จากนั้นก็มีการปราบปรามการชุมนุมอย่างรุนแรงและประธานาธิบดีหลบหนีโดยไม่มีพลเรือนที่น่าเชื่อถือมาแทนที่
นักเคลื่อนไหวเยาวชนของมาดากัสการ์คลื่นลูกใหม่จะไม่รอตลอดไป เพื่อให้ได้ “พื้นที่พลเรือน” หรือโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองตามที่พวกเขาต่อสู้ทวงคืนมา
โตโลทรา แอนเดรียนีรีนา โฆษกกลุ่มรณรงค์เจนซี วัย 23 ปีบอกว่า ไม่สามารถแน่ใจได้ว่ารัฐบาลทหารจะรับฟัง แต่หากไม่รับฟัง พวกเขาจะกลับลงถนน
“เราทำได้แล้ว เราสามารถทำได้อีกครั้ง ถ้ามันจำเป็น” แอนเดรียนีรีนากล่าว