'รองนายกฯ กัมพูชา-คิม จีนา' บรรลุดีลปราบสแกมเมอร์ 3 ข้อ ดันร่วมมือจริงจัง

กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา บรรลุดีลปราบสแกมเมอร์ 3 ข้อ กับเกาหลีใต้ ส่งเสริมความร่วมมืออย่างจริงจัง โวเป็นต้นแบบการทำงานที่ดี
สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า ซาร์ สุขะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาพบปะกับ คิม จีนา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 2 ของเกาหลีใต้ และคณะผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย เมื่อบ่ายวันศุกร์ (17 ต.ค.) ที่ผ่านมา
กระทรวงมหาดไทยกัมพูชารายงานว่า ระหว่างการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์และเปิดเผย ภายใต้เจตนารมณ์ของความร่วมมืออย่างเหนียวแน่น โดยทั้งสองเห็นพ้องในประเด็นสำคัญ 3 ประการ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกัน ปราบปราม และต่อสู้กับการหลอกลวงออนไลน์ ดังนี้
1. กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาและฝ่ายเกาหลีจะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เช่นเดียวกับที่กัมพูชาที่ได้จัดตั้งร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อเร่งการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการร่วมมือกันป้องกัน ปราบปราม และต่อสู้กับการหลอกลวงทางออนไลน์ ในกลไกนี้ คิม จีนา ให้คำมั่นว่าฝ่ายเกาหลีจะสนับสนุนด้านการฝึกอบรม เสริมสร้างศักยภาพ แบ่งปันข้อมูล และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา
2. ฝ่ายเกาหลีจะเตรียมการและจัดทำชื่อเป้าหมายอาชญากรรม รวมถึงผู้วางแผนหลอกลวงทางออนไลน์ในต่างประเทศให้แก่กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา เพื่อให้กัมพูชาทบทวนประเด็นทางกฎหมายสำหรับการขึ้นบัญชีดำและห้ามไม่ให้บุคคลเหล่านั้นเข้าประเทศ
ด้นซาร์ สุขะเห็นว่าแนวทางนี้เป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย รวมถึงในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ และว่ากัมพูชาจะขึ้นบัญชีดำอาชญากรเหล่านี้ ห้ามไม่ให้เข้าประเทศและจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและควบคุมตัวคนกลุ่มนี้ในทันที ณ จุดตรวจชายแดนทุกแห่ง
3. ซาร์ สุขะ และคิม จีนา ตกลงที่จะเพิ่มกิจกรรมด้านการศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนของตน เกี่ยวกับอันตรายของการหลอกลวงทางออนไลน์ และส่งเสริมให้ประเทศอื่นๆ ร่วมมือกันอย่างจริงจังและต่อเนื่องในเรื่องนี้
ในโอกาสนี้รองนายกฯ ซาร์ได้ยกย่องการเยือนกัมพูชาของคิม จีนา และคณะ ว่าเป็นกิจกรรมต้นแบบที่สะท้อนถึงความเป็นจริงในความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพราะความจริงแล้ว ความพยายามในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อประชาชนชาวเกาหลีหรือชาวกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมนุษยชาติทั่วโลกด้วย
รัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา ยืนยันประเทศได้บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับคดีหลอกลวงทางออนไลน์ โดยควบคุมตัวอาชญากรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ) ส่งตัวไปศาลเพื่อพิจารณาโทษ ดำเนินการเนรเทศ และส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง
และเสริมว่ากัมพูชาได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเครือข่ายผู้วางแผนและปฏิบัติการฟอกเงินในหลายกรณีแก่ประเทศต่างๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค และบอกด้วยว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่บางประเทศและองค์กรระหว่างประเทศเพิกเฉยต่อผลลัพธ์เหล่านี้ พยายามกล่าวโทษกัมพูชา ทั้งที่ต้นตอของปัญหาอาจเกี่ยวพันกับหน่วยงานของตนเอง
รองนายกฯ ซาร์หวังว่ารัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีจะช่วยรายงานข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้นำ สื่อมวลชน และประชาชนชาวเกาหลีเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมในกัมพูชา โดยอ้างอิงจากสิ่งที่เธอและคณะได้พบเห็น เข้าใจ และได้รับข้อมูลในระหว่างการเยือนครั้งนี้
คิม จินาได้แจ้งต่อซาร์ว่า เป็นความจริงที่อาชญากรที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางออนไลน์มีเครือข่ายที่กว้างขวางและปฏิบัติการจากทุกหนทุกแห่ง ทำให้คนเกือบทุกประเทศตกเป็นเหยื่อ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือทวิภาคีหรือระดับโลกเพื่อแก้ไขปัญหานี้







