ทรัมป์เผยจะพบกับปูตินอีกรอบภายใน “สองสัปดาห์หรือประมาณนั้น”

ทรัมป์เผยจะพบกับปูตินอีกรอบภายใน “สองสัปดาห์หรือประมาณนั้น”

ประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยว่าการประชุมสุดยอดกับปูตินผู้นำรัสเซียจะเกิดขึ้นภายใน “สองสัปดาห์หรือประมาณนั้น” ที่ฮังการีหารือกันเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

บลูมเบิร์ก รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเขาจะจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่สองกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย “ภายในสองสัปดาห์หรือประมาณนั้น” โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติสงครามในยูเครน

ทรัมป์และปูตินตกลงที่จะพบกันที่กรุงบูดาเปสต์ระหว่างการโทรศัพท์คุยกันนานสองชั่วโมงในวันพฤหัสบดี ( 16 ต.ค. 68) ต่อมาทรัมป์แสดงความหวังว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าการประชุมที่อะแลสกาเมื่อเดือนสิงหาคมจะล้มเหลวก็ตาม

“ผมคิดว่าอะแลสกาได้ปูทางไปสู่อนาคต” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ “ผมคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จ ช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย”

ทรัมป์มีนิสัยชอบกำหนดเส้นตายสองสัปดาห์สำหรับการประกาศสำคัญๆ ซึ่งบ่อยครั้งก็มักจะไม่เป็นไปตามกำหนด

ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศของเครมลินยืนยันว่าปูตินและทรัมป์ได้หารือกันเกี่ยวกับการจัดการประชุมสุดยอดที่บูดาเปสต์ เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าการสนทนาครั้งนี้มีเนื้อหาสาระและตรงไปตรงมา และทรัมป์เสนอให้จัดการประชุมที่เมืองหลวงของฮังการี

“เราพร้อมแล้ว!” นายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ของฮังการี โพสต์ข้อความตอบกลับบน X โดยต่อมาระบุว่าเขาได้พูดคุยกับทรัมป์ทางโทรศัพท์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม

สหรัฐฯ และรัสเซียจะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสัปดาห์หน้าก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ โดยมีคณะผู้แทนจากวอชิงตันนำโดยมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทรัมป์กล่าวว่ายังไม่ได้กำหนดสถานที่ 

ขณะที่อูชาคอฟเปิดเผยว่า เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย และรูบิโอ วางแผนที่จะหารือกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 

ทรัมป์ระบุด้วยว่า ได้หารือกันกับปูตินถึงความเป็นไปได้ของการค้าระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย หากสงครามยุติลง 

ทรัมป์เปลี่ยนท่าทีต่อรัสเซียอีกครั้ง

สถานการณ์ดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าทรัมป์ยินดีที่จะให้โอกาสทางการทูตอีกครั้ง ก่อนที่จะอนุมัติมาตรการที่ก้าวร้าวมากขึ้นต่อมอสโก แม้ว่าความพยายามของเขาจะยังไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม

การสนทนาเกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนการประชุมที่ทำเนียบขาวของทรัมป์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งได้เรียกร้องประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ขายขีปนาวุธโทมาฮอว์กพิสัยไกล ซึ่งสามารถโจมตีได้ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

เซเลนสกีกล่าวว่าการโจมตีเช่นนี้จะช่วยบีบให้ปูตินเข้าสู่การเจรจาเพื่อยุติการรุกรานยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สี่แล้ว ทรัมป์เองก็เพิ่งแสดงความกระตือรือร้นที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อผู้นำรัสเซีย โดยได้กล่าวถึงโอกาสที่จะอนุญาตให้ยูเครนเข้าถึงอาวุธโทมาฮอว์ก

น้ำเสียงของทรัมป์ในวันพฤหัสบดีแตกต่างออกไป เขาดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าเขาไม่ต้องการส่งอาวุธนี้กับเคียฟหลังจากได้หารือเรื่องนี้กับปูติน

“เรามีอาวุธเหล่านี้มากมาย แต่เราต้องการมัน ผมหมายถึง เราไม่สามารถทำให้จำนวนอาวุธของประเทศเราหมดไป” ทรัมป์กล่าว

เซเลนสกีชี้ให้เห็นว่าภัยคุกคามจากอาวุธโทมาฮอว์กเป็นแรงบันดาลใจให้ปูตินเข้าร่วมการเจรจา

“เราเห็นแล้วว่ามอสโกกำลังรีบเร่งกลับมาเจรจาอีกครั้งทันทีที่ได้รับทราบเรื่องอาวุธโทมาฮอว์ก” เซเลนสกีโพสต์บนโซเชียลมีเดีย

ทรัมป์ กล่าวว่าเขาจะแบ่งปันรายละเอียดของการสนทนากับปูตินให้กับเซเลนสกี ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ขอความเห็นจากปูตินเกี่ยวกับการส่งมอบขีปนาวุธของสหรัฐฯ หลายพันลูกให้กับยูเครน และผู้นำรัสเซีย “ไม่ชอบแนวคิดนี้”

คุณคิดว่าเขาจะพูดว่า “ผมอยากให้ส่งโทมาฮอว์กมาทางผม” ใช่ไหม? ผมไม่คิดอย่างนั้น” ทรัมป์กล่าว

การโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในยูเครนเมื่อคืนก่อนการโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์และปูติน “เผยให้เห็นทัศนคติที่แท้จริงของมอสโกที่มีต่อสันติภาพ” โอลกา สเตฟานิชินา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวในแถลงการณ์ โดยเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า “เป็นการโจมตีโดยตรงต่อความพยายามสร้างสันติภาพที่นำโดยประธานาธิบดีทรัมป์”