'ฟิทช์' เตือนเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ อาจฉุดรายได้สินเชื่อ ‘4 แบงก์ใหญ่’ วูบ

'ฟิทช์' เตือนเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ-หนี้ครัวเรือนสูง-ฟื้นตัวช้ากว่าภูมิภาค จ่อฉุดรายได้สินเชื่อ ‘4 แบงก์ใหญ่’ ไตรมาส 3 วูบ กดดันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ ขนาดใหญ่ 4 แห่งของไทย จะมีกำไรจากดอกเบี้ยลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 ของปี 2568 เนื่องจากปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่สูง และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้การปล่อยสินเชื่อและการหารายได้ของธนาคารเป็นไปได้ยาก
ภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ได้ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้อง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.5% ซึ่งเป็นระดับที่เคยเห็นเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่เท่านั้น
“ฟิทช์ เรทติ้งส์” ระบุในรายงานว่า การฟื้นตัวของไทยหลังการระบาดใหญ่ยังคงอ่อนแอกว่าภูมิภาค และแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงปี 2568-2569 ก็คาดว่าจะยังคงอ่อนแอ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารและหนี้ครัวเรือนที่ยังคงเป็นตัวสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อลดลง
คาดการณ์รายได้ดอกเบี้ยสุทธิไตรมาส 3 ของ 4 ธนาคารใหญ่ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
แรงกดดันต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM)
ซาราห์ เจน มาห์มุด นักวิเคราะห์อาวุโสของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ชี้ว่า ธนาคารอาจจำเป็นต้อง คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่น่าดึงดูดใจ ไว้เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลงจะกดดันรายได้ก็ตาม
"ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยจะได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากกำไรจากรายได้ดอกเบี้ยถูกจำกัดมากขึ้น ประกอบกับสินเชื่อที่อ่อนแอ และหนี้เสีย"
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ กล่าวเสริมว่า ธนาคารขนาดใหญ่ของไทยยังคงอยู่ใน “สถานะที่ดี” ที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยระบุว่า "ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของไทยมีบัฟเฟอร์หรือมีเงินสำรองหรือทุนที่พร้อมรับมือกับความเสี่ยงได้พอสมควร เพื่อป้องกันไม่ให้หนี้เสีย (NPL) ที่เพิ่มขึ้นมาสร้างปัญหาใหญ่ให้กับฐานะการเงินของธนาคาร"
อ้างอิง Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







