OpenAI จับมือ Broadcom ปั้น ‘ชิปเอไอรุ่นแรก’ ของตน
‘OpenAI’ เดินเกมใหญ่ในอุตสาหกรรมชิป จับมือ ‘Broadcom’ ผลิต ‘ชิป AI รุ่นแรก’ ของตนเอง เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานขับเคลื่อนยุคใหม่ของ AI หวังลดการพึ่งพา Nvidia ที่ยังครองตลาดอยู่
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “OpenAI” เจ้าของ ChatGPT ได้จับมือกับบริษัทผลิตชิป “Broadcom” เพื่อผลิต “ชิปปัญญาประดิษฐ์รุ่นแรก” ที่พัฒนาโดย OpenAI เอง ทำให้ หุ้นBroadcom พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังมีข่าวการร่วมมือดังกล่าว
ทั้งสองบริษัทกล่าวเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) ว่า OpenAI จะเป็นผู้ออกแบบชิป ส่วน Broadcom จะรับหน้าที่พัฒนาและเริ่มนำไปใช้งานในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 โดยโครงการนี้จะมีการเปิดตัวชิปเฉพาะทาง กำลังรวมกว่า 10 กิกะวัตต์ ซึ่งมีการใช้พลังงานเทียบเท่ากับความต้องการไฟฟ้าของครัวเรือนในสหรัฐ “กว่า 8 ล้านหลังคาเรือน” หรือ มากกว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของเขื่อนฮูเวอร์ถึง 5 เท่า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่คาดว่าข้อตกลงครั้งนี้ จะสามารถท้าทายอิทธิพลของ “Nvidia” ใน ตลาดชิป AI ได้ เนื่องจากการออกแบบ ขยายกำลังผลิต และสร้างชิปภายในองค์กรตั้งแต่ต้นนั้น เป็นความท้าทายที่ใหญ่มาก
“การร่วมมือกับ Broadcom ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อปลดล็อกศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์” แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในแถลงการณ์
ในขณะที่เจนเซน หวง ซีอีโอของ Nvidia เคยกล่าวเมื่อเดือนสิงหาคมว่า ศูนย์ข้อมูลขนาด 1 กิกะวัตต์ อาจมีต้นทุนระหว่าง 50,000–60,000 ล้านดอลลาร์ โดยผลิตภัณฑ์ของ Nvidia ที่ใช้ขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลนั้น คิดเป็น “มากกว่าครึ่งหนึ่ง” ของต้นทุนทั้งหมด
กาจโจ เซวิยา นักวิเคราะห์จาก eMarketer มองว่า กรอบเวลาปี 2026 ที่ OpenAI กำหนดไว้ ถือว่า “ทะเยอทะยานมาก” แต่บริษัทสตาร์ทอัปแห่งนี้ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการระดมทุน เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในระดับสูงมาก
“การจัดหาเงินทุนสำหรับดีลชิปขนาดมหึมานี้ น่าจะต้องอาศัยการผสมผสานของการระดมทุนหลายรอบ การสั่งจองล่วงหน้า การลงทุนเชิงกลยุทธ์ และการสนับสนุนจาก Microsoft รวมถึงการใช้รายได้ในอนาคตและแหล่งสินเชื่อที่เป็นไปได้” กาจโจ เซวิยากล่าว
ทั้งนี้ Broadcom และ OpenAI กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การติดตั้งและใช้งานชิปเฉพาะทางรุ่นใหม่นี้จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2029 โดยโครงการดังกล่าวจะต่อยอดจากข้อตกลงการพัฒนาร่วมและการจัดหาชิปที่ทั้งสองบริษัทมีอยู่ก่อนแล้ว
ระบบใหม่เหล่านี้จะถูกขยายขนาด โดยอาศัยอุปกรณ์เครือข่ายของ Broadcom ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Ethernet และอุปกรณ์เน็ตเวิร์กอื่น ๆ ซึ่งนับเป็นการท้าทายโซลูชันเครือข่าย InfiniBand ของ Nvidia โดยตรง
อ้างอิง: reuters