IMF เตือนเศรษฐกิจโลกเสี่ยงเผชิญ ‘ความไม่แน่นอนถาวร’ เกิดฟองสบู่หุ้น-ทองคำพุ่งแรง

IMF เตือนเศรษฐกิจโลกเสี่ยงเผชิญ ‘ความไม่แน่นอนถาวร’ เกิดฟองสบู่หุ้น-ทองคำพุ่งแรง

IMF เตือนเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ ‘ยุคแห่งความไม่แน่นอนถาวร’ หลังราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดและมูลค่าหุ้นสหรัฐอยู่ในระดับเสี่ยง พร้อมเทียบสถานการณ์กับ ‘ฟองสบู่ดอตคอม’ เมื่อ 25 ปีก่อน ขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องให้จีนเร่งกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกคำเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจโลก โดยกล่าวว่า “เตรียมตัวให้ดี ความไม่แน่นอนคือความปกติใหม่”

ในการประชุมประจำปีของ IMF คริสตาลินา กิออร์กิเอวา กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจ ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐถูกคาดว่าจะ “หลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้” แม้จะมีการเก็บภาษีศุลกากรในระดับประวัติการณ์ต่อประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ก็ตาม และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวเพียงเล็กน้อยในปีนี้และปีหน้า

แต่จอร์จีวาชี้ให้เห็นถึงสัญญาณความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจโลก รวมถึงราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สะท้อนความวิตกกังวลของนักลงทุน และมูลค่าหุ้นสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ

เธอกล่าวต่อผู้ฟังในการประชุมว่า “ก่อนที่ใครจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอให้ฟังสิ่งนี้ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลกยังไม่ถูกทดสอบอย่างเต็มที่ และมีสัญญาณน่ากังวลว่าการทดสอบนั้นอาจกำลังมา”

กิออร์กิเอวาระบุว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการเก็บภาษีของสหรัฐ “ยังไม่ปรากฏอย่างเต็มรูปแบบ” หลังจากหลายบริษัทเร่งส่งออกสินค้าในช่วงต้นปีนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เธอกล่าวเตือนว่า “เตรียมตัวให้ดี ความไม่แน่นอนคือความปกติใหม่ และจะอยู่กับเราไปอีกนาน”

ในรายงาน World Economic Outlook ฉบับล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม IMF คาดการณ์ว่า GDP โลก จะเติบโต 3% ในปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจาก 3.3% ในปี 2024

จอร์จีวาเปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันกับ “ฟองสบู่ดอตคอม” เมื่อราว 25 ปีก่อน โดยกล่าวว่า “การประเมินมูลค่าในวันนี้ กำลังเข้าใกล้ระดับเดียวกับช่วงที่โลกคลั่งไคล้อินเทอร์เน็ตเมื่อ 25 ปีก่อน”

เธอเตือนว่า “หากเกิดการปรับฐานอย่างรุนแรงขึ้นจริง สภาพคล่องทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นอาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เปิดเผยจุดเปราะบาง และทำให้ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นพิเศษ”

IMF เรียกร้องจีนกระตุ้นบริโภคเอกชน ฟื้นเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ IMF ได้เรียกร้องให้จีน “กระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน” ท่ามกลางการออมของครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมเตือนว่าผลกระทบจากมาตรการเก็บภาษีของทรัมป์ ยังไม่ปรากฏให้เห็นอย่างเต็มที่

สำหรับจีน เธอกล่าวว่า อัตราการออมของภาคเอกชน “อยู่ในระดับสูงเรื้อรัง” ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังถูกกดดันจากภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์และแรงกดดันจากเงินฝืด “จีนจำเป็นต้องมีแพ็กเกจนโยบายทางการคลังและโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน ปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบการเติบโตใหม่ และฟื้นฟูเศรษฐกิจของตน” จอร์จีวากล่าว

เธอเสริมว่า แพ็กเกจนโยบายดังกล่าวควรประกอบด้วยการเพิ่มการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมและการจัดการปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ พร้อมลดการใช้จ่ายในนโยบายอุตสาหกรรมลง

ก่อนหน้าการเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ของ IMF ในสัปดาห์หน้า ธนาคารโลก ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ขึ้นเป็น 4.8% จากเดิม 4% ซึ่งสอดคล้องกับการปรับเพิ่มประมาณการของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก 

อย่างไรก็ตาม ทั้งธนาคารโลกและ IMF ต่างเตือนว่า โมเมนตัมการเติบโตอาจชะลอตัวลงในปีหน้า เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ยังคงอ่อนแอ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์โนมูระระบุว่า “ตลาดหุ้นจีนอาจดูเหมือนทำผลงานได้ดีในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ผลจาก ‘ความมั่งคั่ง’ ที่ส่งต่อมายังการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงจำกัด และคาดว่าการบริโภคจะซบเซาต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้”

อ้างอิง: nikkeiguardian