ชัตดาวน์สหรัฐ ‘สะเทือนท่องเที่ยว’ หลายอุทยาน–แหล่งประวัติศาสตร์ปิด

ชัตดาวน์สหรัฐ ‘สะเทือนท่องเที่ยว’ หลายอุทยาน–แหล่งประวัติศาสตร์ปิด

‘ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐ’ สร้างความป่วนให้การท่องเที่ยวทั่วประเทศ หลายอุทยานและแหล่งประวัติศาสตร์ต้องปิดชั่วคราว นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ‘ผิดหวัง’ ที่ไม่ได้เข้าชมสถานที่สำคัญ ขณะที่บางแห่ง เช่น เทพีเสรีภาพและเกาะเอลลิส ยังเปิดต้อนรับผู้มาเยือน สะท้อนภาพวิกฤติการเมืองที่ส่งผลต่อผู้คนในชีวิตจริงทันที

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จากสถานการณ์ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ แบบกะทันหัน สถานที่สำคัญหลายแห่งในสหรัฐได้ถูกปิดชั่วคราว จนสร้างความผิดหวังให้เหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือน 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกแห่งจะถูกปิดห้ามเยี่ยมชม แองจี้ ฮิลล์ รู้สึกโล่งใจเมื่อเธอมาถึงพร้อมครอบครัว เพื่อเยี่ยมชม “เทพีเสรีภาพ” ในเช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งวางแผนไว้ล่วงหน้านานแล้ว และพบว่าสถานที่แห่งนี้ยังคงเปิดอยู่ แม้รัฐบาลสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เพียงวันก่อนหน้านี้

ขณะที่นักท่องเที่ยวที่ไปยังอุทยานแห่งชาติและแหล่งประวัติศาสตร์อื่น ๆ ในสหรัฐกลับ “โชคไม่ดี” แผนการเดินทางของพวกเขาต้องพังทลายลง เพราะความขัดแย้งทางการเมืองในกรุงวอชิงตัน

เหตุการณ์ปิดทำการของรัฐบาล ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 15 นับตั้งแต่ปี 1981 ส่งผลให้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจ และกิจกรรมอีกหลากหลายด้านต้องถูกระงับ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของอุทยานแห่งชาติ 63 แห่งทั่วประเทศ กลับยังไม่ชัดเจนนัก

ท่ามกลางความยินดีของฮิลล์และนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ รัฐบาลทรัมป์ประกาศเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีว่า ได้ตัดสินใจเปิดให้ “เทพีเสรีภาพ” และ “เกาะเอลลิส” ที่อยู่ใกล้เคียง ยังคงเปิดให้เข้าชมต่อไป

ก่อนหน้านั้น เคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า รัฐจะไม่เข้ามารับภาระเพื่อให้สถานที่เหล่านี้เปิดทำการต่อไปเหมือนที่เคยทำในช่วงชัตดาวน์ก่อน ๆ โดยทั้งสองสถานที่ในนิวยอร์กนี้ มีนักท่องเที่ยวเยือนสูงถึง 3.7 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว

นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมหลุมศพของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ที่เมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย กลับโชคไม่ดี โดยฟิลิป เคอร์แลนด์ เจ้าของร้านขายของที่ระลึกในท้องถิ่นเผยว่า มีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในวันพุธ ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันเกิดปีที่ 101 ของคาร์เตอร์ แต่เขากล่าวว่า นักท่องเที่ยวกลับถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าชมสถานที่สำคัญ

“ทุกคนต่างผิดหวัง” เคอร์แลนด์กล่าว “พวกเขาอยากเข้ามาแสดงความเคารพ” ต่ออดีตประธานาธิบดี ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วในวัย 100 ปี

ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เว็บไซต์ของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฟิลาเดลเฟียขึ้นป้ายสีแดงประกาศว่า อาคารในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติอินดีเพนเดนซ์ รวมถึงอาคารที่เก็บระฆังเสรีภาพและอินดีเพนเดนซ์ฮอลล์ ซึ่งเป็นสถานประกาศกำเนิดสหรัฐอย่างเป็นทางการ ได้ปิดทำการ

ไม่เพียงเท่านั้น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ในเมืองแอตแลนตาก็ถูกปิด ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปชมโบสถ์ Ebenezer Baptist อันเก่าแก่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้นำสิทธิมนุษยชนผู้มีชื่อเสียงเคยเทศนาได้

อ้างอิง: reuters