คาด 'อีวี' คัมแบ็กในจีน-สหรัฐ ฉุดยอดใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้โตลดลง

คาด 'อีวี' คัมแบ็กในจีน-สหรัฐ ฉุดยอดใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้โตลดลง

นักวิเคราะห์คาดปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้ขยายตัวลดลง เหตุยอดขายรถยนต์อีวีใน 2 ตลาดใหญ่ 'จีน-สหรัฐ' ฟื้น ฉุดความต้องการใช้น้ำมันลดลงตาม

บริษัทที่ปรึกษา วูด แม็กเคนซีย์ คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวลดลงถึง "ครึ่งหนึ่ง" เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยขยายตัวเพียง 3.4 แสนบาร์เรลต่อวัน จาก 7 แสนบาร์เรลต่อวันเมื่อปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 26.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะฉุดผลกำไรการกลั่นน้ำมันช่วงครึ่งปีหลังลดลงด้วย 

สุชันท์ คุปตะ นักวิเคราะห์จากวูด แม็กเคนซีย์ กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่ฉุดความต้องการน้ำมันทั่วโลกให้ลดลงถึงครึ่งหนึ่งในปีนี้ จะมาจากการฟื้นตัวของความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ใน "จีน" และ "สหรัฐ" ซึ่งจะกลับมาสู่ระดับปกติอีกครั้ง โดยการใช้รถยนต์อีวีใน 2 ตลาดใหญ่ดังกล่าวกำลังเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจีนนั้นกำลังใกล้เข้าสู่จุดพีกของความต้องการใช้รถน้ำมัน ส่วนสหรัฐได้เลยจุดพีกไปแล้ว   

"ปีนี้ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะโตเพียง 1 หมื่นบาร์เรลต่อวันเท่านั้น เนื่องจากการหันมาใช้รถอีวีในจีนมากขึ้น" คุปตะกล่าว

ด้านบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน ไรสตัด เอ็นเนอร์จี คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินทั่วโลกปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 26 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือขยายตัวอยู่ที่วันละ 3 แสนบาร์เรล ลดลงจาก 7 แสนบาร์เรลในปีที่แล้ว 

ทั้งนี้บริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (CNPC) คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในจีนจะขยายตัวเพียง 1.3% ในปีนี้ หรือขยายตัวราว 2 ล้านตัน อยู่ที่ 165.1 ล้านเมตตริกตัน (3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ใกล้เคียงกับที่บริษัทซิโนเปค (Sinopec) ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในจีนคาดการณ์ไว้ที่ 1.7% หรือราว 3 ล้านตัน อยู่ที่ 182 ล้านตัน

ส่วนในสหรัฐนั้น สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐลดลงอยู่ที่ราว 376 ล้านแกลลอนต่อวัน (ราว 8.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในปีที่แล้ว และคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในปี 2567 

ก่อนหน้านี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เคยคาดการณ์ว่า "จีน" ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันเบนซินมากที่สุดในโลก จะกลับมาขับเคลื่อนตลาดรถอีวีอีกครั้งด้วยยอดขายมากกว่าครึ่งจากยอดขายทั่วโลกในปีนี้ โดยราคาที่ปรับตัวลดลงจะกระตุ้นดีมานด์มากขึ้น ส่งผลให้ส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์อีวีในจีนปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ 45% ส่วนในยุโรปราว 25% และในสหรัฐกว่า 11%   

ทว่าในทางกลับกัน ความต้องการใช้น้ำมันจะขยายตัวขึ้นในอินเดียและอินโดนีเซีย จากยอดขายรถยนต์เครื่องสันดาปที่เติบโตขึ้นสวนทางรถอีวี และปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าอินเดียจะมีความต้องการใช้น้ำมันสูงสุดทุบสถิติใหม่ในปีนี้ที่ 39.2 ล้านตัน (ราว 9.08 แสนบาร์เรลต่อวัน) หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว