เตือนภัยสายฉีด ! สหรัฐพบสาวมะกันติดเชื้อ HIV เคสแรก หลังทำ ‘Vampire Facial’ ในคลินิกเถื่อน

ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐ พบ หญิง 3 คนติดเชื้อเอชไอวี (HIV) หลังทำทรีตเมนต์ดูแลผิวแบบ "Vampire Facial” ในคลินิกความงามไร้ใบอนุญาติในรัฐนิวเม็กซิโก ถือเป็นกรณีแรกที่พบคนติดเชื้อไวรัสจากการใช้บริการฉีดเพื่อเสริมความงาม

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุในรายงานการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตรายสัปดาห์ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า ผู้ป่วย 3 รายถูกบันทึกเป็นครั้งแรกว่าติดเชื้อไวรัสจากการใช้บริการด้านความงาม

ซีดีซีได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวในปี 2561 หลังกรมอนามัยนิวเม็กซิโกพบผู้หญิงวัย 40 รายหนึ่งติดเชื้อ HIV แต่ในช่วงนั้น ผู้ป่วยเผยว่าตนไม่ได้ใช้สารเสพติดแบบฉีด, ถ่ายเลือด, หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นนอกจากคู่รักตนเอง

อย่างไรก็ตาม เธอได้แจ้งว่า ตนได้สัมผัสกับเข็มในระหว่างทำทรีตเมนต์ที่ใช้เข็มขนาดเล็ก (microneedling) ของคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในอัลบูเคอร์คี รัฐเม็กซิโก

ทรีตเมนต์ดังกล่าวเรียกว่า Vampire Facial เป็นทรีตเมนต์ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับ และอิ่มฟู โดยการนำเลือดตนเองออกมาปั่น เพื่อแยกพลาสม่าที่อุดมด้วยเกล็ดเลือด (PRP) แล้วฉีดกลับเข้าไปในผิว

ในการเสริมความงาม ทรีตเมนต์นี้จะใช้เข็มจิ้มหลายบริเวณบนใบหน้า ทั้งหน้าผากและแก้ม หรือฉีดเลือดเข้าสู่ผิวหนังเหมือนฉีดฟิลเลอร์

ทรีตเมนต์นี้ได้รับความนิยมในหมู่เซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น คิม คาร์เดเชียน และบาร์ ราฟาเอลลิ โดยมีค่าใช้ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 37,000 บาท

จากการสอบสวนในระหว่างปี 2561-2566 เจ้าหน้าที่พบว่า มีลูกค้าคลินิกเสริมความงาม 3 คน ติดเชื้อเอชไอวีสายพันธ์เดียวกัน จึงสรุปได้ว่า การใช้บริการคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ทำให้ลูกค้าติดเชื้อเอชไอวี

ส่วนผู้หญิงอีกรายหนึ่งที่เข้าใช้บริการคลินิกเดียวกัน และคู่รักของตนที่ไม่เคยไปใช้บริการ มีเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์เดียวกัน แต่อาจติดเชื้อก่อนเข้ารับบริการในคลินิกดังกล่าว

ทั้งนี้ คลินิกไร้ใบอนุญาตได้ปิดตัวลงเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2561 และมาเรีย รามอส เด รุยซ์ เจ้าของธุรกิจถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่ง ในเดือน มิ.ย. 2565 โดยมีความผิด 5 กระทง ซึ่งรวมถึงการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้บริการดูแลผิวหน้าแบบ Vampire Facials โดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ การสืบสวนเคสติดเชื้อเอชไอวีดังกล่าว หน่วยงานซีดีซีและกรมอนามัยนิวเม็กซิโกยังได้พบการบริการที่ไม่ปลอดภัยของคลินิกเถื่อนนั้นด้วย อาทิ หลอดเก็บเลือดและยาที่ใช้ฉีดไม่มีฉลาก เก็บไซริงค์ไว้ในลิ้นชักและวางบนเคาน์เตอร์โดยไม่มีการบรรจุห่อ และนำเครื่องดูดความชื้นแบบใช้แล้วทิ้ง กลับมาใช้ใหม่

อ้างอิง: South China Morning Post, abcNEWS