เวียดนามคอร์รัปชัน ช็อกโลก | วรากรณ์ สามโกเศศ

เวียดนามคอร์รัปชัน ช็อกโลก | วรากรณ์ สามโกเศศ

ก่อนสงกรานต์ปีนี้ศาลเวียดนามได้ตัดสินประหารชีวิตหญิงเวียดนามวัย 68 ปี ในข้อหาคดโกงขนาดมหึมาติดอันดับโลก  

แถมมีคนติดร่างแหอีก 80 กว่าคน  และในช่วงเวลา 2 ปีก่อนหน้านี้  ประธานาธิบดี 2 คน   รองนายกรัฐมนตรี 2 คน  รัฐมนตรีอีกหลายคน  รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลต้องลาออกและบ้างก็ติดคุกกันระนาวด้วยข้อหาคอร์รัปชัน              

มันเกิดอะไรขึ้นในเวียดนาม  ดาวรุ่งทางเศรษฐกิจของโลก ที่กำลังมาแรงซึ่งมีภาพภายนอกของการปกครองที่เรียบร้อยเป็นไปด้วยดีแต่มีการคดโกงกันมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ

เวียดนามรวมเป็นประเทศได้สำเร็จใน ค.ศ.1976 หลังจากต่อสู้กับสหรัฐอเมริกา 20 ปี และกับฝรั่งเศสอดีตเจ้าอาณานิคมก่อนหน้านั้น 50 ปี รวมเป็นเวลา 70 ปี ที่เวียดนามมีแต่การสู้รบหาความสงบไม่ได้  คนเวียดนามตายไปเพื่ออิสรภาพเป็นล้าน ๆ  คน

พรรคคอมมูนิสต์เวียดนามผู้ชนะตั้งหลักอยู่ 10 ปีอย่างงง ๆ กับสันติภาพหลังสงครามจนในปี 1986 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือนโยบายของพรรคคอมมูนิสต์เวียดนามที่มีชื่อว่า “โดย-เหม่ย”

             นโยบายนี้คือการยกเครื่องประเทศโดยการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ระบบที่เรียกว่า socialist-oriented economy (ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีภายใต้แนวคิดสังคมนิยม) เลียนแบบจีน

ระบบนี้ประชาชนมีเสรีภาพทางเศรษฐกิจแต่ไม่มีเสรีภาพทางการเมือง  โดยมีพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ครองอำนาจ

              รัฐบาลดำเนินตามนโยบายนี้อย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่องจนภายในเวลา 30 ปี ได้เปลี่ยนแปลงประเทศที่ยากจนเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวระหว่าง 1985-2017 (คนยากจนหายไปจากระดับ 72%  ของประชากรเหลือเพียง 6%)  กลายเป็นประเทศระดับรายได้ปานกลาง   

 นอกจากนี้ รายได้ต่อหัวใกล้เคียงฟิลิปปินส์ และต่ำกว่าไทยอยู่ประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง  มีอย่างน้อย 4 ปัจจัย ที่ทำให้เวียดนามประสบความสำเร็จ คือ

(1) เปิดรับการค้าเสรีกับต่างประเทศอย่างเต็มที่        

(2) ปฏิรูปภายในประเทศควบคู่กับการค้าเสรีด้วยการแก้ไขกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า  ลดต้นทุนของการประกอบธุรกิจ  

(3) ลงทุนอย่างมากในทรัพยากรมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐาน  

(4) มีต้นทุนค่าแรงต่ำโดยมีคนอายุต่ำกว่า 35 ปี อยู่ประมาณ  50%

เวียดนามคอร์รัปชัน ช็อกโลก | วรากรณ์ สามโกเศศ

                เมื่อเวียดนามซึ่งมีประชากร 100 ล้านคน  รายได้ต่อหัว 4,600 เหรียญสหรัฐ (ไทย 7,800 เหรียญสหรัฐ) ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ  โรคร้ายที่ตามมาเป็นธรรมชาติก็คือคอรัปชั่นในภาครัฐและการคดโกง    โดยเฉพาะในประเทศที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว  

เป็นที่รู้กันดีว่า โรคร้ายนี้ระบาดในทุกระดับของประเทศ  แต่ก็ไม่มีหลักฐานปรากฏ   จนเกิดการรณรงค์ปราบปรามที่ริเริ่มโดยเลขาธิการพรรคที่มีอำนาจมากที่สุด โดยเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารประเทศ และพรรคคอมมูนิสต์แห่งเวียดนาม

              เวียดนามมีผู้บริหารระดับสูงสุด 4 คนตามสไตส์ของการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ หากเรียงลงมาตามอำนาจแล้วคนแรกคือเลขาธิการพรรค    รองมาคือนายกรัฐมนตรี (ดูแลการทำงานของรัฐบาล)  ประธานาธิบดี (ผู้นำตามประเพณีของโลก )และประธานสภาผู้แทนราษฎร

             Nguyen Phu Trong  ผู้นำวัย 80 ปี  เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เป็นเวียดนามทุกวันนี้   เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคตั้งแต่ปี 2011 และจะอยู่จนถึง ปี 2026 ในปี 2016 ก็เริ่มปราบการคดโกง    

ประธานาธิบดีคนแรกที่เป็นเหยื่อคือ Nguyen Xuan Phuo ลาออกเมื่อต้นปี 2023  ตามมาด้วยประธานาธิบดีคนที่สองคือ Vo Van Thuong ลาออกเมื่อปลายมีนาคม 2024 และมีรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของพรรคอีกหลายคนที่ลาออกและติดคุก

              มหาเศรษฐีนี Truong My Lan ถูกตัดสินประหารชีวิตหลังจากโดนจับในปี 2022 ในข้อหาคดโกงเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว 12,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (เท่ากับเงินแจกดิจิตอลวอลเล็ตพอดี)  เธอเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่และมาทำธุรกิจธนาคาร  ถือหุ้น 90% ของธนาคาร Saigon Commercial Bank ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ  

ข้อหาคือยักยอกฉ้อฉล  ติดสินบนและทำผิดกฎหมายกู้ยืมของธนาคาร   วิธีการก็คือแอบถ่ายเทเงินทองจากธนาคารผ่านการกู้ยืมปลอมโดยหลายร้อยบริษัทและผู้คน จนกระทั่งร่ำรวยอย่างน่าตกใจในช่วงเวลา 2012-2022 ซึ่งถือว่ากระทำอย่างอุกอาจ ท้าทายการรณรงค์ปราบปรามที่เริ่มตั้งแต่ปี 2016  

การกระทำของเธอทำให้ธนาคารล้มเพราะพอรู้ข่าวคนก็แห่ไปถอนเงินจนประชาชนเดือดร้อน

              ชาวโลกหรือแม้แต่คนเวียดนามเองก็ตกตะลึงกับตัวเลขการฉ้อโกง ซึ่งใหญ่เท่ากับ 3% ของ GDP เวียดนาม  

มันเป็นการยอมรับครั้งแรกโดยปริยายว่าภายใต้การปกครองของพรรคซึ่งปกปิดมาก ไม่ยอมให้มีข่าวคราวไม่ดีรั่วไหลออกมานั้นมีการฉ้อฉลจริง และพันขึ้นไปถึงระดับสูง (มาก) ด้วย   ถึงจะไม่ตื่นเต้นเพราะรู้ ๆ กันอยู่แล้วแต่นักลงทุนต่างประเทศก็นึกไม่ถึงในขนาดของมัน

เวียดนามคอร์รัปชัน ช็อกโลก | วรากรณ์ สามโกเศศ

               สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือความปั่นป่วนในพรรค และหมู่ข้าราชการ เพราะกลัวว่าการสืบสวนจะลามมาถึงตัวจึงมีคนรีบลาออกไปถึง 60,000 คน ระหว่างปี 2021-2023  ระบบราชการของเวียดนามที่ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วจึงเกิดปัญหาหนักขึ้น   เงินเดือนเริ่มต้นที่สูงเพียง 80 เหรียญสหรัฐ (เงินเดือนนายกรัฐมนตรีเพียง 1,000 เหรียญสหรัฐ) ก็จะมีการขึ้นเงินเดือนถึง 30%  ในกลางปีนี้ และขึ้นต่อไปอีกปีละ 7%  

              เวียดนามขาดแคลนครูและบุคลากรทางการแพทย์อย่างหนัก  บริการสาธารณสุขมีปัญหาหนักเช่นเดียวกับระบบบริการสาธารณะพื้นฐานอื่น ๆ เนื่องจากขาดแคลนบุคลากร  และมีระบบการบริหารงานที่ไม่ทันสมัย    

ความไม่สมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และประสิทธิภาพของระบบบริหารเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกประเทศ   เวียดนามกำลังประสบความท้าทายที่ต้องก้าวข้ามหากต้องการการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

              โลกควรให้กำลังใจท่าน Nguyen Phu Trong  สำหรับความกล้าหาญในการปราบความ      ชั่วร้ายอันเป็นอุปสรรคสำคัญของการพัฒนาประเทศ    ถ้าทิ้งไว้ไม่แก้ไขมันจะลุกลามไปไกลจนแก้ไขได้ยากยิ่งขึ้นในอนาคต