’ทิม คุก‘ ทัวร์อาเซียน จ่อลงทุน ’เวียดนาม-อินโดฯ-สิงคโปร์’ แต่ไร้เงา ’ไทย’

’ทิม คุก‘ ทัวร์อาเซียน จ่อลงทุน ’เวียดนาม-อินโดฯ-สิงคโปร์’ แต่ไร้เงา ’ไทย’

"ทิม คุก" ซีอีโอ Apple ประกาศบุกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินสายทัวร์ "เวียดนาม" "อินโดนีเซีย" และ "สิงคโปร์" โปรโมตแบรนด์ พร้อมมีแผนลงทุนซัพพลายเออร์ พิจารณาตั้งโรงงาน แต่ไร้เงา "ไทย"

"ทิม คุก" ซีอีโอของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ (Apple) ประกาศมีแผน Whirlwind Asia Tour เดินทางทัวร์ภูมิภาค "อาเซียน" หลังประกาศอย่างเป็นทางการว่า ต้องการเพิ่มการใช้จ่ายกับซัพพลายเออร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่การประกาศดังกล่าวบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะขยายฐานการผลิตในภูมิภาคนี้

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทิม คุก เดินทางเยือน "เวียดนาม อินโดนีเซีย และสิงคโปร์" เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจของ Apple ในการขยายธุรกิจในตลาดอาเซียนที่กำลังเติบโต แต่ทว่า "ประเทศไทย" ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของภูมิภาค กลับไม่ถูกเลือกให้เป็นฐานการผลิตหรือส่วนหนึ่งในแอปเปิ้ล

เพิ่มลงทุนซัพพลายเออร์ในเวียดนาม

ในการเดินทางไปในแต่ละประเทศ ทิม คุก ได้หารือกับผู้นำรัฐบาลและภาคเอกชนในทั้งสามประเทศเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เริ่มต้นด้วยการเดินทางเยือนเวียดนามเป็นเวลา 2 วัน และมีการพบ "ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์" นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และหารือเกี่ยวกับการลงทุนท้องถิ่น โดยมีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายกับซัพพลายเออร์ในประเทศ

แอปเปิ้ลได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายกับซัพพลายเออร์ในเวียดนาม ควบคู่ไปกับความคืบหน้าของโครงการสนับสนุนน้ำสะอาดให้แก่โรงเรียนท้องถิ่น พร้อมเสริมว่า การลงทุนของแอปเปิ้ลในเวียดนามนั้น สูงถึง 400 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ และยังได้สร้างงานไปแล้วกว่า 200,000 ตำแหน่ง

รวมทั้งแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรมหลายราย เผยว่า บริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ให้กับผู้ผลิตหลักของแอปเปิ้ล อย่างเช่น "ฟ็อกซ์คอนน์" ก็ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม หรือมีแผนที่จะย้ายไปเวียดนาม บางบริษัทยังได้ย้ายบางส่วนของการผลิตออกจากจีน เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน

จ่อสร้างโรงงานแห่งแรกในอินโดนีเซีย

หลังจากนั้น ทิม คุก เดินทางต่อไปยังกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมประกาศแผนพิจารณาตั้งโรงงานผลิตในอินโดนีเซีย หลังเข้าพบหารือกับ “โจโก วิโดโด” ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และได้เข้าร่วมพิธีเปิด Apple Developer Academy บนเกาะบาหลี

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน แอปเปิ้ลยังไม่มีโรงงานผลิตในอินโดนีเซีย แต่บริษัทมี Apple Developer Academy มากถึง 4 แห่งด้วยกัน ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีประชากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก ส่งผลให้เป็นตลาดเป้าหมายสำคัญสำหรับการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี

ช่วงสุดท้ายของการทัวร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปจบที่ "สิงคโปร์" โดยแหล่งข่าวเผยว่า ทิม คุก เตรียมเข้าพบกับผู้นำสิงคโปร์ทั้ง 2 คน ได้แก่ ลี เซียนหลุง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และ ลอว์เรนซ์ หว่อง ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ 

ก่อนหน้านี้ แอปเปิ้ล ประกาศแผนลงทุน 250 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 187 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายวิทยาเขตในประเทศสิงคโปร์ บริษัทมีพนักงานมากกว่า 3,600 คนในสิงคโปร์แล้ว และการขยายพื้นที่ครั้งนี้จะรองรับบทบาทใหม่ ๆ ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และฟังก์ชันอื่น ๆ

ทิม คุกกล่าวว่า "สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่พิเศษจริง ๆ และเรารู้สึกภูมิใจในความสัมพันธ์ที่เราสร้างขึ้นกับชุมชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งผู้สร้าง ผู้เรียนรู้ และผู้ใฝ่ฝัน ด้วยวิทยาเขตที่ขยายใหญ่ขึ้น แอปเปิ้ลกำลังเขียนบทใหม่ของเรื่องราวของเราที่นี่"

มุ่งสู่อาเซียน แต่ไม่มี 'ไทย'

การทัวร์อาเซียนถือเป็นการสะท้อนว่าแอปเปิ้ลให้ความสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเสียงใต้ในฐานะตลาดที่สำคัญและฐานการผลิตที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ Apple กำลังมองหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตนอกเหนือจากจีน ทำให้บริษัทกำลังกระจายการผลิตออกไปนอกประเทศจีนเพื่อลดความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศมหาอำนาจ ประกอบกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ Apple 

จากการพบปะผู้นำประเทศ ในเวียดนามและอินโดนีเซีย ไปจนถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในท้องถิ่น ทิม คุก ซีอีโอของ Apple กำลังทุ่มเทให้กับกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ 

แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า การเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล่าสุด ยังอาจนำไปสู่กลยุทธ์ที่รุกคืบมากขึ้นในภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นนี้ ซึ่งตลาดสมาร์ทโฟน ถูกครองโดยโทรศัพท์แอนดรอยด์จากค่าย Samsung, Xiaomi และ Oppo

แรงผลักดันส่วนหนึ่งสะท้อนจากการเปิดตัว Apple Store แห่งแรกในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยปัจจุบันแอปเปิ้ลมี Apple Store 5 แห่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งเป็น 3 แห่ง ในสิงคโปร์ และ 2 แห่งในประเทศไทย ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัท

ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไม ทิม คุก จึงไม่มาไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เพิ่งทวีตข้อความ ระบุว่า ได้รับจดหมายจาก ทิม คุก CEO ของบริษัท Apple ให้ความเชื่อมั่นศักยภาพไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรม การศึกษา และแรงงาน ด้านเทคโนโลยี

"ประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อม ซึ่งเมื่อร่วมกับการสนับสนุนของรัฐบาล ในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น การศึกษาอุตสาหกรรม แรงงาน ทำให้ผมมั่นใจครับว่าความร่วมมือกับ Apple เกิดขึ้นได้จริงนี่ถือเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์จากการออกไปสร้างความเชื่อมั่น พูดคุยแสดงความพร้อมของรัฐบาล และประชาชนไทยให้กับโลก และบริษัทยักษ์ใหญ่ได้เห็นครับ"