ชาวบ้านเมียวดีหนีระเบิด - ห่ากระสุน ‘ทะลักเข้าไทย’

ชาวบ้านเมียวดีหนีระเบิด - ห่ากระสุน ‘ทะลักเข้าไทย’

ชาวบ้านเมืองเมียวดีของเมียนมาข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทย ท่ามกลางเสียงระเบิดหลังกลุ่มชาติพันธุ์ยึดค่ายทหารสำคัญบริเวณใกล้เคียงได้

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ตามที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ประกาศเมื่อวันเสาร์ (6 เม.ย.67) ว่ายึดค่ายทหารแห่งหนึ่งห่างจากเมืองเมียวดีไปทางตะวันตกราว 10 กิโลเมตรได้แล้ว โดยตำรวจ ทหาร และครอบครัวรวมกว่า 600 คน ยอมมอบตัวกับเคเอ็นยู

ล่าสุดเอเอฟพีติดต่อชาวบ้านเมียวดีหลายคนเล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงยิงปืน และระเบิด “บางคนหนีไปแล้ว โดยเฉพาะคนที่อยู่รอบสถานีตำรวจ ตอนนี้เราก็ได้ยินเสียงยิงปืน และระเบิด ได้ยินเสียงเครื่องบิน บินอยู่เหนือหัวด้วย”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าไม่มีนักรบเคเอ็นยูในเมือง และสะพานเชื่อมระหว่างเมียวดีกับแม่สอดของไทยยังคงเปิด

“ผมได้ยินระเบิดดังสองครั้ง วันนี้ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดชาวบ้านกำลังหนีไปประเทศไทย” ชาวบ้านเมียวดีอีกคนหนึ่งเล่า

ทั้งนี้ ชาวบ้านเผยด้วยว่า บริการมือถือของเมียนมาใช้การไม่ได้ ชาวบ้านต้องใช้ซิมการ์ดของไทย

รัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้ตอบข้อซักถามของเอเอฟพี ถึงข้ออ้างของเคเอ็นยูที่ว่า ทหารในค่ายติงกะยิงหย่องยอมมอบตัว เอเอฟพีขอความเห็นไปยังเคเอ็นยูเช่นกัน

ชาวบ้านติงกะยิงหย่องรายหนึ่งกล่าวว่า เธอหนีออกจากบ้านเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน หลังการปะทะกันครั้งก่อนหน้า ตอนนี้เธอหลบภัยอยู่ที่ชายแดนไทย ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศหลายคนตอนนี้อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำกั้นระหว่างไทยกับเมียนมา

“เราเห็นประชาชนหลายพันคนจากหมู่บ้านข้ามพรมแดนกันทุกวัน” หญิงคนเดิมเล่า

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวว่า ไทยเตรียมพร้อมรับประชาชนหนีภัยจากเมียนมา 100,000 คน นับตั้งแต่มีรายงานการปะทะกันเกิดขึ้น

ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับเมียนมา 2,400 กิโลเมตร ซึ่งระอุด้วยสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่ทหารโค่นรัฐบาลพลเรือนในปี 2564

เมืองเมียวดีตั้งอยู่บนทางหลวงสายเอเชียตัดจากชายแดนไทยไปยังย่างกุ้ง เมืองใหญ่สุดของเมียนมา โดยตัดผ่านรัฐกะเหรี่ยงที่ระอุด้วยการสู้รบระหว่างกองทัพกับเคเอ็นยูมานานหลายสิบปี เคเอ็นยูต้องการให้ชาวกะเหรี่ยงได้ปกครองตนเอง

นับตั้งแต่รัฐประหาร 2564 เคเอ็นยูได้ให้ที่พักพิงกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหาร และฝึกฝน “กองกำลังป้องกันตนเองของประชาชน” (พีดีเอฟ) ต่อสู้โค่นล้มการปกครองของทหาร

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2566 - 31 มี.ค.2567 การค้าผ่านเมืองเมียวดีมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์

 ปีนี้ กองกำลังดูแลชายแดนรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเมียวดี ประกาศว่า ไม่ฟังคำสั่งจากรัฐบาลทหารอีกต่อไป นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สถานะของกองทัพเมียนมาในรัฐกะเหรี่ยงอ่อนแอลง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์