ศึกชิงจ้าวตลาดข้าวบาสมาติระอุ “อินเดีย-ปากีฯ”แข่งเดือด

ศึกชิงจ้าวตลาดข้าวบาสมาติระอุ “อินเดีย-ปากีฯ”แข่งเดือด

ไอเออาร์ไอ ระบุว่า ปากีสถานพยายามสร้างการยอมรับในตลาดด้วยการจำหน่ายข้าวบาสมาติราคาถูกกว่า ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของอินเดียในฐานะเป็นผู้จัดหาข้าวบาสมาติระดับพรีเมียมในตลาดโลก

ปัญหาความขัดแย้งประเด็นอ้างความเป็นเจ้าของข้าวบาสมาติที่แท้จริงระหว่างอินเดียและปากีสถาน สองประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียใต้ที่ต่างก็สะสมอาวุธนิวเคลียร์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และความขัดแย้งนี้หากไม่ได้รับการแก้ไขอาจส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวโลกโดยรวม เหมือนกรณีอินเดียสั่งห้ามส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่พันธุ์บาสมาติ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ปีที่แล้ว  เพื่อควบคุมราคาอาหารที่อยู่ในระดับสูง

ประเด็นที่เป็นปมขัดแย้งเรื่องนี้มีมานานแล้วแต่มาถึงจุดพีคเมื่อสถาบันวิจัยทางการเกษตรของอินเดีย(ไอเออาร์ไอ) กล่าวหาปากีสถานว่าปลูกข้าวบาสมาติสายพันธุ์อินเดียอย่างผิดกฏหมาย ซึ่งข้อกล่าวหานี้เป็นข้อกล่าวหาล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นว่า การอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของข้าวบาสมาติที่ทั้งสองประเทศต่างก็เป็นผู้ส่งออกหลักกำลังบั่นทอนความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วของสองประเทศ

เน้นปกป้องผลประโยชน์เกษตรกร-ผู้ส่งออก

ข้อกล่าวหาของอินเดียที่ว่าปากีสถานละเมิดสิทธิด้านเมล็ดพันธุ์และละเมิดสิทธิบัตรข้าวบาสมาติ เป็นผลมาจากการที่มีคลิปวิดีโอที่ถูกนำออกเผยแพร่ทางออนไลน์แสดงภาพเกษตรกรชาวปากีสถานจำนวนมากปลูกข้าวบาสมาติ ซึ่งสถาบันไอเออาร์ไอ ให้เหตุผลที่ต้องออกมากล่าวหาปากีสถานเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะต้องการปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรในประเทศและบรรดาผู้ส่งออกข้าว
 

“คณะนักวิทยาศาสตร์ของเราทำงานหนักเพื่อพัฒนาและปรับปรุงข้าวบาสมาติสายพันธุ์ต่างๆให้เพิ่มผลผลิต มีคุณภาพและต้านทานแมลงและโรคต่างๆ ซึ่งทำให้ราคาข้าวบาสมาติในตลาดโลกมีราคาสูง”โฆษกไอเออาร์ไอ กล่าว

สถาบันไอเออาร์ไอ ระบุว่า ปากีสถานพยายามเข้ามาสร้างการยอมรับในตลาดด้วยการจำหน่ายข้าวบาสมาติราคาถูกกว่าของอินเดีย ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของอินเดียในฐานะเป็นผู้จัดหาข้าวบาสมาติระดับพรีเมียมในตลาดโลก

อินเดียต้นตออุปทานข้าวโลกตึงตัว

ปัญหาขัดแย้งเรื่องการอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของข้าวบาสมาติมีขึ้น หลังจากอินเดียสั่งห้ามส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่พันธุ์บาสมาติ โดยให้มีผลบังคับใช้เมื่ิอวันที่ 20 ก.ค. เพื่อควบคุมราคาอาหารที่อยู่ในระดับสูงและรับประกันว่าจะมีปริมาณข้าวเพียงพอภายในประเทศ

กระทรวงกิจการผู้บริโภคของอินเดียมั่นใจว่า การสั่งห้ามครั้งนี้จะช่วยรับประกันปริมาณข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติให้เพียงพอในอินเดีย และช่วยสกัดการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวภายในประเทศ

ศึกชิงจ้าวตลาดข้าวบาสมาติระอุ “อินเดีย-ปากีฯ”แข่งเดือด ศึกชิงจ้าวตลาดข้าวบาสมาติระอุ “อินเดีย-ปากีฯ”แข่งเดือด
 

ทั้งนี้ อินเดีย เป็นผู้ส่งออกข้าวชั้นนำของโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของการค้าข้าวทั่วโลก และเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดอันดับสองรองจากจีน

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การห้ามส่งออกข้าวของอินเดียอาจส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นอีก หลังจากได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จากการที่อินเดียห้ามส่งออกข้าวหักในเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา

“อีฟ แบร์” นักเศรษฐศาสตร์อาเซียนจากโคเฟซ บริษัทประกันสินเชื่อการค้า ให้ความเห็นว่า “อุปทานข้าวทั่วโลกจะตึงตัวอย่างมากเพราะอินเดียเป็นผู้ผลิตข้าวอันดับสองของโลก ส่วนบังกลาเทศและเนปาลจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกอันดับต้น ๆ"

ส่วนโกร อินเทลลิเจนซ์ บริษัทวิเคราะห์ด้านการเกษตรคาดการณ์ว่า การห้ามส่งออกข้าวของอินเดียอาจทำให้ความไม่มั่นคงด้านอาหารของประเทศต่าง ๆ ทวีความรุนแรงขึ้น

“ตลาดส่งออกชั้นนำสำหรับข้าวอินเดียได้แก่ บังกลาเทศ, จีน, เบนิน และเนปาล ขณะที่ประเทศในแอฟริกาอื่น ๆ ก็นำเข้าข้าวอินเดียจำนวนมากเช่นกัน” บทวิเคราะห์จากโกร อินเทลลิเจนซ์ ระบุ

เพิ่มโอกาสขายข้าวแก่ปากีสถาน

การห้ามส่งออกข้าวขาวของอินเดีย ทำให้ปากีสถานมองเห็นโอกาส โดย“เชลา เควลานิ” ประธานสมาคมผู้ส่งออกข้าวแห่งปากีสถาน (อาร์อีเอพี) มั่นใจว่า ในปีงบประมาณนี้ (1 ก.ค. 66-30 มิ.ย. 67) ปากีสถานจะส่งออกข้าวได้ตามเป้า 5 ล้านตัน มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์

ปากีสถาน เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ4 ของโลก รองจากอินเดีย ไทย และเวียดนาม โดยก่อนการห้ามการส่งออกของอินเดีย ข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาตีของปากีสถาน ขายอยู่ที่ราคาตันละ 450 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นเป็นเป็นตันละ 500 ดอลลาร์

ประธานสมาคมอาร์อีเอพี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ มีผู้ส่งออกของปากีสถานที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานสุขอนามัยพืช SPS 15 ราย ที่สามารถส่งออกข้าวไปยังรัสเซียได้ ซึ่งเมื่อปี 2564  เคยถูกทางการรัสเซียระงับการนำเข้าเนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานดังกล่าว 

ประธานสมาคมฯ มองว่า รัสเซียเป็นตลาดใหญ่และเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการส่งออกข้าวของปากีสถาน นอกจากนี้  เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคชาวเม็กซิกันได้เดินทางมาสำรวจการผลิตข้าวในปากีสถาน โดยเฉพาะขั้นตอนการปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิตและขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้ส่งออกข้าวของปากีสถาน ทำให้ประธานสมาคมฯคาดหวังว่า เม็กซิโกจะยกเลิกการห้ามนำเข้าข้าวปากีสถานและกลับมาซื้อข้าวจากปากีสถานอีกครั้ง

ในส่วนของการผลิต ประธานสมาคมฯ คาดการณ์ว่า ปากีสถานจะสามารถผลิตข้าวได้ผลดีในปีนี้ และจะมีผลผลิตประมาณ 9 ล้านตัน

เวิลด์แบงก์คาดราคาข้าวโลกยังขาขึ้น

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์)เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ปีที่แล้ว คาดการณ์ว่าราคาข้าวยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตอาหารเมื่อปี 2550-2551 โดยมีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญและสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ข้อมูลจากกระทรวงการเกษตรสหรัฐ (ยูเอสดีเอ) ระบุว่า ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลก โดยฐานผู้บริโภคข้าวหลัก ๆ จะอยู่ในภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ การเคลื่อนไหวของข้าว จึงมีผลกระทบต่อปากท้องของผู้คนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีข้าวเป็นส่วนประกอบหลักบนจานอาหารแต่ละวัน