จีนผุดเทรนด์ 'ตู้เสื้อผ้าเดินได้' ใส่ชุดทับหลายชั้น ประหยัดค่าสัมภาระเกิน

จีนผุดเทรนด์ 'ตู้เสื้อผ้าเดินได้' ใส่ชุดทับหลายชั้น ประหยัดค่าสัมภาระเกิน

หนุ่มสาวชาวจีนหลีกเลี่ยงจ่ายค่าธรรมเนียมสัมภาระเกินให้กับสายการบิน ด้วยการเปลี่ยนตัวเองเป็น ตู้เสื้อผ้าเดินได้ โดยใส่ชุดทับการหลายชั้น และมีไพ่เด็ดคือ "เสื้อกั๊กตกปลา" ใส่ได้ทุกอย่างแม้กระทั้งแล็ปท็อป !

ตู้เสื้อผ้าเดินได้ เทรนด์ฮิตใหม่ในจีน  คนหนุ่มสาวชาวจีนหลีกเลี่ยงจ่ายค่าธรรมเนียมกระเป๋าสัมภาระให้กับสายการบิน ด้วยการนำเสื้อผ้าทั้งหมดมาสวมใส่แทนที่จะพับใส่กระเป๋า โลกโซเชียลทั้งเอ็นดูและหัวเราะไปกับแฟชั่นสนามบินใหม่อันนี้ไปตาม ๆ กัน

สำนักข่าวเซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า ท่ามกลางการท่องเที่ยวบูมหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 สายการบินในจีนก็มีกำไรเพิ่มสูงขึ้น เช่น สปริงแอร์ไลน์ รายงานว่า มีรายได้มากกว่า 2,000 ล้านหยวนในปี 2566

ความสำเร็จเหล่านี้มาจากมาตรการลดต้นทุนที่เข้มงวด เช่น ไม่มีบริการอาหารฟรี ที่นั่งแคบลง และจำกัดการถือสัมภาระขึ้นเครื่องอย่างเข้มงวด โดยอนุญาตให้นำแค่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สุดที่ 16 นิ้วขึ้นเครื่อง และห้ามมีน้ำหนักเกิน 7 กิโลกรัม

ด้วยมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น บรรดากลุ่มผู้เดินทางคนรุ่นใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่จึงเกิดไอเดียใหม่ที่ทำให้ผู้เดินทางไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับสัมภาระที่มีน้ำหนักเกิน ด้วยการเปลี่ยนร่างกายตนเองให้เป็น "ตู้เสื้อผ้าเดินได้ " เพียงแค่นำเสื้อผ้าที่คิดว่ายัดลงกระเป๋าแล้วน้ำหนักเกินแน่ ๆ มาสวมใส่บนร่างกายให้หมด จนกลายเป็นการมิกซ์แอนด์แมชเสื้อผ้าตัวเองแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว !

คนกลุ่มนี้ได้แชร์ภาพแฟชั่นเก๋ ๆ แบ่งปันวิธีช่วยลดค่าใช้จ่ายในโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นเทรนด์ฮิต

จากรูปภาพและวิดีโอในโซเชียลมีเดีย มีสาวชาวจีนคนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าที่เอาไว้ใส้ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ตั้งแต่เสื้อกั๊ก ไปจนถึงเสื้อเชิ้ตและแจ็คเก็ตตัวหนา ๆ ทับกันถึง 6 ชั้น

ผู้เดินทางอีกคนหนึ่งใส่เสื้อผ้ายุคฮั่นฝูทับกัน 8 ตัวขณะเดินทางไปยังออสเตรเลีย และได้รับขนานนามว่าเป็น “คนรวยและคนจนในเวลาเดียวกัน” เพราะเธอมีชุดคุณภาพดี ๆ มากมาย แต่เธออยากประหยัดค่าธรรมเนียมสัมภาระ

บางคนก็มีการพับเก็บเสื้อผ้าแบบสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ เช่น นำเสื้อผ้ายัดใส่หมอนตัวยู เพิ่มความสบายระหว่างเที่ยวบินด้วยหมอนนุ่ม ๆ อีกใบ

สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความท้าทาย เสื้อกั๊กตกปลาเป็นทางออกสำหรับปัญหานี้ เพราะมีช่องให้ใส่ของอย่างเอกสาร สายไฟ และพาวเวอร์แบงก์มากมาย

นอกจากนี้เสื้อกั๊กยังสามารถใส่ชุดสกินแคร์และเครื่องสำอางได้หลายชิ้น ขณะที่กระเป๋าหลังเสื้อมีช่องว่างพอให้ใส่หนังสือ 2 เล่ม และไอแพดได้ ถ้าเป็นเสื้อกั๊กขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก สามารถใส่ได้แม้กระทั่งแล็ปท็อปขนาด 16 นิ้ว

เสื้อกั๊กตกปลาจึงได้รับการขนานนามในโลกออนไลน์จีนว่าเป็น “ไพ่คิง”

นิตยสารวิสตา เผยว่า เทรนด์จัดเก็บเสื้อผ้าและใส่ชุดทับกันหลายชั้นอย่างมีกลยุทธ์ ได้จุดกระแสกระตือรือร้นในหมู่นักเดินทางในโลกออนไลน์ ทำให้หลายคนอยากลองใช้วิธีนี้กับตัวเองบ้าง

“ฉันเคยลองใส่ไอเท็มหลายอย่างรวมกัน 5 กิโลกรัมไว้ในเสื้อกั๊กตกปลา เหลือเชื่อมาก มันใช้งานได้จริง” บุคคลในโลกออนไลน์คนหนึ่งระบุ 

บางคนก็บอกว่าถ้าไปเที่ยวครั้งหน้าจะใส่เสื้อกั๊กตกปลา เพราะสะดวกกว่าสะพายกระเป๋าเป้ ขณะที่มีคนมาเหน็บผู้ที่ชื่นชอบเทรนด์นี้ว่า หากใส่ชุดพวกนั้นเดินในมณฑลกวางตุ้ง อาจเป็นฮีทสโตรกก่อนได้ออกไปข้างนอก