'จดหมายถึงนักศึกษาเอ็มบีเอ' กลยุทธ์วีซีจากกูรู

'จดหมายถึงนักศึกษาเอ็มบีเอ'  กลยุทธ์วีซีจากกูรู

บทความพิเศษจาก จี๊ป ไคลน์ อาจารย์สอน MBA ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (Professional Faculty at UC Berkeley) สหรัฐ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนวีซีใน ซิลิคอน วัลเลย์

ขอให้พลังจงสถิตอยู่กับตัวคุณ

วันที่ 4 พ.ค.2566

เป็นปีที่ 3 แล้วที่ดิฉันกลับมายัง Berkeley Haas สอนโครงการดัง MBA เหมือนคุณในสาขาที่ดิฉันไม่เคยคิดจะทำตอนที่ดิฉันอยู่ในสถานะเดียวกับคุณเมื่อ 15 ปีก่อน นั่นคือ เวนเจอร์แคปิตอล(วีซี)

ตอนนั้นดิฉันไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าวีซีคืออะไร

ตอนดิฉันจบมหาวิทยาลัย เป็นช่วงฟองสบู่ดอตคอมระเบิดครั้งแรก ตอนดิฉันจบจาก Haas เป็นช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยหนักสุดครั้งหนึ่งของประเทศ พอดิฉันแต่งงานกับนักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งคนหนึ่ง เขาเตือนดิฉันถึงสมมติฐานเรื่องรายได้ถาวรที่รายได้ในระยะยาวของคุณถูกกำหนดโดยจำนวนปีที่คุณจบการศึกษา ถูกต้องค่ะ ขอบคุณมาก

 เป็นเวลาสองทศวรรษ บนการเดินทางผ่านหลายแวดวงที่ไม่ธรรมดา (แต่สำคัญ) ของดิฉันตั้งแต่ธนาคารโลก, บริษัทบิ๊กเทค, สตาร์ตอัป และกองทุนเวนเจอร์แคปิตอล มาถึงที่ ที่เราอยู่ในตอนนี้ในฐานะสังคม ไม่มีเวลาใดดีไปกว่าการโฟกัสกับผลที่คุณได้รับผ่านทุนนิยม นี่คือ เหตุผลว่าทำไมผลของเวนเจอร์แคปิตอลจะมีอิทธิพล และเป็นเครื่องมือสู่เขตเศรษฐกิจโลกในอนาคต องค์ประกอบสำคัญที่สุดทั้งหมดของปริศนาอยู่ที่นั่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรุ่งเรืองของ venture investment, ความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และความต้องการ (หรือแรงกดดัน) ให้สร้างผลกระทบเชิงบวก คุณแค่ต้องนำมันมาไว้ด้วยกันไม่มีเวลาใดที่จะดีไปกว่าการจบการศึกษาจากโรงเรียนธุรกิจอย่าง Haas อีกแล้ว

 นักลงทุน และแคปิตอลลิสต์บางคนพยายามมานานมาก เพื่อสร้างผลกระทบสำคัญทางสังคม และสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่มากพอ และใหญ่พอ การจะไม่เอากำไรน่ะหรือ เรื่องนี้ก็สำคัญแต่ไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนทางการเงิน ส่วนการทำซีเอสอาร์ เคยเป็นภารกิจยอดนิยม แต่ก็ขาดอินเซนทีฟ และผลลัพธ์สุดท้ายวัดผลแท้จริงไม่ได้ สุดท้ายก็ตายไป  ผู้คนต้องการทำสิ่งดีๆ แต่ถ้าไม่มีอินเซนทีฟทางการเงิน และผลลัพธ์ที่วัดได้ อะไรๆ ย่อมอยู่ไม่นาน คุณต้องการทั้งสองอย่าง ดังนั้นความลับอยู่ที่ว่าต้องสร้างทั้งผลตอบแทนทางการเงินที่โดดเด่น และผลตอบแทนที่มีอิมแพควัดผลได้ เวนเจอร์แคปิตอลที่สร้างอิมแพคสามารถได้รับออกแบบให้ทำเช่นนั้นได้ และอย่าลืมว่า ส่วนใหญ่ดิฉันพูดถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยี การลงทุนในบริษัทก่อนทำไอพีโอผ่านเลนส์ของอิมแพค

คำถาม:ฉันจะเป็นวีซีได้อย่างไร คำตอบ: อาจไม่ใช่ตอนนี้ หากคุณได้รับเสนอบทบาทวีซี แสดงความยินดีกันได้เลย ไม่เช่นนั้นต้องเล่นเกมยาว ถ้าคุณมีเป้าหมายระดมทุนสร้างผลลัพธ์ทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม (พร้อมๆ กับสร้างผลตอบแทนทางการเงิน) อยู่แล้ว หาโอกาสที่เปิดให้คุณทำเช่นนี้ได้ มันอาจจะเป็นในบริษัทเทคขนาดใหญ่มูลนิธิการกุศล หรือจะเป็นบทบาทปฏิบัติการที่คุณได้เป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นโอกาสอื่นๆ ในเวลาต่อมา เพิ่มประสบการณ์ทำงานก่อนจากนั้นค่อยขยับเข้าสู่การลงทุน คุณจะมีค่ามากขึ้นเพราะเมื่อคุณรู้วิธีช่วยเหลือผู้ก่อตั้ง ซึ่งหมายความว่าคุณได้รับข้อเสนอการลงทุนที่ดีขึ้น คุณได้ทำมัน คุณมีสิ่งที่เสนอให้มากขึ้น ในสตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จ เงินเป็นแค่สินค้าโภคภัณฑ์มันเกี่ยวกับคุณให้อะไร (และคุณเป็นใคร)แม้แต่ประสบการณ์ล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

ประการที่ 2 กำหนดมายด์เซตให้ถูกต้อง อย่ามองโลกแบบซีโรซัม ขยายพายเศรษฐกิจ อาจจะดูซ้ำซากถ้าพูดว่าถ้าคุณช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ คุณจะสำเร็จ แต่ก็เป็นความจริงสำหรับการลงทุน

ปกติวีซีไม่ลงทุนลำพัง มันไม่ใช่การเข้าซื้อกิจการโดยมีการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนมากของบริษัทเพียงแห่งเดียว ธุรกิจวีซีนั้นตรงกันข้าม พวกเขาต้องการผู้ร่วมลงทุน พวกเขาส่งเสริมซึ่งกันและกันมากกว่าที่คุณคิด แม้ที่นั่งการลงทุนมีจำกัด ตราบเท่าที่คุณนำคุณค่ามาให้ ผู้ก่อตั้งสามารถขยายรอบของคุณหรือถ้าคุณไม่ได้ในรอบนี้ยังมีรอบหน้า มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์และการช่วยให้คนอื่นชนะ

ชีวิตเป็นการเล่นเกมยาวเช่นกัน ช่วงที่ดิฉันเรียน MBA งานใหญ่สุดคือ การบริหารบริษัทที่ปรึกษาและวาณิชธนกิจตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว วีซี เทค และสตาร์ตอัปคือ งานน่าทำที่สุด คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก 10 ปีนับจากนี้ การตั้งเป้าหมาย และสื่อสารว่าคุณเป็นใครจึงเป็นสิ่งสำคัญ โอกาสใหญ่ที่อาจไม่มีในตอนนี้จะมาหาคุณเอง

มีความสุขกับการเรียนจบ มีความสุขกับพักเบรกฤดูร้อน ออกไปทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์

ลุยเลยหมี!

จี๊ป

ป.ล. ปกติดิฉันไม่ชอบเขียน (เขียนไม่เก่ง) คราวนี้ดิฉันประหยัดเวลาที่ต้องคุยกับพวกคุณแต่ละคนเพราะใช้เวลาทำงานมาก

ป.ล.2 ขอบคุณที่มาเรียนในคลาสของดิฉัน ยินดีมากที่คุณมา