สวทช. เปิดดัชนีความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ไทยติดระดับ 2.8 (เต็ม 6)

สวทช. เปิดดัชนีความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ไทยติดระดับ 2.8 (เต็ม 6)

ครั้งแรกของการตรวจสุขภาพอุตสาหกรรมไทย ด้วยรายงานผลสำรวจระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 (Thailand i4.0 Index) ปี 2566 พร้อมอัปเดตผลงาน ความก้าวหน้าการดำเนินงาน และบริการที่ผ่านมา ในงานเปิดบ้านศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC)

พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) กล่าวว่า เป้าหมายหลักของศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน ต้องการผลักดันอุตสาหกรรมไทยก้าวเข้าสู่ Industry 4.0 โดยส่งเสริมและพัฒนาให้กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมสามารถนําเทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตของโรงงาน 

ในปีนี้ การเปิดบ้านศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน: SMC Open House 2023 ได้จัดงาน “ภายใต้แนวคิด “การผลิตแบบยั่งยืน เส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่โลกสีเขียว” ในรูปแบบ Low-Carbon Emission Event ที่มุ่งลดปริมาณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงจากระดับปัจจุบัน

นับเป็นกิจกรรมแรกๆ ที่ผนึกกำลังของหน่วยงาน ร่วมกับพันธมิตรอุตสาหกรรมเพื่อสร้างแนวทางและตัวอย่างในการจัดงานที่ยั่งยืน

การดำเนินงานในปี 2566 ของ SMC มีจำนวนโรงงาน ผู้ประกอบการ ที่ได้รับถ่ายทอดเพื่อยกระดับ อุตสาหกรรมให้ใช้เทคโนโลยี ARI (Automation Robotic and Intelligent System) นำไปใช้สะสมจำนวน 178 หน่วยงาน โดยผ่านบริการด้านต่างๆ ของศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน

เช่น การที่ได้รับบริการประเมินความพร้อมโรงงานด้วย Thailand i4 index การให้คำปรึกษา เพื่อขอรับการสนับสนุนด้าน สิทธิประโยชน์ BOI และบริการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคของ SMC จำนวนทั้งสิ้น 153 ราย การให้บริการฝึกอบรมถ่ายทอด เทคโนโลยีเพื่อยกระดับความพร้อมฯ ของ SMC จำนวนรวม 1,479 คน

อีกทั้งสร้างผลกระทบทางสังคมและ การหมุนทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า เกิด Impact 5,262.24 ล้านบาท ผลักดันให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรม มากกว่า 120 ล้านบาท 

สวทช. เปิดดัชนีความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ไทยติดระดับ 2.8 (เต็ม 6)

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานใน ปี 2567 SMC มุ่งเป้าการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยืดหยุ่น มุ่งสู่ Industry 5.0 ผ่านกลไก 3-4-5 ได้แก่ 

- 3 มิติของการพัฒนาสู่ความยั่งยืน  มุ่งเป้าความยั่งยืนทางสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม 

- 4 หัวข้อหลักในการวิจัยพัฒนาและให้บริการ  ประกอบด้วย

1) การวัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมตามแนวทาง Thailand i4.0 Index ซึ่งปีนี้จะเพิ่มเครื่องมือให้โรงงานประเมินตนเองเบื้องต้นได้  

2) การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในโรงงาน SMC จะเปิดบริการเครื่องมือช่วยพัฒนา Edge IoT และ Machine Learning โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม รวมถึงเริ่มนำ ChatGPT สัญชาติไทยมาให้บริการร่วมกับหุ่นยนต์บริการ  

3) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก SMC พร้อมให้บริการศูนย์ทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้าแห่งเดียวในประเทศที่สามารถทดสอบมอเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดสูงสุด 380 kW ได้ตามมาตรฐานนานาชาติ เช่น ISO-21782 และ UNECE-R85

และร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับใช้เป็นระบบคำนวณและทวนสอบ เพื่อให้สามารถรองรับภายใต้ข้อกำหนดของมาตรการการปรับภาษีคาร์บอนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) และ 4) การพัฒนายกระดับศักยภาพของบุคลากรในภาคการผลิต ผ่านโครงการ SMC Academy และ EEC Model Type B 

5 สิทธิประโยชน์สุดพิเศษ ที่เตรียมให้กับสมาชิก SMC ในปี 2567 ประกอบด้วย

1) รับการประเมิน Thailand i4.0 Index ฟรีโดยผู้เชี่ยวชาญของ SMC

2) การใช้งานเครือข่าย 5G Private Network, AIS Paragon Platform และ AIS 5G Manufacturing Platform สนับสนุนโดย AIS

3) เครื่องมือสร้างอุปกรณ์ AIoT Edge Computing พร้อมที่ปรึกษาการพัฒนาและติดตั้ง สนับสนุนโดย Smart Sense

4) เครื่องมือ IoT ตรวจวัดและวิเคราะห์ข้อมูลพลังงานเชิงลึก สนับสนุนโดย INET และ

5) การประเมินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเบื้องต้นของโรงงาน สนับสนุนโดย บีไอจี 

สวทช. เปิดดัชนีความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ไทยติดระดับ 2.8 (เต็ม 6)

รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 เผยผลการสำรวจ ระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยประจำปี 2566 ด้วยดัชนีชี้วัด Thailand i4.0 Index โดยสำรวจบริษัทในภาคการผลิตจำนวน 150 บริษัท พบว่า ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมของประเทศอยู่ในระดับ 2.8 (เต็ม 6)

โดยการสำรวจเน้นใน 3 อุตสาหกรรมหลักของประเทศคือ ยานยนต์และชิ้นส่วน (53 ราย ค่าเฉลี่ย 2.71) อาหารและเครื่องดื่ม (39 ราย ค่าเฉลี่ย 2.77) ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (21 ราย ค่าเฉลี่ย 2.83) และ ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรมอื่นๆ ในมิติของขนาดกิจการ

ผู้ประกอบการขนาดเล็กมีค่าเฉลี่ยระดับอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.38 ผู้ประกอบการขนาดกลางมีค่าเฉลี่ยระดับอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.45 ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีค่าเฉลี่ยระดับ อุตสาหกรรมอยู่ที่ 3.07

การตรวจวัดระดับนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบสถานะปัจจุบันของตนแล้ว ยังทำให้ทราบว่า ตนอยู่ห่างจากค่าเฉลี่ยหรือผู้นำในอุตสาหกรรมเดียวกันอยู่เพียงใด อีกทั้งยังช่วยแนะนำจุด ที่ควรเริ่มต้นปรับปรุง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน

ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ออกมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยใช้ผลการประเมิน Thailand i4.0 Index เป็นเกณฑ์การพิจารณา ผู้ประกอบการสามารถนำเงินลงทุน 100% ไปหักจากภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเวลา 3 ปี

รวีภัทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับบันได 4 ขั้น ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ขั้นแรกคือ การประเมินความพร้อมด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ทราบว่าเบื้องต้นอุตสาหกรรมของตนอยู่ในระดับใด

ขั้นที่สอง คือการประเมินความพร้อมในการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมรับคำแนะนำในการยกระดับโรงงาน โดยผู้ประกอบการและพนักงานอาจเข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้และทักษะด้านอุตสาหกรรม 4.0 ด้วย

ขั้นที่สาม คือการรับคำแนะนำในการยกระดับอุตสาหกรรมทั้งด้านเทคโนโลยี เงินทุน และสิทธิประโยชน์ และอาจนำแผนงานมาทดสอบจำลองสถานการณ์ (Simulation) ด้วย Testbed อาทิ เครื่องจักร สายการผลิต และระบบดิจิทัลที่มีให้บริการ ก่อนลงทุนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และกระบวนการผลิตภายในโรงงานจริง เพื่อลดการสูญเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย  

ขั้นสุดท้าย คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม นำไปสู่การเพิ่มความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต ลดต้นทุน ลดข้อเสีย และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้ ได้เปิดระบบให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าทำการประเมิน Thailand i4.0 Index ได้ด้วยตนเองได้แล้ววันนี้ และเข้าไปยัง i4.0 Checkup ซึ่งเป็นระบบ Online Self-Assessment โดยผู้ประกอบการสามารถป้อนข้อมูลและรับผลการประเมิน ได้ทันที

ส่วนผู้ประกอบการที่ต้องการรับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก สามารถสมัครเป็นสมาชิกของศูนย์ SMC เพื่อรับการประเมินได้ฟรี

สวทช. เปิดดัชนีความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ไทยติดระดับ 2.8 (เต็ม 6)

ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน Sustainable Manufacturing Center (SMC) อยู่ภายใต้การดูแล ของศูนย์เทคโนโลยี- อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) ภายในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ตั้งอยู่ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง

มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ผู้พัฒนาระบบ นวัตกร นักวิจัยตลอดจนนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งในรูปแบบการสาธิต การเรียนรู้และการทดลองปฏิบัติจริง รวมไปถึงกิจกรรมวิจัย

เพื่อการสร้างนวัตกรรม SMC ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการ พัฒนาศักยภาพทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย เพื่อมุ่งไปสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) และส่งแรงขับเคลื่อนถึงการ เป็นประเทศเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม (Thailand 4.0) ตั้งขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563.