‘เทคคอมพานีโลก’ ระส่ำ ‘เอไอ’ บีบ ‘กูเกิล อเมซอน’ ประกาศลดคน

‘เทคคอมพานีโลก’ ระส่ำ ‘เอไอ’ บีบ ‘กูเกิล อเมซอน’ ประกาศลดคน

‘เทคคอมพานีโลก’ ระส่ำประกาศ “เลย์ออฟ” ต่อเนื่อง ล่าสุดสองยักษ์ ‘กูเกิล-อเมซอน’ เลย์ออฟอีกหลายร้อยคนหลังถูก ‘เอไอ’ ดิสรัป ตามหลัง ‘หัวเว่ยฝั่งสหรัฐ-แคนาดา‘ รวมทั้ง ’ลาซาด้า' เครืออาลีบาบา ที่ประกาศเลย์ออฟไปก่อนหน้านี้

กระแสการ “เลิกจ้าง” ในกลุ่มเทคคอมพานีโลกน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา กลุ่มบริษัทเทคโนโลยี นำโดย ไมโครซอฟท์ กูเกิล เมตา อีริคสัน เซลส์ฟอร์ซ เดลล์ ทยอยประกาศ ‘ลดคน’ ขณะที่ผ่านปี 2567 ไม่กี่สัปดาห์ ถึงคิว 'ลาซาด้า' ยักษ์อีคอมเมิร์ซอาเซียน ลามไปถึงหัวเว่ยในฝั่งสหรัฐและแคนาดา รวมถึงบิ๊กคอร์ปแบรนด์ดังของโลก

ล่าสุด “กูเกิล อิงค์” บริษัทในเครือของ อัลฟาเบท ระบุว่า กำลังดำเนินการปลดพนักงานหลายร้อยคนในแผนกบริการช่วยเหลือทางดิจิทัล, ฮาร์ดแวร์ และวิศวกรรม ขณะที่บริษัทยังคงเดินหน้าลดต้นทุนธุรกิจ

กูเกิล ระบุว่า พนักงานที่ถูกปลดออกจากงานครั้งนี้ รวมถึงพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับแอปพลิเคชันกูเกิล แอสซิสแทนต์ (Google Assistant) และทีมฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริง (AR) นอกจากนี้ พนักงานในแผนกวิศวกรรมส่วนกลางของกูเกิลก็ถูกปลดเช่นเดียวกัน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า การปลดพนักงานครั้งนี้ มีขึ้นหลังธุรกิจค้นหาหลักของ กูเกิล หรือ กูเกิลเสิร์ชเอ็นจิ้น ได้รับผลกระทบจากบริการปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ของบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป และโอเพน เอไอ ซึ่งเป็นผู้พัฒนา “แชตจีพีที” (ChatGPT) โดยในการประชุมร่วมกับกลุ่มนักลงทุน บรรดาผู้บริหารกูเกิลให้คำมั่นว่า จะพิจารณาการดำเนินงานเพื่อหาทางลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำเงินทุนเหล่านั้นไปใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ

ทั้งนี้ พนักงานของกูเกิลเผชิญความไม่แน่นอน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีที่แล้ว โดยเวลานั้นอัลฟาเบทประกาศว่า จะปลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 6% ของพนักงานทั่วโลก สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในซิลิคอน วัลเลย์ แต่อัลฟาเบทได้สั่งปลดพนักงานทีละน้อยตลอดปี 2566 เช่น การปลดพนักงานในแผนกสรรหาบุคลากร, ผลิตภัณฑ์ข่าว และแอปพลิเคชันแผนที่เวซ (Waze)

อเมซอนปลดส่วน Prime Video-MGM"

ด้านบริษัท “อเมซอนดอทคอม อิงค์” ระบุว่า จะปลดพนักงานหลายร้อยรายในส่วนธุรกิจไพรม์ วิดีโอ (Prime Video) และอเมซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอส์ (Amazon MGM Studios)

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารที่ ไมค์ ฮอปกินส์ รองประธานอาวุโสของไพรม์ วิดีโอ และอเมซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอส์ ส่งให้พนักงาน ซึ่งระบุว่า “เราตัดสินใจลดหรือยกเลิกการลงทุนในบางพื้นที่ ในขณะที่เพิ่มการลงทุนและมุ่งเน้นไปที่คอนเทนต์และผลิตภัณฑ์ที่มอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

ทั้งนี้ อเมซอน จะแจ้งเรื่องการปลดพนักงานครั้งนี้ต่อพนักงานที่ได้รับผลกระทบในสหรัฐในวันพุธตามเวลาท้องถิ่นและพื้นที่อื่นๆ ภายในสิ้นสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ อเมซอนดอตคอมเป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ที่เลิกจ้างพนักงานมาหลายระลอกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2565 รวมแล้วกว่า 27,000 คนทั่วโลก

'หัวเว่ยฝั่งสหรัฐ-แคนาดา’ ลดคน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รายงานอ้างอิงจากแหล่งข่าวว่า บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนอย่าง “หัวเว่ย”ในฝั่งสหรัฐ และแคนาดา ทยอย “ปลดพนักงาน” แผนกประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับรัฐบาลในสหรัฐและแคนาดา เริ่มปลดออกตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พนักงานบางรายก็ถูกปลดหลังปีใหม่

พนักงานบางส่วนมองว่า สาเหตุที่หัวเว่ยตัดสินใจเลย์ออฟครั้งนี้ เป็นเพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนย่ำแย่ลง แม้พนักงานที่ถูกปลดในครั้งนี้จะมีจำนวนค่อนข้างน้อย แต่ก็พบว่ามี “พนักงานระดับผู้จัดการ” รวมอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง แต่การตัดสินใจครั้งนี้บ่งชี้ถึงแนวโน้มของธุรกิจหัวเว่ยในตลาดสหรัฐ

หัวเว่ย ได้ขยายแผนกประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับรัฐบาลในอเมริกาเหนือช่วงที่หัวเว่ยถูกบรรจุในบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐเป็นครั้งแรกในปี 2562 ซึ่งช่วงนั้นมีรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินระดับสูงของหัวเว่ย ได้ถูกควบคุมตัวในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ในข้อหาฉ้อโกง

หลังจากนั้น แม้จะมีการวิ่งเต้นขอปล่อยตัวเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวในปี 2564 และหัวเว่ยพยายามพลิกฟื้นสถานการณ์ความสัมพันธ์กับสหรัฐ แต่หลายปีผ่านมา ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนกลับร่วงแตะจุดต่ำสุด จึงส่งผลให้หัวเว่ยถูกรัฐบาลตะวันตกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ซึ่งนั่นอาจเป็นต้นตอของการปลดพนักงานครั้งนี้

สำนักข่าว CNA รายงานว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้างในสิงคโปร์บางรายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อทราบว่าตนเองได้ถูกปลดออก โดยกล่าวว่า การถูกเลิกจ้างครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน บางรายชี้ว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม และไม่โปร่งใส ขณะที่บริษัทจ่ายเงินชดเชยต่ำกว่าที่คาดไว้

ลาซาด้า ปลดพนักงานในอาเซียน

ด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า บริษัทลาซาด้า เครือของอาลีบาบาจากจีน ได้เริ่มปลดพนักงานรอบใหม่รับต้นปี 2567 แล้ว คาดว่า จะมีจำนวนหลายร้อยคน และกระทบกับทุกตลาดในอาเซียนครอบคลุม “สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม” โดยสิงคโปร์จะถูกเลิกจ้างมากที่สุด ในสัดส่วนที่สูงถึง 30%

ส่วนตำแหน่งงานที่ถูกเลิกจ้างครั้งนี้มีครอบคลุมไปทุกฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายคอมเมอร์เชียล ค้าปลีก และฝ่ายการตลาดด้วย โดยพนักงานจำนวนหนึ่งได้รับจดหมายเรียกคุยจากบริษัทแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก ขณะที่ก่อนหน้านี้ลาซาด้าเพิ่งประกาศเลย์ออฟรอบล่าสุดไปเมื่อเดือน ต.ค.2566

ส่วนสาเหตุการปรับลดพนักงานครั้งนี้ โฆษกของลาซาด้าในสิงคโปร์ ระบุเบื้องต้นเพียงว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเชิงรุกเพื่อวางตำแหน่งของตัวเองให้ดีขึ้น ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น รวมถึงปรับวิธีทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจในอนาคต จึงจำเป็นต้องประเมินข้อกำหนดด้านบุคลากรและโครงสร้างการทำงานอีกครั้ง

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ลาซาด้า กำลังเผชิญการแข่งขันอย่างหนักกับ “ช้อปปี้” และ “ติ๊กต็อก” ซึ่งรายหลังเริ่มบุกธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซมากขึ้น

‘ไนกี้’ ลดพนง.หลังยอดขายโตเพียง 1%

สำนักข่าวเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานความเคลื่อนไหวของ “ไนกี้” ไว้ว่าได้มีแผนปรับลดประมาณการรายได้ในปี 2566 เนื่องจากคาดการณ์รายได้จะเติบโตจากปีก่อนเพียง 1% เท่านั้น ไนกี้จึงเตรียมแผนลดต้นทุนลงราว “2,000 ล้านดอลลาร์” หรือคิดเป็นเงินไทย “69,200 ล้านบาท” ภายใน 3 ปีข้างหน้า พร้อมกับมีการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรและ “ปลดพนักงาน” บางส่วน

แม้ที่ผ่านมาไนกี้ จะพยายามกระตุ้นยอดขายในหลายช่วงเวลาตลอดทั้งปี (รวมถึงเทศกาล “Black Friday”) แต่บริษัทก็ยังคงประสบปัญหา เนื่องจากค่ายรองเท้าคู่แข่งก็อัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน รวมทั้งยอดเข้าชมดิจิทัลแพลตฟอร์มของไนกี้เองก็ลดลงด้วย ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ไนกี้มีแผนที่จะพับโปรดักต์ที่ไม่สามารถทำรายตามเป้าได้ออกไป ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเตรียมปรับลดพนักงานบางส่วน

‘จีเอ็ม’จ่อปลดพนักงานในสหรัฐ

ด้านบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประกาศเตรียมปลดพนักงานโรงงาน 2 แห่ง ในรัฐมิชิแกน 1,300 คนภายในเดือนมกราคม 2567 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนสายการผลิต โดยจะเน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทน

โดยจะเลิกจ้างพนักงาน 945 คนในโรงงานโอเรียน แอสเซมบลี (Orion Assembly) เนื่องจากจะยุติการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเชฟโรเลต โบลต์ (Chevrolet Bolt) และจะเปลี่ยนไปผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าในช่วงปลายปี 2568 แทน ขณะเดียวกัน บริษัทจะเลิกจ้างพนักงานอีก 350 คน ในโรงงานแลนซิง แกรนด์ ริเวอร์ เนื่องจากยุติการผลิตรถเชฟโรเลต คามาโร (Chevrolet Camaro)

อย่างไรก็ตาม ปี 2567 นี้ ยังคงต้องจับตาภาพรวมธุรกิจใหญ่ๆ และบริษัทชื่อดังระดับโลกกันต่อไปว่า จะมีองค์กรไหนธุรกิจใดที่จะประกาศเลิกจ้างหรือปรับลดจำนวนพนักงานออกมาอีก ด้านลูกจ้างคงต้องเตรียมรับมือมรสุมลูกใหญ่นี้ไว้ให้ดี