กสทช.สั่งสอบคุณภาพ '5G' ชี้ได้คำตอบก่อนปีใหม่ ต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์

กสทช.สั่งสอบคุณภาพ '5G' ชี้ได้คำตอบก่อนปีใหม่ ต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์

ธี่ต้องพิสูจน์!! ส่องปัญหาป่วนคาใจชาวเน็ต หลังรู้สึกว่าจ่ายค่ามือถือเท่าเดิมแต่ความเร็วไม่เท่าเดิม 'ประธานกสทช.' สั่งคณะอนุฯตามติดเรื่องนี้ รับก่อนปีใหม่ต้องได้คำตอบ ชี้คุณภาพลดลงหลังควบรวม'ทรูดีแทค' ต้องมีข้อมูลเชิงประจักษ์อย่าใช้ความรู้สึก

แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินการตามเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะหลังมีรวมธุรกิจระหว่างบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชัน หรือ ดีแทค กล่าวว่า ปัญหาความเร็วอินเทอร์เน็ต 5G ที่มีกระแสว่า ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในบางพื้นที่นั้น

ต้องอธิบายว่าในบางพื้นที่มีความหนาแน่นของการใช้ความจุโครงข่าย หรือ คาปาซิตี้ ต่างกันแม้เอกชนจะเพิ่มสถานีฐานเคลื่อนที่หรือตัวรับสัญญาณแล้วก็ไม่เพียงพอในบางเวลาการใช้งานที่แบ่งเป็นช่วง Peak และ ช่องไม่หนาแน่น Off Peak

ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งเพราะสำนักงาน กสทช. ยังไม่เริ่มดำเนินการตรวจสอบความเร็วหลังเกิดการควบรวมบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค แม้จะมีกำหนดให้ส่งรายงานรอบ 6 เดือนคือ ตั้งแต่ 1 มี.ค.-30 ก.ย. 2566 เพราะเอกชนยังไม่ส่งมา ทำให้สำนักงาน กสทช.ได้ดำเนินการตรวจสอบเพียงแค่เบื้องต้นตามมาตรฐานเดิมคือการไดร์ฟ เทส ขับรถตระเวนไปทดสอบความเร็ว

โดยจะซื้อซิมการ์ดในแพคเก็จ 5Gของแต่ละค่ายในราคาที่แพงสุดคือราว 2,000 บาท มาทดสอบซึ่งก็พบว่าผ่านมาตรฐานความเร็ว

ทั้งที่จริงๆแล้วจะสำนักงาน กสทช.จะต้องทำควอลิตี้ ออฟเซอร์วิส (คิวโอเอส) ในทุกแพคเก็จตั้งแต่เริ่มต้น 399 บาท แพคเก็จกลาง 999 บาททำให้เกิดช่องโหว่ว่าในแพคเก็จ 5G ที่ไม่ใช่ราคาสูงสุดจะมีความเร็วลดลงได้บ้าง หากมีผู้ใช้งานที่เป็นแพคเก็จแพงอยู่ใกล้เคียงกัน เพราะเกิดการดึงคาปาซิตี้ไปใช้ก่อน

"การตรวจแบบไดร์ฟเทสต์ มันใช้มาเทียบเคียงว่าได้ทดสอบความเร็วของสปีดของค่ายมือถือแล้วสรุปว่าผ่านมันใช้ไม่ได้ เรื่องนี้สำนักงาน กสทช.ก็รู้ดี แต่ก็ยังไม่แก้ไข และทางอนุฯผู้บริโภคได้ทำเรื่องแจ้งไปยังบอร์ดให้รู้ถึงปัญหาและให้เร่งกำกับดูแลผลประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างจริงจัง"

นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ตนได้มอบให้นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา เป็นประธานคณะอนุฯติดตามผลการดำเนินการตามเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะแล้ว และคาดว่าก่อนปีใหม่น่าจะได้รู้ข้อเท็จจริงว่า ตามที่มีการร้องเรียนกันในโลกออนไลน์นั้น

ต้องมีเอกสารใดมายืนยันได้ว่าค่าโทรแพงขึ้นจริงหรือคุณภาพสัญญาณแย่ลงจริง เพราะการเป็นกสทช.ไม่สามารถตอบได้ตรงนี้ ต้องมีข้อมูลเข้ามาสนับสนุน จะยึดเอาความรู้สึกไม่ได้