‘คลาวด์ คอมพิวติ้ง’ รหัสอนาคต สู่ความยั่งยืนโลก

‘คลาวด์ คอมพิวติ้ง’ รหัสอนาคต สู่ความยั่งยืนโลก

จากการสำรวจความเห็นซีอีโอปีนี้ของ "การ์ทเนอร์" ชี้ให้เห็นว่า "ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม" ยังคงเป็นหนึ่งใน 10 ความสำคัญแรกของธุรกิจ ขณะที่ การประมวลผลคลาวด์ (Cloud Computing) นั้น มีส่วนสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนขององค์กร ขับเคลื่อนประสิทธิภาพดาต้าเซ็นเตอร์

จากการสำรวจความคิดเห็นซีอีโอปีนี้ของ "การ์ทเนอร์" ชี้ให้เห็นว่า "ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม" ยังคงเป็นหนึ่งใน 10 ความสำคัญแรกของธุรกิจ

ขณะที่ การประมวลผลคลาวด์ (Cloud Computing) นั้น มีส่วนสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนขององค์กร ขับเคลื่อนประสิทธิภาพดาต้าเซ็นเตอร์ และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ สามารถใช้เป็นแนวทางลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ออทัมน์ สแตนนิช” นักวิเคราะห์อาวุโสหลัก การ์ทเนอร์ ระบุว่า การ์ทเนอร์คาดการณ์ภายในปี 2569 องค์กรที่ดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนถึง 70% จะใช้ประสิทธิภาพจากบริการคลาวด์สาธารณะ เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีองค์กรเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมไว้เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดในการเลือกผู้ให้บริการคลาวด์

เลือกพันธมิตรคลาวด์ปูทางยั่งยืน

การ์ทเนอร์ บอกว่า อาจเป็นเรื่องยากของผู้บริหารด้านโครงสร้างพื้นฐาน และปฏิบัติงาน (Infrastructure and Operations หรือ I&O) ในการเลือกพันธมิตรคลาวด์ ที่จะช่วยให้องค์กรของตนบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เนื่องจากผู้ให้บริการแต่ละรายไม่ได้มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนอยู่ในระดับเดียวกันทั้งหมด

โดยพบว่า ช่วงระยะเวลาที่องค์กรส่วนใหญ่ตั้งเป้าเพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (GHG) จะไม่เร็วไปกว่าปี 2573 แต่สัญญาระบบคลาวด์โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี ซึ่งการสับเปลี่ยนผู้ให้บริการคลาวด์นั้นใช้เวลานาน มีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้

ส่วนขั้นตอนการประเมินผู้ให้บริการคลาวด์ องค์กรต้องพิจารณาประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนไว้เป็นสาระสำคัญ และวิเคราะห์อย่างรอบคอบเกี่ยวกับความพยายามและแผนงานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ให้บริการในปัจจุบันอย่างละเอียด

ปัจจัยที่ควรพิจารณา

ก่อนเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้บริหาร I&O จะต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และไทม์ไลน์ด้านความยั่งยืนขององค์กร ซึ่งจะช่วยคัดสรรผู้ให้บริการที่สอดคล้องกับเป้าหมายและเข้าใจถึงโอกาสในการช่วยให้บรรลุเป้าหมาย

คำถามสำคัญที่สุดคือ ผู้ให้บริการคลาวด์จะลดการปล่อยก๊าซที่เกี่ยวข้องกับบริการที่ใช้ระหว่างระยะเวลาในสัญญาได้อย่างไรและในปริมาณมากน้อยแค่ไหน

ดังนั้นความโปร่งใสจึงเป็นข้อบ่งชี้สำคัญของความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายความยั่งยืน และหากผู้ให้บริการไม่เต็มใจให้ข้อมูลนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนที่องค์กรต้องระวัง

ข้อควรพิจารณาสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องจับตาดูการนำเสนอดาต้าเซ็นเตอร์เฉพาะกิจที่สร้างขึ้นเพื่อให้ดูเหมือนว่าเป็นกระบวนการปฏิบัติปกติ ดังนั้นควรสอบถามผู้ให้บริการเกี่ยวกับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่เจาะจงที่มีการใช้บริการคลาวด์นั้น

พิจารณาการรับรองมาตราฐานต่างๆ ที่ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้ได้รับและแนวทางในการรับใบรับรองต่าง ๆ เพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงการรับรองประสิทธิภาพพลังงานจากบุคคลที่สามที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถขั้นพื้นฐานของผู้ให้บริการคลาวด์และความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายความยั่งยืน

ขณะที่ ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วยได้แก่ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Power Usage Effectiveness หรือ PUE) ของระบบปรับอากาศและโครงสร้างพื้นฐานการจ่ายพลังงาน ประสิทธิภาพการใช้น้ำ (Power Usage Effectiveness หรือ WUE) สำหรับทำความเย็นในดาต้าเซ็นเตอร์ และแนวทางปฏิบัติการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการเกิดของเสีย โดยคำนวณออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ไปกับการใช้บริการคลาวด์ขององค์กรที่ได้มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

บริการคลาวด์สาธารณะในภูมิภาคที่ใช้พลังงานหมุนเวียน สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 70% - 90% เมื่อเทียบกับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกล (Hyperscalers) เป็นผู้บริโภคพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นองค์กรธุรกิจต้องพิจารณาถึงเป้าหมายทั้งระยะสั้น กลาง และระยะยาวในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียนของผู้ให้บริการเหล่านั้น

โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีการใช้บริการคลาวด์ เช่นเดียวกับต้องทำความเข้าใจแนวทางที่ผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายงานและจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก