กล้องใครเหนือกว่า “Galaxy S22 Ultra 5G” ปะทะ “Galaxy Z Fold4”
ศึกชิงจ้าวแห่ง “กล้องมือถือ” ของสองรุ่น “สมาร์ทโฟนเรือธง” แห่งค่าย “Samsung” ใครจะเป็นเบอร์หนึ่งของค่ายระหว่าง “Galaxy S22 Ultra 5G” กับ “Galaxy Z Fold4”
รุ่นหนึ่งมาก่อนจนเกือบจะครบรอบปี แต่ยังขึ้นชื่อลือชาว่าเป็น สมาร์ทโฟน ที่ถ่ายรูปสวยอันดับต้นๆ ของเซกเมนต์เดียวกัน ส่วนอีกรุ่นคือ สมาร์ทโฟนเรือธง สุดหรูรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมดีไซน์บานพับ พร้อมแปลงร่างเป็นมินิแท็บเล็ตได้ทันที
สำหรับ Samsung Galaxy S22 Ultra 5G คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณเรื่องกล้องให้มากความ เพราะตั้งแต่วางจำหน่ายก็โดดเด่นเรื่องนี้มาตลอด (นอกจากเรื่องที่มีปากกา S-Pen) แต่ Samsung Galaxy Z Fold4 มือถือแบบพับได้รุ่นใหม่สุดในซีรีส์ Galaxy Z Fold กลับถูกมองเพียงเรื่องการพับได้ กางออกได้ ทั้งที่เทคโนโลยีจอได้เดินทางมาจนถึงรุ่นที่ 4 แล้ว
ในเจเนอเรชันนี้ Galaxy Z Fold4 ได้รับการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งหน้าจอที่กางออกได้ราบเรียบมากขึ้น ชิปประมวลผลดีขึ้น น้ำหนักเบาลง หน้าจอทั้งด้านนอกและด้านในใหญ่ขึ้น และลุคสุดหรูผู้บริหาร โดยที่จริงๆ แล้วสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไม่ได้แค่สวยแต่รูป เพราะยังมีฟีเจอร์ถ่ายภาพที่นับว่าจูบแล้วหอมด้วย
เพื่อพิสูจน์ความสามารถด้านการถ่ายภาพ KT Review จับสมาร์ทโฟนเรือธงทั้งสองรุ่นของ Samsung ที่ยังเป็นรุ่นล่าสุด ณ ปัจจุบัน ทั้ง Galaxy S22 Ultra 5G กับ Galaxy Z Fold4 มาวัดกันหมัดต่อหมัดว่าที่ข้อมูลบอกว่ากล้องใน “Galaxy Z Fold4” ถูกยกมาจาก “Galaxy S22 Ultra 5G” นั้นจริงไหม
กล้องหลัก เหมือนกัน (เกือบ) หมด
ดูคล้ายว่าข้อมูลที่ระบุว่ากล้องของทั้งสองรุ่นเหมือนกันนั้นเห็นจะจริง ทว่าก็ไม่ได้จริงทั้งหมด มาดูสิ่งที่เหมือนกันว่ามีอะไรบ้าง ตั้งแต่อินเทอร์เฟซ เมนูต่างๆ เหมือนกันชนิดถอดแบบกันมา มุมมองในกล้องก็เท่ากันที่ระยะเลนส์ปกติ แต่ภาพที่ได้แตกต่างกันเล็กน้อย คือ ภาพใน “Galaxy S22 Ultra” ยังเก็บรายละเอียดได้มากกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะความเปรียบต่างสีที่มาก จะจัดการได้ดีกว่า “Galaxy Z Fold4” แบบสังเกตได้
ส่วนสีสันที่ได้ถือว่าใกล้เคียงกันมาก คือสดใส สีอิ่ม ภาพมีความคมชัดทั้งที่ตามสเป็กความละเอียดของ Galaxy Z Fold4 อยู่ที่ 50 MP ซึ่งน้อยกว่า Galaxy S22 Ultra ถึงเท่าตัว และมีสีค่อนข้างเป็นธรรมชาติ และยังจัดการโทนสีฟ้าและสีเขียวของภาพแลนด์สเคปได้ดีมาก
ระยะซูมสุดแตกต่างกัน
นี่คือข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างกล้องของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น เพราะจุดเด่นของ "Galaxy S22 Ultra 5G" คือการซูม 10 เท่าแบบออปติคัลที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ระยะซูมสุดแบบออปติคัลของ "Galaxy Z Fold4" อยู่ที่ 3 เท่า ซึ่งเป็นระยะที่มีใน S22 Ultra เช่นกัน
แม้ระยะซูม 3 เท่าของ Z Fold4 จะไม่ไกลมาก แต่ก็มากพอที่จะให้มุมมองที่ดีและแตกต่าง ที่สำคัญคุณภาพของภาพเมื่อซูมสุดนี้ทรงประสิทธิภาพมากๆ ทั้งคมชัด เก็บรายละเอียดครบถ้วน
และถ้ายังซูมไม่สะใจ ในสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นนี้มีดิจิทัลซูมมากถึง 30 เท่า พอใช้งานได้ยามจำเป็นที่จะต้องถ่ายภาพระยะไกลมากๆ แต่คุณภาพของภาพก็จะด้อยลงตามสไตล์ของดิจิทัลซูมด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy Z Fold4
เลนส์ไวด์ กว้างเต็มตา
นี่คือข้อที่ทั้ง "Galaxy S22 Ultra 5G" และ "Galaxy Z Fold4" เสมอกันแบบไม่ต้องเปรียบเทียบ เพราะทั้งคู่มีเลนส์มุมกว้างในมุมมองที่เท่ากัน คุณภาพเท่ากัน โดยที่ใน Z Fold4 มีความละเอียดของกล้อง Ultra Wide อยู่ที่ 12 MP ซึ่งระยะมุมกว้าง 0.6 เท่าใน Galaxy รุ่นเรือธงเป็นระยะที่กว้างมากพอที่จะใช้เป็นเลนส์ไวด์แบบเลนส์เดียวเที่ยวทั่วโลกได้เลย ไม่ว่าจะถ่ายสถาปัตยกรรมหรือวิวมุมกว้างสุดสายตาก็เก็บได้หมด หรือจะสร้างมุมมองใหม่ๆ ก็สวยแปลกตาไปอีกแบบ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy Z Fold4
Night Mode ที่ทำให้ความมืดกลายเป็นความประทับใจ
ถ้าใน "Galaxy S22 Ultra 5G" มี Night Mode อันเลื่องชื่อ ใน "Galaxy Z Fold4" ก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เพราะประสิทธิภาพของกล้องหลังในรุ่นนี้เป็นการประสานพลังของฮาร์ดแวร์กับซอฟแวร์ที่เป็นนวัตกรรมในการรับแสง แม้ในสภาวะแสงน้อยก็ยังรับแสงได้ดีกว่ากล้องสมาร์ทโฟนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด หรือแม้แต่ในสมาร์ทโฟนแฟลกชิปแบรนด์อื่นๆ ก็ยังเอาชนะกล้องของ Z Fold4 ได้ยาก
เมื่อเทียบตัวเรือธงของ "Samsung" ในเรื่องนี้ ทั้งสองรุ่นทำได้ดีพอกัน คือเมื่อเปิด Night Mode เวลาถ่ายในสภาวะแสงน้อย กล้องจะประมวลผลสักครู่เพื่อรวบรวมภาพในสภาวะแสงที่แตกต่างกันจนได้เป็นหนึ่งภาพที่ดูสว่างขึ้น โดยยังมีรายละเอียดของภาพที่มีคุณภาพอยู่ อีกเรื่องต้องยอมรับว่าทั้งสองรุ่นทำได้ดีมากคือการจัดการ Noise ในภาพ ซึ่งมักจะเกิดจากการเร่งให้ภาพที่มืดดูสว่างขึ้น แต่ในภาพที่ถ่ายมากลับมา Noise ในระดับที่ถือว่ารับได้
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Night Mode จาก Galaxy Z Fold4
กล้องหน้า ที่มีสองกล้อง
ก่อนว่าด้วยประสิทธิภาพของกล้องหน้า สิ่งที่ "Galaxy Z Fold4" ชนะ "Galaxy S22 Ultra" แน่นอน คือจำนวนกล้องหน้า เพราะด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนพับได้ จึงมีหน้าจอสองจอ คือ จอด้านนอกและจอใหญ่ด้านใน ซึ่งจอด้านในมีกล้องแบบ Under Screen ที่ซ่อนอย่างแนบเนียนอยู่ด้านบนของส่วนจอฝั่งขวา ถ้ามองด้วยตาเปล่าในหน้าจอปกติก็จะเห็น แต่แอปพลิเคชันต่างๆ ก็จะมองไม่เห็นกล้อง ได้หน้าจอเต็มๆ ตา ไม่มีรูกล้องมาบดบัง
ส่วนกล้องหน้าของจอด้านนอก จะเจาะรูมาเหมือนกับใน S22 Ultra ซึ่งคุณภาพของกล้องหน้าไม่ว่าจะจอนอกหรือจอใน ยังด้อยกว่ากล้องหน้าของ S22 Ultra อยู่พอสมควร ตั้งแต่ความละเอียด คือ กล้องของจอนอก 10 MP และจอใน 4 MP ในขณะที่ S22 Ultra มีกล้องหน้าความละเอียด 40 MP พร้อมรูรับแสงกว้างถึง F/2.2
ส่วนฟีเจอร์ต่างๆ ของกล้องหน้าก็เหมือนๆ กัน เช่นเซลฟี่แบบมุมกว้างสำหรับถ่ายพร้อมกันหลายคน หรือฟิลเตอร์ต่างๆ สำหรับเซลฟี่
วิดีโอคุณภาพทั้งคู่
แม้กล้องหลักจะมีความละเอียดแตกต่างกัน แต่สำหรับการถ่ายวิดีโอ ถือว่า "Galaxy Z Fold4" ทำได้ดีมาก ทั้งความละเอียดสูงสุดที่ 8K 24 เฟรมต่อวินาที มั่นใจได้ว่าจะได้วิดีโอที่สมูท คมชัด หรือระบบกันสั่น Super Steady ซึ่งจะใช้ได้กับความละเอียดสูงสุดคือ Full HD 30 เฟรมต่อวินาที ก็ช่วยให้การถ่ายวิดีโอนิ่งมากๆ เพราะระบบกันสั่นนี้ใช้ได้จริง ข้อนี้ถือว่าสูสี กินกันไม่ลง
แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายของสมาร์ทโฟนเรือธงทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกัน และการใช้งานหลักๆ จะคนละแบบ แต่ในแง่กล้องถ่ายภาพซึ่งถือเป็นเรื่องหลักๆ ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมองเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง แน่นอนว่า Galaxy Z Fold4 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูง แค่ลุคผู้บริหารคงไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายเงินไปในแบบที่หลายคนปรามาสว่าก็ได้แค่ความหรู เพราะจริงๆ แล้ว นี่คือสมาร์ทโฟนเรือธงที่คุณภาพกล้องสู้กับตัวเทพได้อย่างไม่น้อยหน้า แพ้กันในบางจุด แต่ไม่ใช่แพ้ขาดลอย ที่สำคัญคุณภาพกล้องทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ จัดอยู่ในสมาร์ทโฟนถ่ายรูปดีมากๆ รุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy Z Fold4
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy Z Fold4
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy Z Fold4