“วราวุธ” บินด่วน ติดตามสถานการณ์คราบน้ำมัน หาดแม่รำพึง จ.ระยอง

“วราวุธ” บินด่วน ติดตามสถานการณ์คราบน้ำมัน หาดแม่รำพึง จ.ระยอง

วราวุธ บินสำรวจตรวจติดตามสถานการณ์คราบน้ำมัน บริเวณหาดเแม่รำพึง และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด พร้อมรับฟังสรุปผลการดำเนินการป้องกัน แก้ไขปัญหา และตรวจเยี่ยมปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมัน ณ บริเวณ "หาดแม่รำพึง" อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

วันนี้ (30 มกราคม 2565) เวลา 10.30 น. นาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) บินสำรวจตรวจติดตามสถานการณ์คราบน้ำมัน บริเวณหาดเแม่รำพึง และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โดยเฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมรับฟังสรุปผลการดำเนินการป้องกัน แก้ไขปัญหา และตรวจเยี่ยมปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมัน ณ บริเวณ หาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

 

โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง (นายอนันต์ นาคนิยม) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพเรือ กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง เครือข่าย ทสม. จ.ระยอง และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ร่วมให้ข้อมูล

นายวราวุธ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ที่หาดแม่รำพึงต้องถือว่าโชคดี ที่กระแสคลื่นลมทำให้ปริมาณ คราบน้ำมัน พัดเข้ามาถึงชายหาดไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ ยังอยู่ในสถานะที่ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าพึ่งเข้าไปในจุดที่พบคราบน้ำมันพัดขึ้นมา เพราะอาจเกิดการปนเปื้อนออกไปสู่พื้นที่อื่นได้

 

และจากสถานการณ์ในตอนนี้ เป้าหมายต่อไปที่เราต้องปกป้องคือ บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ซึ่งมีทั้งหาดทรายและปะการังน้ำตื้น หากคราบน้ำมันเข้าไปถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อทรัพยากรในพื้นที่ได้ จึงได้ขอให้ทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานจากกระทรวงเอง กองทัพเรือ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกันระดมทั้งเรือ และบูมดักคราบน้ำมัน เพื่อทำการป้องกันร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ

นอกจากนี้ ยังได้กำชับสั่งการให้ท่านปลัดกระทรวงฯ ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดชายทะเล และมีอุตสาหกรรมประเภทนี้อยู่ในพื้นที่ ขอให้เข้มงวดกวดขันในการติดตามตรวจสอบการบำรุงรักษาระบบปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาแล้ว นอกจากงบประมาณที่ต้องเสียไปกับการป้องกันแก้ไขสถานการณ์ และความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว ยังต้องมีการติดตามผลกระทบในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง และต้องใช้เวลานานหลายปีในการฟื้นฟูทรัพยากรที่สูญเสียไปให้มีความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา

 

จากนั้น นายวราวุธ ยังได้ให้กำลังใจกำลังพลจากกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่เข้าร่วมปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมัน และทำความสะอาดบริเวณชาย หาดแม่รำพึง พร้อมมอบเงินสนับสนุนการทำงานให้กับเครือข่าย ทสม. จ.ระยอง ที่ได้เข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติการ และเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ จำนวน 200,000 บาท โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณเครือข่ายอาสาสมัคร ทสม. ทุกคนที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานในครั้งนี้ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นแล้วว่าส่งผลกระทบต่อเราทุกคน

 

ดังนั้น จึงขอฝากไปถึงลูก ๆ หลาน ๆ ในพื้นที่ให้มาร่วมกันเป็น อาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของกระทรวงฯ กันให้มาก เพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตา ทำงานร่วมกับกระทรวงฯ ในการดูแลรักษาทรัพยากรในพื้นที่ให้คงความอุดทสมบูรณ์สืบไป