คลิ๊กเลย! ช่องทางช่วยเหลือสำหรับ “ผู้ว่างงาน” จากโควิด-19และน้ำท่วม

คลิ๊กเลย! ช่องทางช่วยเหลือสำหรับ “ผู้ว่างงาน” จากโควิด-19และน้ำท่วม

รวบรวมทุกช่องทางสำหรับการช่วยเหลือ "ผู้ว่างงาน "หรือถูกเลิกจ้าง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และน้ำท่วม

ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาทั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 และน้ำท่วม ทำให้หลายๆ คนเมื่อคลายมาตรการล็อกดาวน์ หรือเปิดเมือง เปิดประเทศแล้วคาดว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้น แต่คงไม่ใช่ หลายคนยังคงตกงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้จะไปหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอย่างไร

วันนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้รวบรวมช่องทางสำหรับ "ผู้ตกงาน ว่างงาน" หรือ "ถูกเลิกจ้าง" ว่าจะมีหน่วยงานไหน? มาตรการใดเยียวยาช่วยเหลือได้

  • สิ่งที่ลูกจ้างควรรู้เมื่อว่างงาน

สิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากประกันสังคมกรณีว่างงาน มีดังนี้ 

-ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน

-มีระยะเวลาการว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป

-ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th) ของสำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลาออกหรือถูกเลิกจ้าง หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างจึงจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานนับแต่วันที่ 8 ของการว่างงาน

-ต้องรายงานตัวตามกำหนดนัดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th) ของสำนักงานจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง

-เป็นผู้มีความสามารถในการทำงาน และพร้อมที่จะทำงานที่เหมาะสมตามที่จัดให้

-ต้องไม่ปฏิเสธการฝึกงาน

-ผู้ที่ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณี มีดังนี้

    1.ทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง

    2.จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

    3.ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณี ร้ายแรง

    4.ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร

    5.ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

    6.ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา

    7.ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ

 

  • เงินทดแทนที่จะได้รับระหว่างว่างงาน

สิทธิที่จะได้รับเงินทดแทนจากประกันสังคมในระหว่างการว่างงาน

1. กรณีถูกเลิกจ้าง  ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงาน ปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 5,000 บาท (รายละเอียดย่อย ตามด้านบน)

2. กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา  ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 3,000 บาท

3. ในกรณียื่นคำขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เพราะเหตุถูกเลิกจ้าง หรือเหตุถูกเลิกจ้างและลาออกหรือ สิ้นสุดสัญญาจ้างเกินกว่า 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนทุกครั้ง รวมกันไม่เกิน 180 วัน แต่ในกรณียื่นขอรับประโยชน์ทดแทน ในกรณีว่างงานเพราะเหตุลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง เกินกว่า 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนรวมกันไม่เกิน 90 วัน

ทั้งนี้ สำหรับลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ จากการสั่งหยุดงาน หรือ Leave without pay ซึ่งบุคคลที่เข้าข่ายมาตรา 33 มีดังนี้

-คนที่ถูกนายจ้างไม่ให้ทำงาน (Leave without pay) หรือถูกสั่งกักตัว 14 วันจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ประกันสังคมจะจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของรายได้ แต่ไม่เกิน 180 วัน

-คนที่ถูกภาครัฐสั่งปิดสถานประกอบการชั่วคราว ประกันสังคมจะจ่ายครึ่งหนึ่งของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 60 วัน

อ่านข่าว : มาตรา 40 ยังไม่ได้เงินเยียวยา แจ้งด่วน 4 ขั้นตอนจากประกันสังคม www.sso.go.th

 

  • ขั้นตอนการขอความช่วยเหลือ

สำหรับขั้นตอนการขอความช่วยเหลือประกันสังคม จากการสั่งหยุดงาน หรือ Leave without pay

- ต้องกรอกเอกสาร 2 เอกสารที่ เว็บไซต์ www.sso.go.th ถึงจะมีผลครบถ้วน

- เอกสารแรก เป็นส่วนลูกจ้างกรอกเอง คือ แบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ ขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน (e-form for unemployment benefit)

- เอกสารที่สอง เป็นนายจ้างกรอก คือ แบบฟอร์มยืนยันการหยุดงานของลูกจ้าง อันเนื่องจากเหตุสุดวิสัย (สำหรับนายจ้าง) ซึ่งเอกสารตัวนี้จะต้องให้นายจ้างเป็นคนเซ็นยืนยันว่า ถูกสั่งให้หยุดงานจริง

เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับสิทธิประโยชน์ หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม ผ่านช่องทาง e-mail, Web board. Live chat และทาง Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน หรือโทร. 1506 (ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง)

สถานที่ยื่นเรื่อง

1. ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน และรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

(เว็บไซต์ www.empui.doc.go.th) ของ สนง.จัดหางานของรัฐ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง และรายงานตัวตามกำหนดนัด เพื่อมิให้เสียสิทธิในการรับเงินทดแทน

2. ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) ได้ที่ สนง.ประกันสังคม กทม.พื้นที่/สนง.ประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้น สนง.ใหญ่ ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน 1694 ในวันและเวลาราชการ 08.30-16.30 น.

หลักฐานและเอกสารที่ต้องใช้

-แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7)

-หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตนออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส. 6-09) กรณีที่ไม่มีสำเนา สปส.6-09 ก็สามารถไปขึ้นทะเบียนกรณีว่างงานได้

-หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี)

-หนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัยกรณีเป็นผู้ประกันตนกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน ดังนี้         

1) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)         

2) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)          

3) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)         

4) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)          

5) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)          

6) ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)         

7) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)          

8) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)          

9) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย         

10) ธนาคารออมสิน        

11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

  • ว่างงานจากน้ำท่วม ได้รับอะไรบ้าง?

น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม ได้ไขข้อสงสัยในรายการสถานีแรงงาน เรื่องลูกจ้างที่ว่างงานจากเหตุน้ำท่วมจะได้รับสิทธิอะไรบ้าง ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย A.M. 1467 KHz สรุปดังนี้

กรณีนี้เคยมีการให้ออกกฏกระทรวงช่วยเหลือลูกจ้างที่ประสบอุทุกภัยน้ำท่วม จ่ายให้ 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 180 วัน โดยสถานที่นายจ้างถูกน้ำท่วม ไม่สามารถเปิดให้ทำงานได้  หรือ บ้านลูกจ้างถูกน้ำท่วม ไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ เป็นกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยจากอุทกภัย

  • เงื่อนไขขอรับเยียวยาว่างงานจากน้ำท่วม

สำหรับเงื่อนไขมี 2 อย่าง คือ ทั้งบ้านถูกน้ำท่วม หรือทั้งบริษัทถูกน้ำท่วม แต่ต้องมี 6 ใน 15 ในการจ่ายเงินสมทบมาแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 6 ใน 15 เดือน ได้กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย และต้องยื่นแบบ สปส.2-01/7   คือ ลูกจ้างยื่น และแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของลูกจ้าง

"เราจะไม่จ่ายเงินล่วงหน้า จะโอนเงินเข้าให้เมื่อครบกำหนด และให้นายจ้างรับรองว่า ไม่สามารถมาทำงานได้กี่วัน ซึ่งจะมีแบบฟอร์มในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม ซึ่งกรณีนี้ยังยื่น อี-เซอร์วิสไม่ได้ ลูกจ้างจะต้องยื่นทางไปรษณีย์ โดยน้ำลดแล้วค่อยเดินทางมายื่น เพราะเราไม่จ่ายเงินล่วงหน้าอยู่แล้ว" น.ส.ลัดดา กล่าว

โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อว่า ส่วนการจ่ายสมทบ 6 ใน 15 เดือน หมายความว่า นับจากวันที่หยุดงาน สมมติว่า เดือนตุลาคม หยุดงานมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม ก็นับย้อนหลังตั้งแต่เดือนกันยายนไป 15 เดือน มีการจ่ายเงินสมทบไม่ต่ำกว่า 6 เดือนหรือไม่ แต่ถ้าทำงานมาโดยตลอด หลังจากนั้น 6 เดือนก็จะสามารถเบิกว่างงานได้ ที่เรากำหนดเช่นนี้ ยกตัวอย่างคนงานก่อสร้าง จะมีการจ่ายเงินสมทบแบบฟันหลอ เดือนนี้มาทำงานก็มีเงินสมทบ เดือนที่ไม่ทำงานก็ไม่มีเงินสมทบ ก็เลยให้นับย้อนหลังไป 15 เดือน

ดาวน์โหลดแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7)

สามารถดาวน์โหลดแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือคลิกที่นี่

เอกสารประกอบการยื่นแบบ สปส.2-01/7

1.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของลูกจ้าง

2.หนังสือรับรองจากนายจ้าง รับรองว่า นายจ้างน้ำท่วม หรือลูกจ้างน้ำท่วม ไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้

สำเนาบัตรประชาชนไม่ต้อง ตอนนี้สำนักงานประกันสังคม ลดการใช้เอกสาร บัตรประชาชนสามารถตรวจสอบจาก เลขประจำตัว 13 หลักที่ขึ้นเป็นผู้ประกันตนอยู่แล้ว

อ้างอิง :สำนักงานประกันสังคม