เปิดตัว'เครือข่ายอาสาเพื่อน กสศ.'รับมือเด็กป่วย-กำพร้าจากโควิด-19
'เครือข่ายอาสาเพื่อน กสศ.'ระดมความร่วมมือภาคเอกชน รับมือเด็กป่วย-กำพร้าจากโควิดพุ่งชี้ยอดเด็กป่วยก้าวกระโดด 2 เท่า กว่า 70% เป็นกลุ่มยากจน เปราะบาง นำร่องพื้นที่สีแดงเข้ม
ด้วยอัตราเร่งของจำนวนผู้ป่วยเด็กและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จึงเร่งระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนภายใต้ 'เครือข่ายอาสาเพื่อน กสศ.' เพื่อทำงานเชิงรุกในการรับมือกับเด็กป่วย-กำพร้าจากโควิด-19
- 'เครือข่ายอาสาเพื่อน กสศ.' ดูแลเด็กป่วยโควิด
ในการสนับสนุน ศูนย์ประสานช่วยเหลือเด็กในภาวะวิกฤติของ กสศ. หนุนเสริมการทำงานของหน่วยงานหลักจากหลากหลายกระทรวง เพื่อให้เด็กกลุ่มเปราะบางได้รับการดูแลช่วยเหลือเร็วที่สุด และสนับสนุนให้ระบบการดูแลช่วยเหลือเด็กสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องในระยะฟื้นฟู โดยเครือข่ายฯ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจ TCP มูลนิธิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย LINE MAN Wongnai ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เป็นต้น
ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่าเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็ก ยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงเดือนจำนวนการติดเชื้อโควิด-19 ของเด็กก้าวกระโดดเกือบ 2 เท่า และมีอัตราการติดเชื้อมากกว่า 2,000 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยจากการรายงานของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่มียอดผู้ป่วยเด็ก (เด็ก แรกเกิด-18 ปี) ติดเชื้อสะสม อยู่ที่ราว 65,000 คน และจากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2564 มีจำนวนเด็กติดเชื้อสะสมจากการรายงานของ ศบค. ที่ 119,814 คน เป็นการติดเชื้อของเด็กใน กทม. สะสม 26,224 คน
ในส่วนภูมิภาคสะสม 93,590 คน โดยจังหวัดที่มียอดเด็กติดเชื้อสะสมสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี สมุทรสาคร และ นนทบุรี ขณะที่จำนวนเด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อแม่จากโควิด-19 ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีจำนวน 350 คนในพื้นที่ 55 จังหวัด
- มอนิเตอร์ ดูแล ส่งยาและอาหารให้กับเด็ก
แม้ว่าความรุนแรงของโรคในเด็กนั้นไม่มาก แต่การรับมือกับปัญหาและผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และการศึกษาของเด็กในระยะยาวนั้นมีความซับซ้อนกว่า ทั้งสุขภาพกาย ใจ สังคม เศรษฐกิจ ปากท้อง โภชนาการ และความเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา โดยในจำนวนนี้ราว 70% เป็นกลุ่มยากจนด้อยโอกาส หรือกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการเฝ้าระวังระยะยาวของอาการที่หลงเหลือจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่องอีกหลายเดือน หรือ Long COVID ไม่ว่าจะเป็น อาการเหนื่อยล้า ปัญหาการหายใจ ปวดศีรษะ และอาการนอนไม่หลับ เป็นต้น
ดร.ไกรยส กล่าวว่า หลังการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ทำให้จำเป็นต้องหาทางรับมือกับวิถีชีวิตภายใต้ความปกติใหม่ (New Normal) สำหรับ กสศ. ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดทำให้ต้องเปลี่ยนมุมมองในการรับมือในการแก้ปัญหา ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การพัฒนาเด็กและการป้องกัน
การจัดตั้งกลไก อาสา กสศ.และ เครือข่ายอาสาเพื่อน กสศ.จึงเป็นหนึ่งในความพยายามหาทางออกที่จะแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะทักษะและความรู้ในการปรับตัวเพื่อปลดล็อคการแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ความรวดเร็วในการตอบสนอง (Speed to Market) ความคล่องตัว (Agility) การบริหารความเป็นเลิศจากฝั่งธุรกิจรวมถึงทักษะในการรับฟัง ความเสียสละ การทำงานในพื้นที่ของอาสา. กสศ. ฯลฯ
“เราจะเห็นสิ่งใหม่ๆที่เกิดจากการระดมทรัพยากรและความร่วมมือที่กลไกเครือข่ายอาสาเพื่อน กสศ. และอาสาฯ กสศ. เข้าไปเติมเต็มหน่วยงานรัฐ ภาคประชาสังคม เช่น ไรเดอร์จาก LINE MAN Wongnai เข้ามาทำหน้าที่ในการส่งยาและอาหารให้กับเด็กที่ต้องกักตัวในกลุ่ม Home Isolation หรือ การเข้ามาสนับสนุนอาสาสมัครของ TCP เพื่อติดตามและมอนิเตอร์ เป็นผู้ช่วยทีมแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ หรือการสนับสนุนถุงการเรียนรู้ นำโรงเรียนไปหาเด็กๆ ในช่วงล็อกดาวน์ของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งทุนสร้างโอกาสทางการศึกษาเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ในระยะฟื้นฟู เป็นต้น” ดร.ไกรยศ กล่าว
- ภาคเอกชนหนุนรับดูแลเด็กป่วย เด็กกำพร้า
น.ส.นุชรี อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า วิกฤตจากโควิด-19 ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ณ ขณะนี้รุนแรงถึงที่สุด และคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือเด็กกลุ่มเปราะบาง เรื่องด่วนที่กลุ่มธุรกิจ TCP จะเข้าไปดูแลร่วมกับ กสศ. คือ การดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ เพื่อให้พวกเขาปลอดภัยและอยู่ในสภาพที่พร้อมเรียนรู้ รวมทั้งมีทุนทรัพย์พอที่จะได้เรียนหนังสือต่อโดยไม่ต้องออกจากระบบกลางคัน โดยให้ความช่วยเหลือผ่านโครงการ "กลไกอาสาสมัครคุณภาพ" และโครงการ "ทุนสานฝันการศึกษาเพื่อน้อง" ที่ดูแลทั้งสุขภาพและทุนทรัพย์ไปพร้อมกัน
กลุ่มธุรกิจ TCP จึงสานพลัง กสศ. ช่วยเหลือเด็กๆ กลุ่มเป้าหมายระยะเร่งด่วน ผ่านการระดมทุนสนับสนุนโครงการสนับสนุนกลไกอาสาสมัครคุณภาพ ให้แก่อาสา กสศ. จำนวน 100 คนๆ ละ 400 บาท รวมงบประมาณ 1.2 ล้านบาท เป็นต้น
นางลดาวัลย์ กันทวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในระยะต้น มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญต่อการช่วยเหลือให้เด็กและครอบครัวได้รับการดูแลเร็วที่สุด ผ่านการสนับสนุนจิตอาสาที่ทำงานด่านหน้า ถ้าไม่มีครูอาสา จิตอาสา ก็จะไม่มีใครในพื้นที่ดูแลเด็ก จึงต้องช่วยเหลือต่อเนื่องไม่ให้พวกเขาหมดแรงเสียก่อน ระยะถัดมา คือการยกระดับคุณภาพชีวิตหลังจากที่หายป่วยแล้ว และงานเชิงป้องกันหรือฟื้นฟูเพื่อให้เด็กได้รับการศึกษา ที่จำเป็นต้องพึ่งพานวัตกรรมเพื่อช่วยเรื่องการเรียนรู้ให้เด็กกลุ่มเปราะบาง รวมถึงสนับสนุนให้ครอบครัวมีรายได้ที่ยั่งยืน
นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า ถือเป็นความร่วมมือที่มีประโยชน์และได้ช่วยเหลือเด็กกลุ่มเปราะบางได้อย่างตรงจุด ที่ผ่านมา LINE MAN เป็นแพลตฟอร์มออนดีมานด์ที่ให้บริการด้านการขนส่งทั้งอาหารและสิ่งของ โดยมีไรเดอร์กระจายตัวทุกพื้นที่
รวมทั้งได้อุดหนุนร้านค้าที่ถูกล็อกดาวน์ เพื่อนำอาหารไปส่งต่อให้กับชุมชนที่ขาดแคลน เช่น พื้นที่คลองเตย หรือไปส่งยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับพื้นที่ที่จัด Home Isolation ในยามวิกฤตินี้ เราจะไม่นิ่งเฉยและยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหา โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลที่ ตรงจุด และรวดเร็ว ซึ่งบริการของเราตอบโจทย์นี้ และเมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกันปิดช่องว่าง จะช่วยให้วิกฤตนี้คลี่คลายโดยเร็ว