เชื้อไวรัส RSV เริ่มระบาด ภัยร้ายคล้ายโควิด-19 เช็กอาการ-กลุ่มเสี่ยงสูง
เผย เชื้อไวรัส RSV เริ่มมีการระบาดอีก ผู้ปกครองอย่าลืมสังเกตอาการของลูกหลานให้ดีๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ขวบ ซึ่งวิธีติดเชื้อจะมีลักษณะคล้ายๆกับ โควิด-19
"หมอแล็บแพนด้า" เผย เชื้อไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เริ่มมีการระบาดอีก ผู้ปกครองอย่าลืมสังเกตอาการของลูกหลานให้ดีๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ขวบ ซึ่งวิธีติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะมีลักษณะคล้ายๆกับ โควิด-19
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภัยร้าย RSV มาแรงแซงโค้ง COVID
- โรค 'RSV' คืออะไร มีอาการแบบไหน ป้องกันได้ยังไงบ้าง?
เชื้อไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus โดยไวรัสตัวนี้ใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 3-6 วันหลังจากที่เราได้รับเชื้อ อาการมันจะคล้ายกับไข้หวัดมาก ไหนจะใกล้เคียงกับพวกโควิด-19 เข้าไปอีก เช่น ไอ จาม มีเสมหะมากๆ หายใจเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงวี้ดๆๆ (Wheezing) ไอ้เสียงวี้ดๆนี่แหละ เราต้องเอะใจแล้ว เพราะเป็นตัวบอกอย่างนึงว่าเด็กหลอดลมตีบ
RSV มันจะทำให้หลอดลมตีบบวม ก็เลยทำให้เด็กหายใจหอบเหนื่อย ต้องหายใจเร็วและแรง ใช้กล้ามเนื้อกระบังลมช่วยหายใจ มีสารคัดหลั่งในหลอดลมมาก จนอาจอุดหลอดลม เด็กบางคนต้องใช้วิธีการดูดเสมหะช่วย หรือซ้ำร้ายกว่านั้นต้องให้ออกซิเจน หรือใส่ท่อช่วยหายใจกันเลยทีเดียว
วิธีการติดเชื้อคล้ายๆโควิด ติดต่อผ่านทางการ ไอ จาม สัมผัสสารคัดหลั่ง และยังไม่มีวัคซีน ขนาดเราป้องกันลูกหลานดีที่สุดแต่ก็ยั้งจะระบาดได้ เพราะเด็กก็คือเด็ก เด็กชอบเล่นคลุกคลีกับเพื่อน เอามือจับหน้าจับตา แคะขี้มูก ไม่ค่อยระมัดระวังเท่าไหร่
พยายามให้เด็กๆ ล้างมือให้สะอาด จะได้ป้องกันการติดต่อทางการสัมผัส ใส่หน้ากากอนามัย ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของที่ใช้ร่วมกันให้สะอาดอยู่เสมอ
คนในบ้านถ้าไอ จาม ให้ใส่หน้ากากอนามัย และก่อนจะจับหรืออุ้มเด็กควรล้างมือก่อนเสมอนะครับ
สำหรับ RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้ร่างกายผลิตเสมหะออกมาจำนวนมาก ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ มักจะก่อให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็ก และระบาดหนักในช่วงปลายฝนต้นหนาว
ไวรัส RSV กระจายอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อมชีวิตประจำวัน แต่หากร่างกายอ่อนแอและอยู่ในช่วงฤดูกาลเปลี่ยนผ่าน อากาศเปลี่ยนแปลง ร่างกายก็สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้ง่ายขึ้น
วิธีป้องกัน
พ่อแม่ ต้องหมั่นรักษาความสะอาดให้ลูก เช่น หมั่นล้างมือตัวเองและลูกน้อยบ่อยๆ เพราะการล้างมือสามารถลดเชื้อที่ติดมากับมือทุกชนิดได้ถึง 70%
นอกจากนี้ยังควรให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจากภายใน ให้ลูกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะครบ 5 หมู่ และให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายในอากาศที่ถ่ายเท ไม่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงลดโอกาสในการติดเชื้อได้
ข้อมูลประกอบจากเพจ "หมอแล็บแพนด้า"