คนกรุงอยากได้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ “แก้ปัญหาทางเท้า” เร่งด่วนที่สุด

คนกรุงอยากได้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ “แก้ปัญหาทางเท้า” เร่งด่วนที่สุด

"เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม." ใกล้เข้ามาแล้ว ตามไปดูผลการสำรวจบนโลกโซเชียลสะท้อน 10 ปัญหาหลักของ กทม. ที่คนกรุงเทพฯ ต้องการให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่แก้ไขอย่างเร่งด่วนอันดับหนึ่งคือ “แก้ปัญหาทางเท้า”

จากการใช้ Social Listening โดย บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด ร่วมเกาะติดสถานการณ์การเลือกตั้งโดยรายงานข้อมูลผ่านโครงการ “ชีพจรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 65” ทุกสัปดาห์

ล่าสุดจากผลสำรวจเสียงสะท้อนจากบทสนทนาในโลกออนไลน์ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 7 เม.ย. 2565 พบว่า 10 อันดับปัญหาเรื้อรังที่คนกทม. ต้องการให้ "ผู้ว่าฯ กทม." คนใหม่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

โดยการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในโซเชียลมีเดียครั้งนี้ไม่ได้ระบุพื้นที่ผู้ใช้งานและเก็บข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น twitter, facebook, website, youtube, Instagram เป็นต้น

พบว่ามีการพูดถึงปัญหาที่อยากให้ "ผู้ว่าฯ กทม." แก้ไข มากถึง 185,398 ข้อความ ซึ่ง 10 อันดับแรกที่คนกทม. ต้องการให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่เข้ามาแก้ปัญหา มีดังนี้

อันดับที่ 1 ปัญหาถนนและทางเท้าชำรุด จำนวน 97,875 ข้อความ (เฉลี่ย 52.80%)

พบว่าส่วนใหญ่ถนนและทางเท้ามีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่เรียบ มีลักษณะเป็นลูกคลื่น และพบฝาท่อระบายน้ำแตก

โดยไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาครบทุกจุด ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ และสร้างความยากลำบากให้กับผู้ที่สัญจรไปมาในชีวิตประจำวัน

อันดับที่ 2 ปัญหาน้ำท่วมขัง จำนวน 20,286 ข้อความ (เฉลี่ย 10.94%)

ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดแคลนระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ และปัญหาเศษขยะอุดตันช่องทางระบายน้ำต่าง ๆ

อันดับที่ 3 ปัญหาความปลอดภัยบนทางม้าลาย จำนวน 16,864 ข้อความ (เฉลี่ย 9.10%)

ส่วนใหญ่เกิดจากผู้ใช้รถไม่หยุดรถเพื่อรอให้คนข้ามทางม้าลายอย่างปลอดภัย และทางม้าลายมีสภาพไม่ชัดเจน สีซีด อาจทำให้ผู้ขับขี่พลาดมองไม่เห็นในบางครั้ง

อันดับ 4 ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษอื่น จำนวน 15,933 ข้อความ (เฉลี่ย 8.59%)

ส่วนใหญ่เกิดจากควันและไอเสียจากยานพาหนะ รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม และสภาพอากาศที่อาจพัดนำฝุ่นพิษมาจากประเทศข้างเคียง

อันดับที่ 5 ปัญหาพื้นที่สีเขียวน้อย จำนวน 10,399 ข้อความ (เฉลี่ย 5.61 %)

ส่วนใหญ่เกิดจากประชาชนมองเห็นความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงต้องการบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศ

และประชาชนเริ่มหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ประชาชนจึงมองว่าพื้นที่สีเขียว เช่น สวนสาธารณะและการปลูกต้นไม้ในกรุงเทพฯ มีจำนวนน้อย แต่กลับมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชนมากขึ้น

อันดับที่ 6 ปัญหากล้องวงจรปิดและไฟส่องสว่างไม่ทั่วถึง จำนวน 8,928 ข้อความ (เฉลี่ย 4.82 %)

การขาดแคลนกล้องวงจรปิดในบางพื้นที่และการขาดแคลนกล้องวงจรปิดที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความปลอดภัยของประชาชนลดลง

โดยเฉพาะการเรียกร้องความเป็นธรรมในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

และการขาดแคลนไฟส่องสว่างในบางพื้นที่ได้เพิ่มโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นด้วย

อันดับที่ 7 ปัญหาค่าครองชีพสูง จำนวน 8,146 ข้อความ (เฉลี่ย 4.39 %)

ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โควิด และปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับค่าแรงของประชาชนที่ยังคงที่โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ

อันดับที่ 8 ปัญหาการจราจรติดขัด จำนวน 3,655 ข้อความ (เฉลี่ย 1.97 %)

เกิดจากประชาชนจอดรถอย่างไม่ถูกต้องบริเวณริมถนน ในช่วงเทศกาลพบปัญหาจราจรติดขัดอย่างหนัก

นอกจากนี้การเกิดอุบัติเหตุเป็นอีกหนึ่งเหตุผลทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะเวลาหนึ่ง การก่อสร้างรถไฟฟ้า และการซ่อมแซมถนนส่งผลทำให้การจราจรติดขัดในระยะยาว

อันดับที่ 9 ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลอง จำนวน 2,155 ข้อความ (เฉลี่ย 1.16 %)

ส่วนมากเกิดจากการทิ้งขยะลงคลอง โดยที่ทางกรุงเทพฯ ไม่มีมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงคลองที่มีน้ำเน่าเสียในบางพื้นที่กลับถูกเพิกเฉย โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขปัญหา

อันดับที่ 10 ปัญหาหาบเร่ แผงลอยกีดขวางทางสัญจร จำนวน 1,157 ข้อความ (เฉลี่ย 0.62 %)

ส่วนใหญ่เกิดจากพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านในสถานที่ ๆ ไม่ได้รับอนุญาต หรือเกินขอบเขตที่กำหนดไว้ โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาควบคุม

ทำให้ทางเท้ามีพื้นที่สัญจรให้กับประชาชนน้อยลงทำให้ต้องลงมาเดินบนพื้นถนนก่อให้เกิดอันตรายจากรถที่สัญจรไปมา นอกจากนี้บางร้านค้าทิ้งขยะไม่ถูกต้อง สร้างความสกปรกให้กับพื้นที่

สำหรับ Social Listening เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งที่คนทำงานด้านการตลาดดิจิทัลนำมาใช้เพื่อบริหารจัดการข้อมูล และสามารถนำใช้เพื่อรับฟังเสียงของผู้คนในโซเชียลมีเดียที่อยู่ในหลากหลายแพลตฟอร์ม

โดยการนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ จะทำให้เห็นเสียงสะท้อนในโซเชียลมีเดีย ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวผู้สมัคร บุคลิก ความคิด นโยบาย รวมถึงการสะท้อนปัญหาที่ควรรีบแก้ไขได้อีกด้วย