LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มรุกเทิร์นคีย์-รีโนเวทสร้างรายได้เสริมแกร่ง

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มรุกเทิร์นคีย์-รีโนเวทสร้างรายได้เสริมแกร่ง

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มลดต้นทุน ขยายฐานลูกค้ากลางเล็กพร้อมรุกเทิร์นคีย์ เจ้าของที่ต้องการพัฒนาโครงการอสังหาฯ-รีโนเวทตึกเก่าในกรุงเทพฯหวังสร้างรายได้เสริมแกร่ง

KEY

POINTS

  • แนวโน้มค่าแรงสูง ขาดแคลนแรงงาน
  • ดึงแพลตฟอร์มช่วยลดต้นทุน ขยายฐานลูกค้ากลางเล็ก
  • ลุยรีโนเวทตึกเก่า รับเทิร์นคีย์จ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มลดต้นทุน ขยายฐานลูกค้ากลางเล็กพร้อมรุกเทิร์นคีย์ เจ้าของที่ต้องการพัฒนาโครงการอสังหาฯ-รีโนเวทตึกเก่าในกรุงเทพฯหวังสร้างรายได้เสริมแกร่ง

สมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP  บริษัทลูกบริษัทแอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN    กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจมา32ปี  และสปินออฟจากบริษัทแม่เมื่อปี2564เพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี2567 โดยเตรียมที่จะยื่นไฟลิ่งในเดือนเม.ย. นี้

"ถึงเวลาที่LPPจะเติบโตด้วยการยืนบนขาของตนเอง โดยรับบริหารอาคารนอกเครือและขยายธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง" 

จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแอล พี พีในธุรกิจด้านบริหาร “นิติบุคคล”มานานทำได้รับความเชื่อถือในคุณภาพและบริการแบบ“บอกต่อปากต่อปาก ”หรือ Word-of-Mouth ปัจจุบันบริหารโครงการจำนวน 261 โครงการ 60% เป็นโครงการของLPN ส่วนที่เหลือ40% เป็นโครงการนอกเครือLPN มีลูกบ้านกว่า400,000ราย บนพื้นที่กว่า 11 ล้านตร.ม.

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มรุกเทิร์นคีย์-รีโนเวทสร้างรายได้เสริมแกร่ง "90% ของลูกค้าโครงการยังคงใช้งานบริการของแอล พี พี  และ 80%มีการต่อสัญญาใช้บริการนานถึง 5ปี โดยสัญญาที่รับงานบริหารนิติบุคคลอาคารชุดตั้งแต่ 1-3 ปี "


โดยในปี2566ที่ผ่านมาจากรายได้ 1,562ล้านบาท     65%  มาจาก บริษัท  แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้  มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) มาจากธุรกิจบริหารชุมชน ซึ่งเป็นรายได้หลัก 20%  มาจาก  บริษัท  แอล พี เอส โปรเจค  มาเนจเมนท์ จำกัด  (LPS) มาจากธุรกิจบริการงานวิศวกรรม และ15%  มาจาก  บริษัท  รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส  โซลูชั่นส์  จำกัด (LSS) ธุรกิจบริการ รปภ. และ แม่บ้าน 
 

"แต่ละปีเรามีลูกค้าเข้ามา20-30 โครงการต้องเพิ่มจำนวนแรงงานทำให้ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่สามารถที่รับงานบริหารโครงการขนาดกลางเล็กได้"

ประกอบกับแนวโน้มการ“ขาดแคลนแรงงาน”เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากคนเกิดน้อยลง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงลงทุนพัฒนา“แพลตฟอร์ม”เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลกลางที่นำมาใช้บริหารงาน“นิติบุคคล” เหมือนในสิงคโปร์, ฮ่องกง ที่มีการนำมาใช้มา10ปีมาแล้วสามารถลดจำนวนบุคลากรเหลือแค่1 คนต่อโครงการ

ในปีนี้จะเริ่มนำแพลตฟอร์มที่พัฒนามาใช้บริหารจัดการโครงการขนาดที่มีจำนวนไม่เกิน300ยูนิตนำร่องเพราะสามารถ“ลดต้นทุน”ค่าใช้จ่ายสามารถขยายการให้บริการกับโครงการขนาดกลางและเล็กได้ ถือเป็นการพัฒนาระบบให้ทันกับไลฟ์ของคนที่เปลี่ยนไป ด้วยเพราะแพลตฟอร์มที่สามารถให้บริการได้ตลาด24ชั่วโมงใน7วัน

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มรุกเทิร์นคีย์-รีโนเวทสร้างรายได้เสริมแกร่ง

 นอกจากนี้ LPP ขยายจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มือสองไปยัง อสังหาฯมือหนึ่งทั้งโครงการในเครือLPNและนอกเครือ ในรูปแบบของบริหารงานขายและการตลาดแบบครบวงจร (Sole Agent) ประเดิมโครงการแรก MIDTOWN เพชรเกษม – สาทร ในรูปแบบทาวน์โฮม 3 และ 4 ชั้น จำนวน 49 ยูนิต รวมทั้งขยายรับงานบริหารจัดการไปยังจังหวัดหัวเมืองที่บริษัทแม่ LPN ได้เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ อาทิ  ชลบุรี อุดรธานี หัวหิน เป็นต้น 

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มรุกเทิร์นคีย์-รีโนเวทสร้างรายได้เสริมแกร่ง

ขณะเดียวกันในส่วนของ แอล พี เอส โปรเจค  มาเนจเมนท์  (LPS) เน้นธุรกิจบริการทาง“วิศวกรรม”เพื่อให้บริการแก่เจ้าของที่ต้องการพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ในรูปแบบของการ“ เทิร์นคีย์ ”แบบครบวงจร รวมทั้งการรับ“รีโนเวท”อาคารสูงในกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีของการสร้างรายได้เพิ่ม ในอนาคตสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจกลุ่มมากขึ้นที่สำคัญ “ต้นทุนต่ำแต่มาร์จินสูง”  ในอนาคตมีความเป็นได้ที่จะนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์

"จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวในปี2567  จะมีรายได้1,880 ล้านบาท เติบโตขึ้น20% และคาดว่าสามารถสร้างรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 2,545 ล้านบาท ภายในปี 2569 "

สำหรับในปี 2566 ที่ผ่านมากลุ่ม LPP ได้ขยายธุรกิจบริการในกลุ่มด้วยการเข้าถือหุ้น 60% ในบริษัทพี ดับบลิว กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านงานวางระบบสุขาภิบาล ระบบท่อประปา ระบบท่อปรับอากาศ  และได้ขยายขอบเขตงานบริหารชุมชน

รวมทั้ง Synergy ของงานบริการ ด้วยการเข้าไปลงทุนในโครงการ U-Center เพื่อปรับปรุงอาคารหอพัก บริหารจัดการหอพักและการปล่อยเช่าของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ สัญญา 8 ปี โดยได้เปิดให้นักศึกษาเช่าแล้วตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งมีอัตราการเข้าพักถึง 90% ในอนาคตเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสัมปทานการบริหารจัดการหอพักในมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น

LPP ทรานฟอร์มสู่แพลตฟอร์มรุกเทิร์นคีย์-รีโนเวทสร้างรายได้เสริมแกร่ง

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัทซลีปชาร์จ จำกัด ขยายโซลูชั่นด้านบริการจุดชาร์จรถ EV สำหรับคอนโดมิเนียม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านที่ LPP ดูแล  โดยปีที่ผ่านมาได้ติดตั้งไปแล้ว 8 โครงการ หรือ 16 เครื่องชาร์จ และจะเพิ่มเป็น 100 ล่าสุดบริษัทกำลังจัดตั้งศูนย์ Emergency รองรับงานรักษาความปลอดภัย ที่สามารรุเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ทุกโครงการที่บริษัทรับบริหารตลอด 24 ชั่วโมง